ลพบุรีบูรณาการทุกภาคส่วน รับมือปัญหาโดรนไม่ทราบฝ่าย
จังหวัดลพบุรี บูรณาการทุกภาคส่วนประชุมหารือการแก้ไขปัญหารับมือโดรนไม่ทราบฝ่าย พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วในพื้นที่ร่วมสอดส่องโดรนต้องสงสัย รวมถึงจัดทำฐานข้อมูลโดรนการเกษตรทั้งจังหวัด
วันที่ 7 ส.ค.68 ณ ห้องประชุมทานตะวัน ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดลพบุรี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังจังหวัดลพบุรี ปี 2568 กรณี ปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ครั้งที่ 1/2568 โดยมี พล.ต.นิธิ อิงคสุวรรณ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 13 พร้อมด้วย นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พ.อ.เฉลิมเกียรติ ลาดมะโรง รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงจังหวัดภายในจังหวัดลพบุรี และคณะกรรมการศูนย์ฯ จากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมประชุมหารือ
สำหรับศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังจังหวัดลพบุรี ปี 2568 มีหน้าในการเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบ ป้องกัน อากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภท อากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) และกิจกรรมอื่นๆ ที่ส่งผล กระทบ ต่อความมั่นคง ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี พร้อมทั้งรับแจ้งเหตุในพื้นที่ เช่น สถานีตำรวจท้องที่ หน่วยทหาร หรือหน่วย ความมั่นคง ที่รับผิดชอบในพื้นที่ นอกจากนี้ที่ประชุมได้รับทราบถึง สถานการณ์ในปัจจุบัน และการวิเคราะห์ความเสี่ยง รวมถึงหลักการในการต่อต้านอาการศยานไร้คนขับ ขณะเดียวได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนแจ้งเบาะหากพบเห็นโดรนที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยหรือฝ่าฝืนคำสั่ง แจ้งข้อมูล วัน–เวลา, สถานที่, ลักษณะ, ภาพหรือคลิปวิดีโอ จากผู้แทนจากกองบิน 2
ล่าสุด นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้สั่งการฝ่ายปกครองทั้ง 11 อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ออกลาดตระเวนสอดส่อง "โดรน" ในพื้นที่ เน้นย้ำหากพบมีลักษณะต้องสงสัยเจอให้ควบคุมตัวไว้ก่อนและส่งเจ้าหน้าที่เพื่อทำการสืบสวนข้อเท็จจริง หรือแจ้งสายด่วนความมั่นคง 1374 ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้มอบหมายให้เกษตรจังหวัดลพบุรีรวบรวมข้อมูลโดรนทางเกษตรทั้งหมดของจังหวัดลพบุรีเพื่อยืนยันตัวตนและเก็บเป็นฐานข้อมูลในการตรวจสอบไม่ให้เกิดการสับสนจากการใช้โดรนในพื้นที่
ขณะเดียวกัน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกรัฐบาล แจ้งว่า สำนักงานการบินพลเรือนฯ (CAAT)ขอให้ผู้ใช้งานโดรนเกษตรทุกคน ขึ้นทะเบียนโดรนและผู้บังคับ ผ่านระบบ UAS Portal (เว็บไซต์: uasportal.caat.or.th และแอปฯ "UAS Portal" ทั้ง iOS / Android) เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนกลับมาใช้งานบินได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ดี โดรนเกษตรที่ลงทะเบียนแล้ว จะยังไม่สามารถทำการบินได้จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 โดยหากมีการประกาศให้บินโดรนได้ตามปกติ จะสามารถเข้าสู่ระบบการขออนุญาตทำการบินได้ทันทีหลังจากมีประกาศ ดังนั้น การขึ้นทะเบียนผู้บังคับฯ และโดรนไว้ล่วงหน้าจึงเป็นขั้นตอนสำคัญมาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับความปลอดภัยและส่งเสริมการใช้โดรนทางการเกษตรอย่าง ยั่งยืน โดย ไม่มีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่าย ในการขึ้นทะเบียนและขออนุญาตบิน ถึงวันที่ 1 ก.ย.68