เพลิงโหมไหม้โรงงานรีไซเคิล คนงาน 4 ชีวิตหนีตาย
(15 ส.ค. 68) เวลาประมาณ 21.00 น. วานนี้ ศูนย์วิทยุกู้ภัยพนมรับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้โรงงาน จึงประสานรถน้ำดับเพลิงศูนย์วิทยุป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกโหมไหม้อย่างหนักในโรงงานรีไซเคิลแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลหัวสำโรง อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่พร้อมรถน้ำระดมกำลังจากหลายพื้นที่ หลายอำเภอ คืออบต.หัวสำโรง เทศบาลตำบลแปลงยาว เทศบาลตำบลวังเย็น เทศบาลสนามชัยเขต อบต.ลาดกระทิง ร่วมดับไฟแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดับ
คนงานคนหนึ่งเปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุมีคนงานอยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมดจำนวน 4 คน กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ จนเสร็จแล้ว 3 คนได้เข้าห้องไปนอน เหลือตนเพียงคนเดียวที่ยังกินไม่เสร็จ และได้หันไปเห็นว่าไฟไหม้จึงวิ่งไปเรียกคนที่อยู่ด้วยกันอีกสามคน เพราะว่าไฟลุกเร็วมากไม่ทันได้เตรียมตัว มีเสียงดัง
ซึ่งทั้ง 4 คนพากันวิ่งหนีตายออกมาได้ทัน เพลิงนั้นลุกโหมไหม้อย่างหนักเพราะด้านในมีแต่เชื้อเพลิงอย่างดี ทั้งยางรถยนต์เก่า ไม้พาเลท พลาสติก เพราะเป็นโรงงานรีไซเคิล จึงลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุที่ไหม้นั้นตนเองก็ไม่ทราบเพราะมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เมื่อวิ่งออกมาได้ตนจึงโทรหาดับเพลิงและโทรแจ้งเจ้านายโดยตนคาดว่าเพลิงที่ไหม้นั้นน่าจะไหม้มาจากกองขยะที่เป็นขยะรีไซเคิลเป็นพวกยาง พลาสติก และไม้พาเลท
เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำดับเพลิงศูนย์วิทยุป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราและใกล้เคียงมากกว่า 30 คันเข้าควบคุมสถานการณ์ เพราะด้านในมีแต่พลาสติกรีไซเคิลและเม็ดพลาสติกในจำนวนมากซึ่งเชื้อเพลิงเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังประสานรถแบ็คโฮจำนวน 2 คันมาเสริมการทำงานที่จุดเกิดเหตุ โดยจะใช้รถแบ็คโฮเข้าเกลี่ยเศษซากกองพลาสติกรีไซเคิลที่เพลิงได้ลุกไหม้ไปแล้ว แล้วระดมให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันเร่งฉีดน้ำเข้าไป โดยจะเห็นว่าหลังจากที่เพลิงสงบด้านล่างกองวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีก็ยังได้คุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา มีกลุ่มควันลอยโขมงเต็มท้องฟ้า
น.ส.กัลยา ประสิทธิภาคย์ นายอำเภอแปลงยาว ก็ได้ลงพื้นที่สั่งการด้วยตนเอง พร้อมเปิดเผยว่าหลังจากที่รับแจ้งว่ามีเปลวเพลิงเกิดขึ้นในกองของวัสดุรีไซเคิลซึ่งจะเป็นพวกพลาสติกรีไซเคิลและเม็ดพลาสติกในจำนวนมาก ในช่วงแรกเปลวเพลิงค่อนข้างแรงแต่ได้ความร่วมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอาสาสมัครในจังหวัดและนอกจังหวัด
เบื้องต้นสถานการณ์เริ่มดีขึ้นแต่ยังไม่100% แต่สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วง โดยในส่วนของประชาชนในพื้นที่พรุ่งนี้จะจัดทีมสาธารณสุขร่วมกันทางโรงพยาบาลตรวจเช็คสุขภาพร่างกายของประชาชนในพื้นที่
สาเหตุที่เกิดขึ้นคาดว่าไฟฟ้าลัดวงจรต้องรอควบคุมเพลิงให้ได้ก่อนจึงจะสามารถให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป