‘ชูวิทย์’ ชี้พรรคส้มเสียงแตก เพราะเคยด่า ‘อนุทิน’ ไร้ฝีมือ คอร์รัปชั่น แถมเห็นหน้าครม. จะหนาวสะท้านไปถึงทรวงอก
2 ก.ย.2568- นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความว่าพรรคประชาชนเสียงแตก
.
ความหลากหลายของพรรคประชาชน ทำให้เสียงแตกดังโพล๊ะอย่างไม่เกินความคาดหมาย
.
เพราะพลพรรคประชาชนนั้นเป็น “คนรุ่นใหม่” ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง แตกต่างจากพรรคการเมืองยุคเก่า
.
เมื่อถึงคราวที่พรรคประชาชนจะต้องไปพายเรือโหวตให้อนุทินเป็นนายกฯ จึงไม่ได้ง่ายเหมือนพรรคอื่นๆ ที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้
.
วงในของพรรคประชาชนบอกว่า ทำใจไม่ได้กับการโหวตให้อนุทินเป็นนายกฯ
.
ยิ่งเห็นอนุทินจับมือกับแต่ละคนบนเวที ให้เป็นรัฐมนตรีเสวยอำนาจ
.
พรรคประชาชนจะบอกว่า “ไม่เกี่ยว“ เพราะเป็นฝ่ายค้านคงไม่ได้
.
ที่สำคัญ ส.ส. แต่ละคนของพรรค
.
“จะไปตอบประชาชนยังไง?“
.
ในเมื่อเพิ่งด่าว่าไร้ฝีมือ มีการทุจริตคอร์รัปชั่น แต่กลับไปโหวตให้หน้าตาเฉย
.
คาดได้ว่าคะแนนครั้งหน้าคงลงคลอง
.
เพราะเป็นเสมือนการ “ตีเช็คเปล่า เซ็นชื่อแล้วให้อนุทินเป็นนายกฯ กรอกตัวเลข”
.
ถึงเวลาอนุทินจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีชุดใหม่ เห็นหน้าแต่ละคนแล้วก็หนาวสะท้านไปถึงทรวงอก
.
อนุทินต้องตอบแทนบุญคุณทางการเมือง ให้ “พรรคกล้าหัก“ เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย
.
พรรคประชาชนจึงต้องรับผิดชอบไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่พ้น เพราะเป็นคนโหวตให้เองกับมือ
.
พรรคประชาชนจะโหวตให้ใคร เป็นเรื่องของพรรค
.
แต่คนที่เลือกพรรคอย่างผม ก็มีสิทธิวิจารณ์ เพราะไปเลือกมา
.
จุดยืนเป็นฝ่ายค้านมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
.
ใครจะจัดรัฐบาลไม่ใช่เรื่องของพรรคประชาชนที่เป็นฝ่ายค้าน เพราะตัวเองไม่ได้เข้าร่วม
.
นี่เป็นระบอบประชาธิปไตยสากลทั่วโลก
.
มันไม่มีที่ไหน โหวตให้ แต่ตัวเองขอเป็นฝ่ายค้านต่อไป แล้วรอ 4 เดือนให้ยุบสภา
.
หากไม่ยุบจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ
.
ทำไปทำไมไม่ทราบ?
.
หากมีอะไรเกิดขึ้น ไม่ว่าเงื่อนไขต่างๆ ที่ตั้งไว้ทำไม่ได้ขึ้นมา หรือบรรดานักการเมืองเขี้ยวลากดินก่อเรื่องขึ้น
.
พรรคประชาชนจะกลายเป็นผู้รับผิดชอบทันที ในฐานะเป็นนั่งร้านให้
.
อย่าไปทำการเมืองแบบนี้
.
เขาเรียกว่า “เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกไปแขวนคอ”