"วิว” กุลวุฒิ ยอดนักสู้ผู้สร้างประวัติศาสตร์ 3 เหรียญโลก

ต้องบอกก่อนเลยว่า ก่อนมาป้องกันแชมป์โลกในครั้งนี้ เป็นปีทองของเขาอย่างแท้จริงในปี 2025 ก่อนหน้าที่จะเดินทางไปแข่งขันชิงแชมป์โลก 2025 ที่กรุงปารีส ในหนนี้

ฟอร์มการเล่นของเขาถือว่าร้อนแรงและน่าจับตามองอย่างมาก โดยสามารถกวาดแชมป์มาแล้วถึง 3 รายการใหญ่ ซึ่งทำให้เขาไต่อันดับขึ้นไปถึงมือวางอันดับ 2 ของโลกได้อย่างน่าภาคภูมิใจ

ผลงานสำคัญของ "วิว" กุลวุฒิ ในปี 2025 ก่อนศึกชิงแชมป์โลก:

- แชมป์อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2025 (เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500): แสดงความแข็งแกร่งด้วยการเอาชนะคู่แข่งคนสำคัญอย่าง โจนาธาน คริสตี้ ในรอบชิงชนะเลิศ

- แชมป์ชิงแชมป์เอเชีย 2025 : สร้างประวัติศาสตร์ให้กับแบดมินตันชายเดี่ยวไทยอีกครั้ง ด้วยการคว้าแชมป์ในรายการชิงแชมป์ระดับทวีป

- แชมป์โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025 (เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500): คว้าแชมป์ในบ้านเกิดต่อหน้าแฟนๆ ด้วยการเอาชนะคู่ปรับคนสำคัญอย่าง แอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น ในรอบชิงชนะเลิศ

แม้ในช่วงก่อนศึกชิงแชมป์โลกไม่นาน "วิว" จะพลาดท่าตกรอบ 8 คนสุดท้ายในรายการ ไชน่า โอเพ่น 2025 และตกรอบแรกในศึกเจแปน โอเพ่น 2025 ทำให้หล่นจากตำแหน่งมือ 1 ของโลกมาอยู่ที่อันดับ 3 ของโลก แต่วิว ก็ไม่ได่้กดดันเหมือนช่วงที่ครองมือ 1 ของโลกอย่างแน่นอน

แต่ฟอร์มโดยรวมของเขาในปีนี้ก็ยังคงยอดเยี่ยมและสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความพร้อมและศักยภาพของเขาที่จะเข้าต่อสู้ในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปีอย่างศึกชิงแชมป์โลก 2025 ได้อย่างเต็มที่

ในรอบชิงชนะเลิศกับ ฉี ยู่ฉี มืออันดับ 1 ของโลกจากจีน บทพิสูจน์ความแข็งแกร่งเริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด วิว สามารถพลิกสถานการณ์ในเกมแรกที่ตามหลังอยู่ 11-18 กลับมาปิดเกมไปได้อย่างน่าทึ่งด้วยคะแนน 21-19 สร้างความหวังให้กับแฟนๆ ทั่วประเทศที่กำลังลุ้นอยู่หน้าจอ

อย่างไรก็ตาม ฉี ยู่ฉี ก็แสดงให้เห็นถึงความเก๋าและเด็ดขาด เขาปรับแผนการเล่นและกลับมาเอาชนะไปได้อย่างง่ายดายในเกมที่สองด้วยคะแนน 21-10

ในเกมตัดสิน แม้ วิว จะพยายามสู้สุดกำลัง แต่การเล่นที่แม่นยำและดุดันของ ฉี ยู่ฉี ก็เป็นฝ่ายที่เหนือกว่าในที่สุด ทำให้ วิว พ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย 18-21 และต้องยอมรับตำแหน่งรองแชมป์

การได้รองแชมป์ในครั้งนี้ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของ วิว กุลวุฒิ เพราะมันคือการสร้างสถิติใหม่ให้กับวงการแบดมินตันไทย ด้วยการคว้าเหรียญรางวัลในศึกชิงแชมป์โลกได้เป็นสมัยที่ 3 ต่อจากเหรียญเงินในปี 2022 และเหรียญทองในปี 2023 ซึ่งเป็นการยืนยันความสามารถของเขาในระดับโลก

ฟอร์มการเล่นของ วิว ในรายการนี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ต่อเนื่องและความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้

ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้เขาเป็นที่รักของแฟนๆ และเป็นแบบอย่างให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ทุกคน ความสำเร็จในครั้งนี้ยังมาพร้อมกับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติจำนวน 1,000,000 บาท ซึ่งเป็นรางวัลแห่งความทุ่มเทและการฝึกซ้อมอย่างหนักของเขา

วิว กุลวุฒิ เผยหลังจากกลับมาถึงไทยว่า "รู้สึกดีใจที่สามารถผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ ถือว่าเป็นผลงานที่ดีและทำได้ดีที่สุดแล้ว แม้ว่าจะเสียดายที่ในรอบชิงฯ ยังนิ่งไม่พอ"

แต่ผลงานตรงนี้ก็ถือว่าเกินเป้ามากๆ เพราะก่อนเดินทางไปถ้าใครที่ดูแบดมินตันจะเห็นว่าฟอร์มยังไม่ดีเท่าไหร่ ก็มีความกังวลว่าจะตกรอบแรกๆ เหมือนกัน แต่พอถึงรอบชิงชนะเลิศได้ก็ถือว่าทำเต็มที่แล้วครับ"

ในส่วนของจังหวะที่พูดคุยกับ ฉี ยู่ฉี ระหว่างการแข่งขันนั้น วิว กุลวุฒิ เล่าว่า "ก็คุยกันเฉยๆ ครับ และตอนจบเกมก็แสดงความยินดี เพราะฉี ยู่ฉี เป็นนักกีฬาที่สุภาพ และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันครับ"

หลังจากนี้ กุลวุฒิ จะกลับไปฟื้นฟูสภาพร่างกายก่อน โดยรายการต่อไปที่จะลงเล่นคือรายการ “หลี่นิง ไชน่า มาสเตอร์ 2025” ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ที่เมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 16-21 กันยายนนี้

สำหรับรายการซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปีนี้ เจ้าตัวเผยว่า "จะลงช่วยทีมลุ้นเหรียญในประเภททีมชาย ส่วนประเภทบุคคลอาจจะไม่ได้ลง เพราะว่าตรงกับช่วงของการแข่งขันแบดมินตัน เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์"

แม้จะพลาดโอกาสในการป้องกันแชมป์ แต่ “วิว” กุลวุฒิ ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาคือ “ยอดนักสู้” อย่างแท้จริง การก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลกไม่ใช่เรื่องง่าย และการยืนระยะในระดับนั้นยิ่งยากกว่า แต่เขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมและคู่ควรกับคำชื่นชมทุกประการ