ปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา 25 ก.ค.68 พลเรือนเจ็บสาหัส 3 ราย ทหารไทยพลีชีพเพิ่ม 3 นาย
(25 ก.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามรายงานจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้เกิดเหตุปะทะอย่างต่อเนื่องตลอดแนวชายแดนในหลายจุดสำคัญ โดยฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้เปิดฉากโจมตีก่อนด้วยอาวุธหนักหลายประเภท ส่งผลให้สถานการณ์ในพื้นที่มีความตึงเครียดอย่างมาก สรุปสถานการณ์ในพื้นที่สำคัญวันนี้ มีดังนี้
- เวลา 08.30 น. บริเวณ ช่องบกเกิดการยิงตอบโต้ระหว่างปืนใหญ่ของไทยกับ BM21 จากฝ่ายกัมพูชา
- ช่องอานม้า กัมพูชาใช้กำลังโจมตีและทำลายอนุสาวรีย์คนขี่ม้ารวมถึงอาคารโดยรอบ
- พื้นที่ชาแตกองกำลังไทยตอบโต้ด้วยทหารราบและรถถังเพื่อยึดพื้นที่กลับคืน
- ช่องตาเฒ่าฝ่ายกัมพูชาใช้รถถังจำนวน 15 คันเป็นฐานยิงโจมตี
- เขาพระวิหารกองกำลังไทยตรึงกำลังอย่างเข้มแข็ง
- ภูมะเขือเกิดการเข้าตีและยิงโต้ตอบอย่างต่อเนื่อง
- ช่องจอมมีการสู้รบสลับกันไปมา
- ปราสาทตาควายกัมพูชาเสริมกำลังพลจำนวนมากเข้าสู่พื้นที่
- ปราสาทตาเมือนธม ฝ่ายไทยวางกำลังป้องกันแน่นหนา ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามเข้าตีหลายระลอก
สรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.00 น. ยอดเพิ่มเติมเฉพาะวันที่ 25 กรกฎาคม 2568
1.พลเรือน
บาดเจ็บสาหัส: เพิ่ม 3 ราย
บาดเจ็บเล็กน้อย: เพิ่ม 1 ราย
บาดเจ็บปานกลาง: ลดลง 3 ราย (กลับบ้านได้)
2. ทหาร
เสียชีวิต: เพิ่ม 3 นาย
บาดเจ็บสาหัส: เพิ่ม 1 นาย
ยอดสะสมรวมตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน
1.พลเรือน
เสียชีวิต: 13 ราย
บาดเจ็บสาหัส: 10 ราย
บาดเจ็บปานกลาง: 10 ราย
บาดเจ็บเล็กน้อย: 13 ราย
รวมทั้งสิ้น: 46 ราย
2.ทหาร
เสียชีวิต: 4 นาย
บาดเจ็บสาหัส: 7 นาย
บาดเจ็บปานกลาง: 5 นาย
บาดเจ็บเล็กน้อย: 3 นาย
รวมทั้งสิ้น: 19 นาย
ทั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้กระทำการที่เข้าข่าย อาชญากรรมสงคราม (War Crimes) อย่างชัดเจน ได้แก่
- การจงใจโจมตีพลเรือนและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มีสถานะทางทหาร
- การทำลายสถานที่สาธารณะ เช่น โรงเรียน อนุสาวรีย์
- การใช้อาวุธหนักแบบไม่เลือกเป้าหมาย
- การตั้งฐานยิงในพื้นที่ชุมชนและใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์
การกระทำดังกล่าว ศบ.ทก.ถือเป็นการละเมิดกฎหมายและธรรมเนียมของสงครามอย่างร้ายแรง และประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกตระหนักถึงการกระทำของ "ฮุน เซน" ผู้นำกัมพูชา ซึ่งต้องรับผิดชอบในฐานะอาชญากรสงคราม ที่สั่งการและสนับสนุนการรุกรานอย่างไม่ชอบธรรม - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน