“อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” อนุสาวรีย์แด่วีรชนผู้กล้าที่รักษาอธิปไตยของแผ่นดินไทย
“อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” หนึ่งในแลนด์มาร์กกรุงเทพฯ ที่ผู้คนต่างคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะตั้งอยู่ใจกลางย่านเศรษฐกิจ หน่วยงานราชการ โรงพยาบาล และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางแหล่งคมนาคมที่สำคัญ สำหรับการเดินทางไปยังที่ต่างๆ
จุดเริ่มต้นการสร้าง “อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ”
การอนุสาวรีย์แห่งนี้ มาจากกรณีพิพาทไทยกับฝรั่งเศส อันมีสาเหตุเนื่องจากรัฐบาลไทยขอให้รัฐบาลฝรั่งเศสปรับปรุงเส้นเขตแดนระหว่างไทยกับอาณานิคมของฝรั่งเศสด้านอินโดจีน ให้ถูกต้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แต่สุดท้ายข้อตกลงนั้นไม่เกิดผล กลายเป็นความขัดแย้งจนเป็นสงครามต่อกัน
โดยฝรั่งเศสยิงปืนข้ามแม่น้ำโขง และส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดล่วงล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย ที่จังหวัดนครพนม รัฐบาลไทยจึงต้องรักษาอธิปไตยและตอบโต้กลับไปเช่นกัน รวมระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ระหว่าง 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2483 - 28 มกราคม พ.ศ. 2484 ซึ่งการสู้รบครั้งนี้มีวีรชนผู้กล้าสละชีพไปเป็นจำนวนมาก
ต่อมา ญี่ปุ่นขอเสนอตัวเป็นกลางไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท ผลทำให้ฝรั่งเศสยอมคืนดินแดนบางส่วนในอินโดจีนให้ไทย และเมื่อเหตุการณ์ความขัดแย้งยุติ รัฐบาลไทยสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี จึงมีมติให้สร้างอนุสาวรีย์เพื่อเชิดชูเกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่ราชการสงคราม ที่สละชีพเพื่อชาติในครั้งนั้น โดยมีทั้งทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และพลเรือน เพื่อให้เป็นเกียรติประวัติ และเป็นเครื่องเตือนใจคนรุ่นหลัง
โดยตั้งชื่อว่า “อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” กำหนดพื้นที่ก่อสร้างบริเวณสี่แยกถนนราชวิถีตัดกับถนนพญาไท และต้นถนนพหลโยธิน พื้นที่ 6,781 ตารางวา มีหม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล เป็นผู้ออกแบบ และศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นหัวหน้าช่างปั้น
มีการทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2485
ศิลปะและการออกแบบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
หม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล ออกแบบภายใต้แนวคิดจากแรงบันดาลใจ 5 ประการ ได้แก่ 1. ปฏิบัติการของกองทัพทั้งสี่ 2. ปฏิบัติการอย่างกล้าหาญของกำลังพลโดยเฉพาะ 3. อาวุธที่ทหารใช้สู้รบ 4. เหตุการณ์สำคัญที่ต้องเปิดการสู้รบ และ 5. ความสนใจของประชาชน
นอกจากนี้จากคำบอกเล่าของนายธนู มาลากุล ณ อยุธยา บุตรชายหม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล เล่าว่า งานออกแบบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังได้แรงบันดาลใจมาจากพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม เพราะพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นสัญลักษณ์ทางทัศนคติทางพระพุทธศาสนา เป็นสัญลักษณ์ของการกอบกู้บ้านเมืองให้ได้รับอิสรภาพ กอบกู้เอกราชคืนมา และได้สร้างกรุงเทพมหานครเป็นราชธานี
ส่วนยอดทรงแหลมตรงกลางสูงราว 50 เมตรที่สะดุดสายตามากที่สุดนั้น เปรียบเสมือนดาบปลายปืนสื่อให้เห็นถึงการต่อสู้อันแหลมคมทั้งปัญญาและอาวุธ องค์ประกอบโดยรอบคือทหารหาญแห่งกองทัพไทยที่เข้ารบกับอริราชศัตรู เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องดินแดนอันเป็นราชอาณาจักรไทย รักษาเอกราชของชาติไทย
ด้านในอนุสาวรีย์ฯ ภายในห้องโถงใช้เก็บกระสุนปืนใหญ่และบรรจุอัฐิทหารที่เสียชีวิตในกรณีพิพาทไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส ส่วนด้านนอกรอบโคนดาบปลายปืน มีรูปปั้นหล่อทองแดงวีรชน ขนาดความสูงขนาด 2 เท่าของคนจริง ประกอบด้วย 5 เหล่า ได้แก่ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และพลเรือน โดยงานปั้นและงานหล่อ กรมศิลปากรเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนศิลปินผู้ปั้นรูปหล่อทองแดงทั้ง 5 เหล่านั้น เป็นลูกศิษย์ของศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี
ฐานอนุสาวรีย์มีแผ่นจารึกทำด้วยหินอ่อน ตัวอักษรหล่อด้วยทองแดง แสดงรายชื่อวีรชนที่เสียชีวิตจากกรณีพิพาทไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศสจำนวน 59 นายไว้ และต่อมากระทรวงกลาโหมได้ประกอบพิธีบรรจุอัฐิวีรชนผู้กล้าจากสมรภูมิอื่นๆ จารึกชื่อเพิ่มไว้ที่แท่นฐานอนุสาวรีย์ จำนวน 807 ชื่อ และที่ปรากฏด้านในอนุสาวรีย์ มีรายชื่อผู้เสียชีวิตทุกสมรภูมิทั้งที่มีอัฐิและไม่มีอัฐิ จำนวน 7,297 ราย – นับโดยองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เมื่อ พฤษภาคม พ.ศ. 2558
ทุกขั้นอยู่ภายใต้การควบคุมงานโดย ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี จากรูปทรงของอนุสาวรีย์ได้รับอิทธิพลทางรูปแบบมาจาก “ศิลปะ อาร์ต เดโค” (Art Deco) ที่กำลังเป็นที่นิยมในระดับสากล ณ ช่วงเวลานั้น
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิกับการชุมนุมทางการเมือง
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก็นับเป็นอีกสถานที่แห่งหนึ่ง ที่เป็นจุดใช้เพื่อการชุมชุมทางการเมือง เช่น การชุมนุมต่อต้านความรุนแรงทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อหลากสี ในปี พ.ศ. 2553, การชุมนุมเพื่อต่อต้านรัฐประหาร ปี พ.ศ.2557 ฯลฯ การชุมนุมแต่ละครั้ง ไม่มีผลกระทบใดกับอนุสาวรีย์ฯ เพราะมักใช้เพียงพื้นที่โดยรอบในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ.2564 เป็นครั้งแรกที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เกิดความเสียหายจากการชุมนุมทางการเมือง เมื่อผู้ชุมนุมทางการเมืองที่เรียกตัวเองว่าเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และสนับสนุนประชาธิปไตย ที่ออกมาขับไล่รัฐบาลในขณะนั้น ได้เข้าไปพ่นสี และคำหยาบคาย ลงไปบนแผ่นจารึกรายนามของ ทหาร ตำรวจ และพลเรือน ที่เสียชีวิตจากการปกป้องแผ่นดินไทยในสมรภูมิต่างๆ
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO