โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

5 แนวทางป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ที่องค์กรต้องรู้ในยุค AI

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 01 ก.ย เวลา 02.45 น. • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

ล่าสุดในปี 2567 ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยทั่วโลกในการจัดการเหตุการรั่วไหลของข้อมูล Data Breach พุ่งสูงถึง 4.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า ดังนั้น การปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยจึงไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนเพื่อความอยู่รอดขององค์กร

โดยศูนย์เฝ้าระวังการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล - PDPC Eagle Eye อัปเดต 5 แนวทางป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล (Data Breach) ความปลอดภัยไซเบอร์ที่องค์กรต้องรู้ในยุค AI

1.พัฒนา Security Awareness Training การฝึกอบรมสร้างความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยจะช่วยให้พนักงานสามารถรับมือกับภัยคุกคาม Data Breach ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น. ปัจจุบัน การโจมตีไม่ได้มุ่งเป้าที่ระบบเพียงอย่างเดียว แต่เน้นใช้หลักจิตวิทยาเพื่อหลอกลวง "คน" เนื่องจาก 74% ของการรั่วไหลของข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวข้องกับปัจจัยมนุษย์ ภัยคุกคามอย่างฟิชชิง (Phishing) และวิศวกรรมสังคม (Social Engineering) มีความซับซ้อนสูงขึ้นจากการใช้ Generative AI และเทคโนโลยี Deepfake ในการปลอมแปลงเสียงและวิดีโอเพื่อหลอกลวงพนักงาน

มีรายงานว่าอีเมลฟิชชิงกว่า 82.6% ใช้เทคโนโลยี AI ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ดังนั้น การฝึกอบรมพนักงานอย่างสม่ำเสมอ และจัดให้มีการทดสอบฟิชชิง (Phishing Simulation) จะเป็นเกราะป้องกันด่านสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดของมนุษย์ (Human Error)

2.จัดทำ Incident Response Plan แผนรับมือตอบสนองต่อเหตุการณ์ (Incident Response Plan) ที่ชัดเจน ตั้งแต่การตรวจจับไปจนถึงการแก้ไขเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว จะช่วยป้องกันและรับมือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการรั่วไหลของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรที่มีทีมรับมือเหตุการณ์และมีการทดสอบแผนอย่างสม่ำเสมอสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 248,000 ดอลลาร์สหรัฐโดยเฉลี่ย แผนดังกล่าวควรรวมถึงขั้นตอนการยับยั้งการโจมตี, การประเมินผลกระทบ, การแจ้งผู้ที่ได้รับผลกระทบและหน่วยงานกำกับดูแล ไปจนถึงการวิเคราะห์หลังเกิดเหตุเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น

3.เพิ่มความปลอดภัยของเครือข่าย ควรมีการใช้ Firewall รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายที่ทันสมัย เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในองค์กรได้ทุกเมื่อ ระบบความปลอดภัยแบบดั้งเดิมอาจไม่เพียงพอต่อการรับมือภัยคุกคามที่ขับเคลื่อนด้วย AI องค์กรควรพิจารณาใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น Endpoint Detection and Response (EDR) และ Extended Detection and Response (XDR) ที่ใช้ AI เข้ามาช่วยตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (Multi-Factor Authentication: MFA) ยังคงเป็นมาตรการพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก 86% ของการรั่วไหลของข้อมูลเกิดจากการใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมยไป

4.เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล ควรมีการกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลอย่างเคร่งครัด (Access Control) เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนถูกเข้าถึงได้โดยง่าย การจำกัดสิทธิ์ให้พนักงานเข้าถึงข้อมูลได้เฉพาะส่วนที่จำเป็นต่อการทำงาน (Principle of Least Privilege) จะช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อมูลรั่วไหล นอกจากนี้ การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) ทั้งในระหว่างการจัดเก็บและระหว่างการส่งผ่าน เป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่จะช่วยปกป้องข้อมูล แม้ว่าข้อมูลนั้นจะตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดีก็ตาม

5.ปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO/IEC 27001 และ PDPA มาตรฐานการจัดการความปลอดภัยของข้อมูลและกฎหมาย PDPA จะช่วยควบคุมความเสี่ยงและทำให้การจัดการข้อมูลมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ISO/IEC 27001 เป็นกรอบการทำงานที่ช่วยให้องค์กรสามารถระบุ ประเมิน และจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งรวมถึงการมีแผนรับมือการรั่วไหลของข้อมูลที่ชัดเจน การปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ไม่ใช่แค่เรื่องของข้อกฎหมาย แต่ยังเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นจากลูกค้าและคู่ค้า ซึ่งการมีมาตรฐานอย่าง ISO 27001 จะช่วยสนับสนุนการปฏิบัติตาม PDPA ได้เป็นอย่างดี

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...