บุ๋ม ปนัดดา สร้างบังเกอร์เพิ่มช่วยชายแดน ทำงานเกือบ 24 ชม. แทบไม่มีเวลาพัก เผยต้องการตาข่ายเพื่อดัดโดรนสอดแนม

เดินหน้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สำหรับ ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ประธานมูลนิธิองค์กรทำดี ที่ตอนนี้ยังคงทำหน้าที่เป็นฝ่ายสนับสนุนแนวหน้าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มาตลอดระยะเวลา 3 เดือน แบบไม่มีวันพัก ที่พ่วงด้วยตำแหน่งโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสา

ล่าสุดวันนี้ (18 ส.ค. 68) บุ๋ม ได้เปิดใจกับทีมข่าวไนน์เอนเตอร์เทนว่า ยังสนับสนุนแนวหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเต็มที่ ทหารก็พยายามดูแลพื้นที่ประเทศไทย เราเป็นฝ่ายสนับสนุน ช่วงนี้ก็จะลำบากหน่อย เพราะมีฝนตกหนัก การเดินทางค่อนข้างลำบาก แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราอยู่มาถึง 3 เดือนแล้ว เลยคำว่าลำบากมาแล้ว โดยความต้องการตอนนี้อยากได้เอ็นตาข่ายใส เพราะเอามาดักโดรนที่บินมาสังเกตการณ์ที่ฐานอยู่บ่อย ๆ รวมถึงอยากได้รองเท้าแตะ ส่วนถามว่ามีความเสี่ยงในการปะทะกันหรือไม่? บุ๋ม นิ่งไปสักพัก ก่อนจะตอบว่าไม่ทราบ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่เกิดก็ดีกว่า เพราะกลัวว่าจะเกิดกับประชาชนมากกว่า เรื่องความบาดเจ็บ สุขภาพจิตมากกว่า แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะช่วยเหลือประชาชนมากขึ้น ตอนนี้ทหารมองว่ามีหลายจุดที่ต้องการบังเกอร์มากขึ้นในแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตามจุดโรงเรียนและบริเวณใกล้หมู่บ้าน โดยยังไม่สามารถคาดการณ์เรื่องงบประมาณได้ แต่ที่ผ่านมาก็ลงทุนไปกว่า 5 ล้านกว่าบาท แต่ไม่ถึงขั้นจำนองที่ดินเพื่อนำเงินมาใช้สร้างบังเกอร์อีก เพราะหลัง ๆ ก็มีธารน้ำใจมาสนับสนุนจากน้อง ๆ รวมถึงดารานักแสดง ก่อนจะบอกว่าตอนนี้เองก็ได้ทำหน้าที่โปรโมตสินค้าทางการเกษตร ผ้าไหมของจังหวัดสุรินทร์ และจะเดินหน้าไปช่วยเหลือโปรโมตสินค้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

ส่วนเฟกนิวส์เป็นระลอกว่า บุ๋ม ปนัดดา เสียชีวิต และล่าสุดบอกว่าตัดสินใจปลิดชีพเพราะมรดก 100 ล้าน งานนี้เจ้าตัวก็บอกว่ามรดก 100 ล้านน้อยไปไหม มันเป็นเรื่องปกติของทางนั้น เพราะตนเป็นเป้าใหญ่ สำหรับข่าวลือรายวันก็ทำเอาคนเป็นพ่อถึงกับเป็นห่วงหนัก เพราะเขาได้รับข่าวจากเพื่อนทางไลน์ที่ทักมาบอกว่าเห็นข่าวลูกสาวหรือยัง? พ่อก็ตกใจ เขาเองก็รู้สึกไม่ดี ทำไมทำข่าวบุ๋มแบบนี้ พ่อก็คือพ่อ เขาเองมีความเป็นห่วงลูกสาวมาก เขาก็บอกกับเราว่าระมัดระวังตัวบ้างนะ แต่ก็บอกได้แค่นี้ เพราะห้ามตนไม่ได้ ขณะเดียวกันคนส่วนใหญ่เชื่อว่าเฟกนิวส์เป็นการต่ออายุให้ยั่งยืนขึ้น มองว่าอายุตอนนี้น่าจะราว 400 กว่าปีแล้ว ขอบคุณสำหรับการต่ออายุ

งานนี้ บุ๋ม ปนัดดา ยังอัปเดตหลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโฆษกจิตอาสาของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เพื่อทำหน้าที่สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องและตอบโต้ข่าวปลอม เจ้าตัวมองว่ามันยากกว่าที่คิด เพราะต้องทำงานกับหลายฝ่ายในการติดตามข่าวและตอบโต้ มองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่รอจังหวะ จะได้ตอบโต้ได้ถูก รวมถึงต้องรื้อทักษะภาษาอังกฤษมาใหม่ เพราะตนเรียนที่ออสเตรเลียแค่ 2 ปี ไม่ถึงขั้นชำนาญขนาดนั้น โดยการตอบโต้ใช้ภาษาระดับไม่เป็นทางการ แต่ก็หยาบคายไม่ได้ มันคือหน้าตาของประเทศไทย จะมาพูดคำหยาบไม่ได้ มันต้องดึงสติกลับมา และดูที่ภาพลักษณ์ไปด้วย ทำงาน 5 วันเหมือนทำงาน 5 ปี เพราะนักข่าวก็จะตรงสายมาหาตนเพื่อสอบถามข้อมูลอยู่ตลอด

บุ๋ม ยังเผยอีกว่า ตอนนี้เวลาที่จะพักผ่อนแทบไม่มี ทำงานเกือบ 24 ชั่วโมง อีกอย่างตนไม่สามารถอยู่ใกล้ลูกได้ เพราะตนโดนขู่และมาสอดแนม ตามตัวมาถึงฐาน ล่าสุดเมื่อวานนี้เลยมีคนไทยมาถ่ายรูปเราที่ฐาน ตอนนี้ตนเป็นเป้าใหญ่ ต้องห่างลูก ๆ เด็ก ๆ ก่อน จึงจะอยู่ในพื้นที่ซะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้กลับบ้าน คิดถึงลูกมาก ตอนนี้ให้คุณสามี ก๊อต อธิป และพี่เลี้ยงส่งคลิปเด็ก ๆ มาให้ ด้วยความคิดถึงตนเองก็อยากกอด แต่แอบกระซิบว่าแว็บไปกอดลูก ๆ บ้าง น้องเล็กยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่แม่ทำ แต่ลูกคนโต น้องอันดา เข้าใจในสิ่งที่แม่ทำ และเขาเองก็ตั้งใจเรียนหมอ ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี ถามว่าการถูกตามตัวทำให้ตนกลัวไหม? บุ๋ม ตอบได้เต็มปากว่าไม่กลัว เพราะตนเคยโดนแบบนี้มาแล้ว ตนตั้งสติมากขึ้น ดูแลตัวเองดีขึ้น และมีบอดี้การ์ดเพิ่มมาเป็น 4 คน .-ไนน์เอ็นเตอร์เทน

ภาพจาก boompanadda