ผลการศึกษาเผย คนอเมริกันเจน Z กว่า 77% พาพ่อแม่ไปสัมภาษณ์งานด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ ทีมผู้เขียนรายงานการศึกษาจากเว็บไซต์ ResumeTemplates ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการวางแผนอาชีพแบบเสมือนจริง เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจเกี่ยวกับประชากรวัยทำงานรุ่นเจเนอเรชัน Z
ผลการศึกษาชี้ว่า ชาวอเมริกันเจน Z หรือคนทำงานรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 27 ปีในสหรัฐจำนวนมาก มีพ่อแม่คอยดูแลประคับประคอง ตั้งแต่เริ่มสมัครงานไปจนถึงการเข้าทำงาน
“คนเจน Z กว่า 3 ใน 4 (77%) บอกว่าเคยพาพ่อแม่ไปสัมภาษณ์งานตอนที่กำลังหางานทำ” ผู้เขียนเปิดเผยในรายงาน
ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ จำนวน 79% ของคนกลุ่มนี้ยอมรับว่า แม้เมื่อได้งานทำแล้ว พ่อแม่ของพวกเขาก็ยังคงติดต่อกับผู้จัดการบ่อยครั้ง เพื่อขอเลื่อนตำแหน่ง ขอขึ้นเงินเดือนและขอลาหยุดแทนลูกๆ ด้วย
นักวิจัยของกรณีศึกษานี้ได้ข้อมูลจากสำรวจกลุ่มคนเจน Z ที่มีงานทำ 831 คน เพื่อประเมินว่า พ่อแม่ของพวกเขามีส่วนร่วมมากน้อยเพียงใดในการหางานครั้งล่าสุด รวมถึงบทบาทของพ่อแม่ในการรักษาตำแหน่งงานปัจจุบันของพวกเขา
ผลการสำรวจระบุว่า 44% ของคนเจน Z ที่ร่วมโครงการยอมรับว่า เคยพาพ่อแม่ไปร่วมสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับว่าที่นายจ้างในอนาคต ขณะที่เพียง 27% เท่านั้นที่ให้พ่อแม่อยู่เป็นเพื่อนในระหว่างสัมภาษณ์ออนไลน์ และมีจำนวน 29% ของกลุ่มนี้ที่ยอมรับว่า มีพ่อกับแม่นั่งอยู่ด้วยในการสัมภาษณ์ทั้งแบบพบหน้าและแบบออนไลน์
สำหรับกลุ่มที่พาพ่อแม่ไปสัมภาษณ์งานด้วยนั้น มีอยู่ 40% ที่กล่าวว่า มีพ่อแม่เข้าร่วมการสัมภาษณ์ ขณะที่จำนวน 34% กล่าวว่า พ่อแม่เป็นคนตอบคำถามในการสัมภาษณ์ และ 30% กล่าวว่าพ่อแม่เป็นคนถามคำถามคนสัมภาษณ์ นอกจากนี้ยังมีอีก 27% ที่ยอมรับว่าพ่อแม่เป็นคนช่วยเจรจาเรื่องเงินเดือนหรือสวัสดิการ
ผลการสำรวจนี้น่าตกใจยิ่งกว่าผลสำรวจในเดือนธันวาคมปีที่แล้วที่ได้ข้อมูลจากการตอบแบบสอบถามของนายจ้าง 800 ราย ซึ่งระบุว่า 19% ของผู้สมัครงานเจน Z พึ่งพาพ่อแม่อย่างมากในระหว่างการสัมภาษณ์งาน ซึ่งทำให้พวกเขาดูเหมือนคนที่ไม่มีการเตรียมตัวและไม่เป็นมืออาชีพ
ตัวเลขจากการศึกษาครั้งนี้ที่บ่งชี้ว่าคนเจน Z พึ่งพาพ่อแม่ตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มสมัครงาน โดยแยกเป็น 31% ให้พ่อแม่เขียนเรซูเม่ให้, 29% ให้พ่อแม่ช่วยเขียนจดหมายสมัครงาน, 63% ให้พ่อแม่ช่วยยื่นใบสมัครงาน, 48% ให้พ่อแม่ช่วยทำข้อสอบหรือโจทย์ที่ได้รับจากบริษัท และ 41% ให้พ่อแม่เป็นคนคุยกับฝ่ายบุคคลในการคัดเลือกพนักงานรอบแรก
หลังจากที่ได้รับการตอบรับจากบริษัทและได้เป็นพนักงานแล้ว คนเจน Z ก็ยังคงพึ่งพาพ่อแม่ต่อไปอีก โดย 83% ให้พ่อแม่ช่วยเตรียมอาหารกลางวัน, 73% ให้พ่อแม่ช่วยทำงานที่ได้รับมอบหมายจนเสร็จ และ 57% พาพ่อแม่ไปที่ทำงานเพื่อช่วยทำงาน
จูเลีย ทูธเอเคอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านอาชีพจาก ResumeTemplates กล่าวว่าแม้ว่าการได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่ในช่วงหางานจะมีคุณค่า แต่ผู้ปกครองไม่ควรรับภาระทั้งหมด
“ฉันสนับสนุนให้ผู้ปกครองช่วยเขียนเรซูเม่ นำเสนอข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ หรือตรวจสอบผลการปฏิบัติงาน” ทูธเอเคอร์กล่าว “พ่อแม่สามารถให้การสนับสนุนเบื้องหลังได้ แต่ไม่ควรมีส่วนร่วมโดยตรง”
เธอกล่าวเสริมว่า การทำเช่นนั้น "ไม่เพียงแต่บั่นทอนความน่าเชื่อถือของลูก [ต่อผู้จัดการและเพื่อนร่วมงาน] เท่านั้น แต่ยังเสี่ยงต่อการขาดพัฒนาการทางอาชีพและความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทายอีกด้วย"
“คนทำงานมือใหม่จำเป็นต้องพัฒนาความมั่นใจและทักษะในการจัดการกับสถานการณ์ในที่ทำงานด้วยตัวเอง” เธอกล่าวทิ้งท้าย
สำหรับตัวเลขสรุปพฤติกรรมของคนทำงานเจน Z มีดังนี้
31% มีพ่อแม่เป็นคนเขียนเรซูเม่
77% พาพ่อแม่มาสัมภาษณ์งาน
53% มีพ่อแม่พูดคุยกับผู้จัดการฝ่ายสรรหาบุคลากรแทน
45% มีพ่อแม่คุยกับผู้จัดการคนปัจจุบันเป็นประจำ
73% มีพ่อแม่ช่วยทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จ
57% พาพ่อแม่มาทำงานในสถานที่ทำงานปัจจุบัน
ที่มา : resumetemplates.com, nypost.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES