โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

พรรคประชาชน ชี้ 20 บาท อุ้มทุน ชู ตั๋วร่วม แก้ปัญหาโครงสร้าง

SpringNews

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ในขณะที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้ประกาศนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งมีกำหนดเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ประเด็นค่าโดยสารขนส่งสาธารณะก็ได้กลายเป็นหัวข้อถกเถียงสำคัญในสังคมไทย อย่างไรก็ตาม พรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนที่แตกต่างออกไป โดยเห็นด้วยว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าในปัจจุบันมีราคาสูงเกินไปและควรได้รับการปรับลดเพื่อบรรเทาภาระของประชาชน แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของพรรคเพื่อไทยที่ใช้เงินงบประมาณจำนวนมากเพื่ออุดหนุนนายทุน บทความนี้จะเจาะลึกถึงข้อเสนอและวิสัยทัศน์ของพรรคประชาชนที่มุ่งแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด "ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน"

การวิพากษ์นโยบาย 20 บาทตลอดสายของพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชนได้แสดงความกังวลและไม่เห็นด้วยกับวิธีการดำเนินนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของพรรคเพื่อไทย โดยมีเหตุผลดังนี้

การอุดหนุนนายทุนโดยไร้ฐานคิด: พรรคประชาชนชี้ว่าการใช้วิธีนำเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศไปอุดหนุนนายทุนรถไฟฟ้าโดยที่รัฐบาลไม่ทราบต้นทุนของรถไฟฟ้าแต่ละสายที่แท้จริง เป็นการกำหนดราคาขึ้นมาลอยๆ

ผลกระทบที่สำคัญ

เงินอุดหนุนจำนวนมากเข้ากระเป๋านายทุน: นโยบายนี้ทำให้รัฐต้องทุ่มเงินอุดหนุนจำนวนมหาศาล ซึ่งสุดท้ายแล้วเงินจำนวนนี้กลับเข้ากระเป๋านายทุนรถไฟฟ้าโดยตรง

นโยบายที่ไม่รอบด้าน: เป็นนโยบายที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่กลับละเลยผู้ใช้รถเมล์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความยากลำบากและมีรายได้ต่ำกว่าผู้ใช้รถไฟฟ้า

ขาดความยั่งยืน: นโยบายนี้ไม่ได้ออกเป็นกฎหมาย ทำให้ต้องลุ้นกันปีต่อปีว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะสานต่อหรือไม่

ข้อเสนอของพรรคประชาชน

"ค่าโดยสารร่วม 8-45 บาท รวมระบบรถไฟฟ้าและรถเมล์" พรรคประชาชนได้เสนอทางออกที่แตกต่างออกไป โดยมุ่งแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างผ่าน "ค่าโดยสารร่วม" (Common Fare) ในราคา 8-45 บาท ซึ่งจะครอบคลุมทั้งระบบรถไฟฟ้าและระบบรถเมล์ ข้อเสนอนี้กำลังผลักดันผ่าน ร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ที่เสนอโดย สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านคณะกรรมาธิการแล้ว และกำลังรอเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวาระที่ 2

ข้อดีของ "ค่าโดยสารร่วม"

ลดค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน: ผู้เดินทางจะไม่ต้องจ่าย 'ค่าแรกเข้า' ซ้ำซ้อนเมื่อเปลี่ยนสายหรือเปลี่ยนระบบขนส่ง

เดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ: ประชาชนสามารถเดินทางข้ามสายหรือข้ามระบบได้อย่างสะดวก เช่น ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว 5 สถานี ต่อด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 5 สถานี และต่อด้วยรถเมล์จนถึงจุดหมาย โดยทั้งหมดนี้ราคาจะไม่เกิน 45 บาท
◦ "ตั๋วร่วม" (Common Ticket): หากร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมผ่านสภา จะมี "ตั๋วร่วม" หรือตั๋วใบเดียวที่สามารถใช้ได้กับขนส่งสาธารณะทุกประเภท เพื่อความสะดวกสบาย โดยประชาชนไม่ต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันให้ยุ่งยาก ซี่งเป็นแนวคิดเดียวกับบัตร Oyster ในลอนดอน, EZ-Link ในสิงคโปร์ และ Octopus ในฮ่องกง

ที่มาของราคา 8-45 บาท

พรรคประชาชนได้กำหนดราคานี้บนพื้นฐานของสัญญาและสัมปทานที่ผูกพันกับรัฐในปัจจุบัน โดยคำนวณตามจำนวนเที่ยว (8-25 บาทสำหรับรถเมล์ และ 15-45 บาทสำหรับรถไฟฟ้า)

ช่วยผู้ที่เดินทางหลายเที่ยว: ข้อเสนอนี้จะช่วยผู้ที่ต้องเดินทางหลายเที่ยวโดยกำหนดเพดานค่าโดยสารสูงสุดที่ 45 บาท ซึ่งเสมือนกับการเดินทางเพียงเที่ยวเดียว ไม่ว่าผู้เดินทางจะต้องขึ้นรถไฟฟ้าหลายสาย หรือต่อรถเมล์หลายต่อก็ตาม

การอุดหนุนของรัฐในนโยบายพรรคประชาชน

รัฐยังคงอุดหนุน แต่ต่างจากพรรคเพื่อไทย: พรรคประชาชนระบุว่ารัฐจะมีการอุดหนุนเช่นกัน แต่แตกต่างจากพรรคเพื่อไทยที่อุดหนุนโดยตรงไปยังนายทุนใหญ่ของรถไฟฟ้า

วงเงินและเป้าหมายการอุดหนุน: นโยบายนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อปี โดยเงินอุดหนุนส่วนใหญ่จะนำไปช่วย ระบบรถเมล์ ซึ่งมีฐานผู้ใช้ที่มีรายได้น้อยกว่าผู้ใช้รถไฟฟ้า

ไม่เอื้อประโยชน์นายทุนรถไฟฟ้า: ในส่วนของรถไฟฟ้า การอุดหนุนจะอิงอยู่บนฐานของสัมปทานเดิม (15-45 บาท) โดยจะช่วยอุดหนุนค่าแรกเข้าที่ซ้ำซ้อน ซึ่งพรรคประชาชนมองว่าเป็นความผิดพลาดของรัฐไทยในอดีตที่มองปัญหาแบบแยกส่วน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

วิสัยทัศน์และหลักการของพรรคประชาชน พรรคประชาชนเชื่อมั่นว่านโยบาย "ค่าโดยสารร่วม 8-45 บาท รวมระบบรถไฟฟ้าและระบบรถเมล์" ได้รับการออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่โครงสร้างอย่างรอบด้าน เพื่อประโยชน์ของผู้โดยสารทุกกลุ่ม ภายใต้แนวคิด #ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน

การจัดสรรทรัพยากรอย่างจำกัด: นโยบายนี้มุ่งจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด เพื่อช่วยกลุ่มคนที่เดือดร้อนอย่างแท้จริงให้ได้รับประโยชน์มากที่สุด

หลีกเลี่ยงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า: เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ใช่แค่การปะผุ หรือโปรยเงินให้เหลือ 20 บาท ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการเประเคนผลประโยชน์ให้กับนายทุนรถไฟฟ้าที่มีความสนิทสนมกับรัฐบาล

ความเชื่อมั่นในความยั่งยืน: พรรคประชาชนเชื่อมั่นว่านโยบายนี้จะสร้างระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่ได้มีแค่รถไฟฟ้า ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย มีค่าโดยสารที่เป็นธรรม และใช้เงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศอย่างสมเหตุสมผลและยั่งยืน

พรรคประชาชนได้นำเสนอทางเลือกที่น่าสนใจและแตกต่างจากนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ด้วยข้อเสนอ "ค่าโดยสารร่วม 8-45 บาท" และการผลักดัน "ร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม"

จุดยืนหลักของพวกเขาคือการแก้ไขปัญหาค่าโดยสารแพงด้วยวิธีการที่ไม่เอื้อประโยชน์นายทุน แต่เน้นการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะผู้ใช้บริการรถเมล์ และแก้ไขปัญหาค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนจากโครงสร้างสัมปทานในอดีต พรรคประชาชนมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบขนส่งสาธารณะที่ ครอบคลุม เข้าถึงได้ สะดวกสบาย เป็นธรรม และยั่งยืน สำหรับประชาชนทุกคนอย่างแท้จริง

อ้างอิง

พรรคประชาชน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก SpringNews

‘ตลาดสุกี้’หม้อเดือดไทย ร้อนกว่าไฟ สาดแคมเปญใส่กันจุกๆ

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Apple เปิดสนามประลองเกม EA SPORTS FC™ Mobile ใช้ iPhone 16 Pro เล่น สมจริงสุดๆ

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

“ผบ.ทสส.” ติดตามความคืบหน้าโครงการขุดลอกแม่น้ำปิง แก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงใหม่

เดลินิวส์

รมว.วัฒนธรรมเผย พระปรางค์วัดอรุณฯ ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว

THE STANDARD

สิ้น เจ้าอาวาส วัดไผ่ล้อม จ.ตราด มรณภาพด้วยโรคชรา สิริอายุ 93 พรรษา 73

Khaosod

LIVE ดูบอลสด "เชลซี พบ เปแอสเช" นัดชิงแชมป์สโมสรโลก เวลา 02.00 น.

คมชัดลึกออนไลน์

สาวใหญ่ขี่จยย.ข้ามแยก ตัดหน้าไฟเขียวไม่พ้นโดนชนร่างปลิวดับ

Khaosod

(คลิป)ฟ้องสายตาชาวโลก! ชาวเขมรทิ้งขยะเกลื่อน“ปราสาทตาเมือนธม” หลังถูกเกณฑ์มาเที่ยวกันจำนวนมาก

Manager Online

หมอลำดังทั่วอีสาน ร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ “ไหว้อ้อยอครู-คายอ้อ” ประจำปี 2568

Manager Online

พายุฝนกระหน่ำไทย 70% ของพื้นที่หลายจังหวัดเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...