“เก๋ ชลลดา” เปิดใจหลังป่วยเยื่อบุสมองอักเสบ ไม่มีสัญญาณเตือนมาก่อน
“เก๋ ชลลดา” เปิดใจหลังป่วยเยื่อบุสมองอักเสบ ไม่มีสัญญาณเตือนมาก่อน เจ็บคอ–ปวดหัวนึกว่าไมเกรน เกือบช้าเกินไป! เตือนทุกคนอย่าชะล่าใจเรื่องสุขภาพ
ข่าวที่น่าสนใจ
จึ้งมาก!! น้ำเพชร อิสรีย์ เปิดลุค นางมโหทรเทวี นางสงกรานต์ประจำวันเสาร์
เบส คำสิงห์ เปิดใจทั้งน้ำตา!! กับเรื่องราวความรักในอดีต เผยย้อนเวลากลับไปได้ อยากกลับไปคบอดีตแฟนเก่า
สร้างความตกใจให้กับแฟนคลับและคนใกล้ชิดไม่น้อย เมื่อ “เก๋ ชลลดา เมฆราตรี” นักแสดงและนักเคลื่อนไหวเพื่อสัตว์ชื่อดัง ต้องแอดมิทด่วนจากอาการป่วยกระทันหัน ซึ่งต่อมาคุณหมอวินิจฉัยว่าเป็น “โรคเยื่อบุสมองอักเสบจากไวรัส HSV” ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกอีเวนต์ครั้งแรกหลังฟื้นตัว พร้อมเปิดใจหมดเปลือกว่า อาการมาโดยไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ ทั้งสิ้น
“ตอนนั้นยังใช้ชีวิตปกติเลยค่ะ เช้าวันนั้นยังออกกำลังกายอยู่เลย ตอนเย็นก็ไปส่งน้องหมาให้บ้านใหม่ แล้วอยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเจ็บต้นคอมาก หันคอไม่ได้ เจ็บขึ้นมาถึงขมับ พอพักก็รู้สึกว่าปวดหัวแปลก ๆ เหมือนไมเกรน แต่กินยาแล้วไม่หาย”
โชคดีที่จังหวะนั้นผู้อุปการะน้องหมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวลเนส จึงช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่เก๋จะกลับบ้านไปพัก แต่ด้วยอาการที่ไม่ดีขึ้น เธอตัดสินใจไปหาหมอในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 19 ชั่วโมงหลังเริ่มปวดหัว
“หมอบอกว่าโชคดีมากจริง ๆ ค่ะ เพราะถ้ามาช้ากว่านี้อีกแค่ไม่กี่ชั่วโมง อาจถึงขั้นอัมพฤกษ์ชั่วคราว หรือมีผลกระทบต่อแกนสมองได้เลย โรคนี้ต้องรีบมาภายใน 6 ชั่วโมง”
หลังเข้ารับการรักษา แพทย์สันนิษฐานว่าสาเหตุมาจากภูมิคุ้มกันที่ตกต่ำจากการพักผ่อนน้อย ความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว และการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา โดยไวรัสที่พบคือ HSV หรือไวรัสเริม ซึ่งในกรณีของเก๋ไม่ได้แสดงออกที่ผิวหนัง แต่กลับพุ่งเข้าไปโจมตีเยื่อบุสมองโดยตรง
“เก๋ไม่มีผื่นอะไรเลยค่ะ ไม่ขึ้นที่ปากหรือผิวหนังเหมือนปกติ แต่มันไปขึ้นที่เยื่อบุสมองเลย หมอก็รักษาด้วยยาต้านไวรัสแบบกว้าง ๆ เพราะไม่มีตัวยาเฉพาะทาง ต้องฉีดยาทางสายน้ำเกลือทุกวัน”
หลังนอนโรงพยาบาลครบ 7 วัน และเส้นเลือดเริ่มใช้ต่อไม่ได้ เก๋จึงขอกลับบ้านเพื่อรับยาแบบกินให้ครบ 10 วัน และตอนนี้ร่างกายยังไม่หาย 100% โดยเฉพาะเมื่อเจออากาศร้อนหรือเหนื่อยง่าย
“โรคนี้หมอเตือนเลยว่าอย่าโดนแดด อย่าทำงานกลางแจ้ง ต้องระวังเส้นเลือดมาก ๆ จริง ๆ แล้วตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเก๋ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลย ดีใจมากจนเพิ่งพูดเองไม่นาน ก็ได้เข้าโรงพยาบาลทันที เหมือนเป็นสัญญาณเตือนให้เราระวังตัว”
นอกจากสุขภาพแล้ว เก๋ยังเผยถึงกำลังใจจากครอบครัว โดยเฉพาะสามีที่แม้จะไม่อยู่ไทยช่วงที่เธอป่วย แต่ก็ตกใจและรีบบินกลับมาหลังรู้ข่าว
“ตอนแรกไม่อยากบอกกลัวเค้าเครียด เพราะเค้าอยู่ต่างประเทศ แต่พอบอกไปทุกคนตกใจหมดค่ะ เพราะมันเกี่ยวกับสมอง ใครก็กลัวกันหมด”
ท้ายที่สุด เก๋ฝากข้อคิดถึงทุกคนว่า หากร่างกายมีสิ่งใด “ผิดปกติจากที่เคยเป็น” อย่ารอให้สาย ให้รีบพบแพทย์ทันที อย่าคิดว่าเป็นแค่ไมเกรน หรือปวดเมื่อยธรรมดา เพราะบางครั้งมันอาจเป็นสัญญาณของสิ่งใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม