โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

26 ปี ปปง. ตัดวงจรคดีฟอกเงิน ยึดอายัดทรัพย์รายสำคัญ "ตู้ห่าว-หุ้นสตาร์ค-ดิไอคอน-หมอบุญ"

Manager Online

เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

MGR Online -ปปง. ครบรอบ 26 ปี ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดกว่า 28,269 ล้านบาท และระงับบัญชีม้าเกือบ 1 ล้านบัญชี ตัดวงจรการฟอกเงิน

วันนี้ (19 ส.ค.) ณ โรงแรมเซ็นจูรี ปาร์ค กรุงเทพฯ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) จัดงานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 26 ปี โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วย นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้แทนหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงิน คณะผู้บริหารและข้าราชการสำนักงาน ปปง. เข้าร่วมงาน

นายเทพสุ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษ สำนักงาน ปปง. ในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายได้ดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ในการสร้างความมั่นคงและปลอดภัยให้กับสังคมและประเทศชาติ โดยยกระดับการปฏิบัติงานในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงให้เท่าทันต่อรูปแบบอาชญากรรมฟอกเงินใหม่ๆ และเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้ารับการตรวจประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้าน AML/CFT ในปี พ.ศ. 2571 ซึ่งจะช่วยส่งเสริมบทบาทการทำงานของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ

"รวมถึงเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเงินของประเทศไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะเทียบเท่านานาอารยประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยยกระดับการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และพัฒนาองค์กรสู่องค์การที่มีสมรรถนะสูง รองรับการทำงานแบบดิจิทัล"

เลขาธิการ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ 26 สำนักงาน ปปง. ยังคงมุ่งขับเคลื่อนการดำเนินงานทุกด้านอย่างเต็มรูปแบบด้วยความมุ่งมั่น ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย อย่างยั่งยืน เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติและประชาชน

ทั้งนี้ สำนักงาน ปปง. มีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้ 1.ยกระดับการบังคับใช้กฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและทันต่อสถานการณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน

2.ยกระดับการกำกับดูแลผู้มีหน้าที่รายงานการทำธุรกรรม โดยกำกับดูแลที่เข้มข้นยิ่งขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยง ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบธุรกิจต่างๆ เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนและเป็นไปตามกฎหมาย มุ่งเน้นการกำกับดูแลกลุ่มผู้มีหน้าที่รายงานให้เข้มงวด เพื่อป้องกันให้ระบบการเงินของประเทศถูกใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน และการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง นอกจากการกำกับดูแลที่เข้มข้นแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ โดยได้จัด โครงการอบรมและสัมมนา เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติตามกฎหมายแก่ผู้มีหน้าที่รายงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้ทุกคนสามารถป้องกันตัวเองจากการถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับประเทศ

3.การบังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาดเพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์สิน โดยได้ใช้อำนาจตามกฎหมายอย่างเต็มที่ในการยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐาน เช่น การค้ายาเสพติด การฉ้อโกงประชาชน หรือการพนันออนไลน์ การดำเนินการนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การยึดหรืออายัดทรัพย์สิน แต่ยังรวมถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้ และการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาเพื่อมุ่งตัดวงจรการประกอบอาชญากรรมในทุกมิติ

4.ผลการดำเนินการในปัจจุบัน (ส.ค.67 – ส.ค.68) สำนักงาน ปปง. ดำเนินการกับทรัพย์สินมูลค่ากว่า 28,269 ล้านบาท (1) ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมมูลค่ากว่า 10,266 ล้านบาท (2) ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน รวมมูลค่ากว่า 11,888 ล้านบาท (3) ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย รวมมูลค่ากว่า 5,783 ล้านบาท รวมจำนวนผู้เสียหายที่ได้รับการคุ้มครองสิทธิกว่า 7,000 ราย (4) ส่งทรัพย์สินที่ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินไปยังกระทรวงการคลัง รวมมูลค่ากว่า 332 ล้านบาท

ส่วนรายคดีสำคัญ 4.1.คดีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับยาเสพติด อาทิ รายคดี น.ส.สุรีวรรณฯ กับพวก เป็นกรณีเส้นทางการรับโอนเงินเชื่อมโยงกับบัญชีเงินฝากธนาคารของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด สืบสวนขยายผลพบความเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงประชาชน และการฉ้อโกง อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยมีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายหลายรายให้ร่วมลงทุนซื้อเฟอร์นิเจอร์ และเป็นเครือข่ายการฟอกเงิน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 500 ล้านบาท , รายคดี นายฮุ้ยหวาง หวัง (MR.HUIHUANG WANG) กับพวก ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการสืบสวนขยายผลจากผู้กระทำความผิดจากกรณีการตรวจค้นสถานบันเทิง (ผับจินหลิง) พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มยาเสพติดมีการนำเงินไปใช้ในการประกอบกิจการสถานบริการ และสนับสนุนกลุ่มเครือข่ายชาวจีนที่ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 53 ล้านบาท , รายคดี นายชัยณัฐร์ หรือ "ตู้ห่าว" กับพวก กรณีการตรวจค้นสถานบริการจินหลิง กรุงเทพฯ พบพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าชาวจีน มีการดำเนินการกับทรัพย์สินต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน พ.ค.66 ถึงปัจจุบัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 117 ล้านบาท

4.2 ความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อาทิ รายคดี นายณัฐวัตรฯ กับพวก กรณีเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ พบทรัพย์สินของกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิด รวมถึงทรัพย์สินของนางสาวธันยนันฯ (มินนี่) และเชื่อมโยงไปยังข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของ "พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 109 ล้านบาท , รายคดี นายสง่าฯ กับพวก (เครือข่ายโกฟุก) ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ความผิดฐานอั้งยี่ และความผิดฐานฟอกเงิน เคยมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้วกว่า 972 ล้านบาท และจากการสืบสวนสอบสวนพบข้อมูลการโอนผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารของกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิด โดยดำเนินการกับทรัพย์สินเพิ่มเติม มูลค่ากว่า 436 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 1,408 ล้านบาท , รายคดี นายภูมิพัฒน์ฯ กับพวก (อั้ม PSV) เครือข่ายเว็บไซต์พนันทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 76 ล้านบาท

4.3 ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน หรือฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อาทิ รายคดี นายชนินทร์ฯ กับพวก (กรณีหุ้น STARK) โดยนายชนินทร์ฯ เป็นประธานกรรมการบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีพฤติการณ์ตกแต่งงบการเงิน แสดงข้อความอันเป็นเท็จในข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวน พร้อมนำงบการเงินดังกล่าวไปใช้ประกอบการยื่นแบบแสดงรายการเสนอขายหุ้นกู้ เป็นพฤติการณ์ความผิดฉ้อโกงประชาชนและความผิดเกี่ยวกับการยักยอกทรัพย์อันมีลักษณะเป็นปกติธุระรวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 3,200 ล้านบาท , รายคดี "บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด" กับพวก พฤติการณ์ชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมธุรกิจ หรือลงทุนเพื่อจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ แต่ปกปิดเรื่องชักชวนให้ทำธุรกิจขายตรงทำให้ประชาชนที่เข้าร่วมธุรกิจไม่สามารถขายสินค้าหรือได้รับผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 1,018 ล้านบาท

บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ กับพวก กรณี น.ส.กรกนกฯ หรือ "แม่ตั๊ก" และนายกานต์พลฯ หรือ "ป๋าเบียร์" โฆษณาขายทองรูปพรรณพร้อมของแถม เพื่อจูงใจให้ผู้เสียหายตัดสินใจซื้อสินค้า แต่สินค้าไม่เป็นไปตามที่โฆษณา อันเป็นพฤติการณ์ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนฯ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 195 ล้านบาท , รายคดี นายบุญฯ กับพวก (หมอบุญ) กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนฯ ความผิดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงฯ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ พฤติการณ์จากการอาศัยความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับกิจการโรงพยาบาล นำเสนอแผนการระดมเงินทุน มีเจตนาหลอกลวงประชาชนที่หวังจะได้รับเงินตอบแทนในอัตราสูง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 362 ล้านบาท

รายคดี นายอภิมุขฯ กับพวก หรือ "บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน)" ซึ่งมีพฤติการณ์ทำคำสั่งซื้อขายหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE อันมีพฤติการณ์ เป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงฯ อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ (ปั่นหุ้น) รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายประมาณ 5,000 ล้านบาท

4.4 ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากร อาทิ รายคดี นายศุภกรฯ กับพวก สืบเนื่องจากการจับกุมผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางร้านค้าออนไลน์ และมีการขยายผลตรวจสอบขบวนการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า และตรวจสอบเส้นทางการเงินพบบัญชีเงินฝากที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 21 ล้านบาท , รายคดี นายปวันฯ กับพวก กรณีการขนเงินสดผ่านแดน เชื่อมโยงทรัพย์สินจากขบวนการค้ายาเสพติด และการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการลักลอบขนเงินสดจากประเทศกัมพูชา นำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยฝ่าฝืนหรือมิได้แจ้งรายการผ่านทางด่านศุลกากรอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดประมาณ 15 ล้านบาท

5.มุ่งมั่นทำหน้าที่ปกป้องระบบการเงินของประเทศให้ปลอดภัยจากการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง โดยปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งภายใต้กฎหมายไทย และมาตรฐานสากลของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการปฏิบัติทางการเงิน (FATF) ตลอดจนมติคณะมนตรีความมั่งคงแห่งสหประชาติ

6.บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนภารกิจในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ผ่านการลงนามความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภายในประเทศตั้งแต่ ส.ค.67 - ส.ค.68 รวม 3 ฉบับ (1.ลงนาม MOU กับสำนักงาน กลต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2.กรมตรวจบัญชีสหกรณ์และกรมส่งเสริมสหกรณ์ และ 3.สำนักงานศาลยุติธรรม)

7.ผลักดันการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศในรูปแบบความร่วมมือ “ปปง. ภาคประชาชน” เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพสูงสุด

8.เดินหน้าเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับหน่วยงานต่างประเทศในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินเพื่อขจัดอุปสรรคในการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยระหว่างเดือน ส.ค.67 - ส.ค.68 สำนักงาน ปปง. ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับสาธารณรัฐอุซเบกิสถาน ส่งผลให้ปัจจุบันมีการลงนาม MOU แล้วทั้งสิ้น 59 ฉบับ ครอบคลุม 56 ประเทศ/เขตอำนาจทั่วโลก

9.สร้างสรรค์นวัตกรรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการปฏิบัติงานและการบูรณาการข้อมูล ที่เน้นความคุ้มค่าและคล่องตัว

10.สกัดกั้นภัยจากบัญชีม้าและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยสำนักงาน ปปง. ได้ใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อจัดการปัญหา บัญชีม้า และ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างรุนแรง โดยใช้อำนาจตามกฎหมายในการประกาศ รายชื่อบุคคลเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง เพื่อจำกัดช่องทางการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ณ วันที่ 14 ส.ค.68 ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ประกาศรายชื่อบุคคลเสี่ยงแล้วจำนวน 93,530 รายชื่อ สามารถจำกัดช่องทางการทำธุรกรรมในบัญชี ที่เกี่ยวข้องได้ถึง 843,912 บัญชี มีเงินคงเหลือในบัญชีม้ารวมทั้งสิ้นกว่า 3,024 ล้านบาทได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เงินเหล่านี้ถูกนำไปใช้หลอกลวงหรือก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้อีก การดำเนินการดังกล่าวตอกย้ำให้เห็นว่าสำนักงาน ปปง. มุ่งมั่นที่จะปกป้องทรัพย์สินของประชาชนและสร้างความมั่นคงในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่อาชญากรรมทางเทคโนโลยีแพร่หลาย เพื่อให้คนไทยสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างปลอดภัย

11.การดำเนินคดีอาญาฟอกเงิน โดยสำนักงาน ปปง. สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการ ร้องทุกข์-กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน รวมกว่า 160 คดี พร้อมสนับสนุนข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงิน

12.มุ่งขับเคลื่อนไปสู่องค์การที่มีขีดสมรรถนะสูงอย่างยั่งยืน โดยการส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงานตามแนวทางสำนักงานสีเขียว (Green Office) การพัฒนาบุคลากรอย่างสอดคล้องกับสมรรถนะ

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

เลขาฯกฤษฎีกา แปลกใจ มท.ช่วยชาวบ้านฟ้องตามกม.ไทยทำไม่มีคนโมโห ไม่ก้าวล่วง "ฮุนเซน" ฟ้องคืน

24 นาทีที่แล้ว

"ชัยภักดิ์" ด่ารัฐบาลเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาซีเกมส์ไม่ออก ชี้! เป็นยุคตกต่ำกีฬาไทย

26 นาทีที่แล้ว

รวมพลังเชียร์ไทย AIS PLAY ยิงสดวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ครบทุกแมตช์ เริ่ม 22 สิงหาคมนี้

36 นาทีที่แล้ว

“สุชาติ ” ลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง หลังหลวงพ่ออลงกตยื่นลาออกเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เปิดทางตรวจสอบมูลนิธิ 6 แห่ง

37 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

การประชุมความร่วมมือวัฒนธรรม ‘จีน-อาเซียน’ จัดขึ้นในกว่างซี

Xinhua

ปักกิ่งยกระดับรับมือน้ำท่วมหลังเตือนภัยพายุฝน

สำนักข่าวไทย Online

แบงก์ชาติสั่งลดวงเงินโอน-ชำระไม่เกิน 50,000 ต่อวัน สำหรับกลุ่มเสี่ยงมิจฉาชีพ และกลุ่มเปราะบาง ภายในสิ้นปีนี้

THE STANDARD

ศึกดวลหมัดหุ่นยนต์ จัดเต็มลีลาศอกเข่าสะเทือนสังเวียนในปักกิ่ง

Xinhua

‘เหงียน ถิ บิค เตวียน’ ดาวตบเวียดนาม ถอนตัวศึกชิงแชมป์โลก 2025

สำนักข่าวไทย Online

หุ่นยนต์วิ่ง 100 เมตร ทะยานคว้าแชมป์ภายใน 21.5 วินาทีในปักกิ่ง

Xinhua

ผู้ป่วยไมเกรนต้องรู้ อาหาร 5 ชนิดที่ควรเลี่ยงหากไม่อยากให้ปวดหัว

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

วัยรุ่นออสเตรเลีย 1 ใน 3 มีความคิด-พฤติกรรมอยากฆ่าตัวตาย

Xinhua

ข่าวและบทความยอดนิยม

ตร.ยันยังไม่ได้ออกหมายเรียกเจ้าอาวาสวัดม่วง ปมเงิน 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท

Manager Online

ทลายโรงงานนายทุนจีนผลิตเครื่องสำอางเถื่อนส่ง ตปท. ยึดของกลางกว่า 20 ล้าน

Manager Online

ป.เตรียมเรียก "ดิว อริสรา" แจงคดียักยอกทรัพย์ "ไฮโซเมย์" หากเบี้ยวเจอหมายจับแน่

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...