ทลายเครือข่าย ต่างด้าวทำงานในไทย ใช้วีซ่าท่องเที่ยว
THE PATTAYA NEWS
อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดอะ พัทยานิวส์ The Pattaya Newsทลายเครือข่าย ต่างด้าวทำงานใน จ.ระยอง ใช้วีซ่าท่องเที่ยว
กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) ภายใต้นโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และการอำนวยการของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งกวดขันจับกุมชาวต่างชาติที่ลักลอบเข้ามาทำงานผิดกฎหมาย ซึ่งกระทบต่อระบบแรงงานไทยและอาจเชื่อมโยงอาชญากรรมข้ามชาติ
ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง, พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์, พล.ต.ต.ม.ล.สันธิกร วรวรรณ รอง ผบช.ทท., พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.สืบสวน บช.ทท., พร้อมทีมสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.กฤตพร แสงสุระ, ร.ต.อ.ภัทรพล ชูชื่อ, ร.ต.อ.วรินทร์ ศรีมนัสรัตน์ ลงพื้นที่เป้าหมายในโครงการก่อสร้างพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง
ผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 34 ราย แบ่งเป็นชาวจีน 7 ราย และชาวเมียนมาร์ 27 ราย โดยทั้งหมดใช้วีซ่าท่องเที่ยวแฝงตัวเข้ามาทำงานผิดกฎหมาย
ผู้ต้องหาบางรายให้การว่า:
• เข้ามาไทยได้เพียง 1 เดือน เพื่อทำงานใน โครงการดาดี้ ทำหน้าที่ควบคุมการตอกเสาเข็ม ได้รับค่าจ้างเดือนละ 27,000 บาท
• ทำงานใน โครงการบริษัทจิงกง ทำหน้าที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคาร ได้ค่าจ้าง 6,000–9,000 หยวน/เดือน โดยช่วงแรกโอนผ่านบัญชีธนาคารจีน ต่อมารับเป็นเงินสดจาก บริษัทจิงกง คอนสตรัคชั่น จำกัด
• ทำงานกับ บริษัทจิงกงในจีน เดินทางเข้ามาดูความคืบหน้าโครงการ ได้รับเงินเดือนจากต้นสังกัดที่จีน 6,000 หยวน/เดือน พร้อมสวัสดิการ และระบุว่าเดินทางเข้ามาไทยแล้ว 2 ครั้งในปีนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน บช.ทท. ได้ลงพื้นที่หาข่าวเชิงลึกและเฝ้าติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด กระทั่งสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอในการขอหมายค้นจากศาลจังหวัดระยอง เลขที่ 118/2568 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 เพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่โครงการก่อสร้างภายในนิคมอุตสาหกรรม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง
ผลการเข้าตรวจค้นพบกลุ่มแรงงานต่างด้าว ทั้งชาวจีนและเมียนมาร์ ลักลอบทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งสถานที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ปิดล้อมด้วยกำแพงสูง บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้งหมดในความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองกรับ จ.ระยอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป