เด็จพี่ วอน ‘ณัฐวุฒิ-เชิดชัย’ ทบทวนนั่งกมธ.นิรโทษ หวั่นเข้าทางนักร้องยื่นสอบ

เด็จพี่ วอน ‘ณัฐวุฒิ-เชิดชัย’ ทบทวนนั่งกมธ.นิรโทษ ห่วงเข้าทางนักร้องยื่นสอบ ขัดกันแห่งผลประโยชน์ หวั่นน้ำผึ้งหยดเดียวลุกลามเหมือน พ.ร.บ.สุดซอย

เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2568 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุขพ.ศ…. และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พ.ศ…. รวม 3 ฉบับ และตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ 32 คนมาพิจารณา

สัดส่วนของพรรคเพื่อไทย 7 คนนั้น หลายท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละด้าน แต่มีบางประการที่ค่อนข้างกังวล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกฯ และแกนนำนปช. นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำคนเสื้อแดงภาคอีสาน

ทั้งนี้ หลักการตรากฎหมายต้องเกิดจากตัวบุคคล ที่ไม่มีส่วนได้เสียหรือจะได้รับประโยชน์จากกฎหมายใด ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติให้ใช้กับบุคคลเป็นการทั่วไป ไม่เลือกปฏิบัติ ขณะเดียวกันผู้ร่วมตรากฎหมาย ต้องไม่มีคุณสมบัติหรือลักษณะขัดกันแห่งผลประโยชน์ด้วย

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ในอดีต นายณัฐวุฒิ นพ.เชิดชัย เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองการชุมนุมของคนเสื้อแดงนับตั้งแต่ปี 2551 ตนในฐานะกัลยาณมิตรของพรรคเพื่อไทยและของทั้ง 2 ท่าน ที่พูดไม่ได้มีจุดประสงค์ไม่ดี เพียงแต่พูดในหลักการตามข้อเท็จจริง หากจะทำให้ทั้ง 2 ท่านไม่สบายใจ ขออภัยไว้ล่วงหน้า

เวลานี้พรรคเพื่อไทยเผชิญประเด็นอ่อนไหวหลายเรื่อง รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ การตรวจสอบจากฝ่ายค้าน คดีในชั้นศาลรัฐธรรมนูญของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ประเด็นคลิปเสียงไทย-กัมพูชา กำแพงภาษี การเคลื่อนไหวนอกสภาฯ ก็หาทุกเรื่องมาล้มรัฐบาล ที่อาจเป็นชนวนลุกลามสร้างความไม่พอใจขยายวงกว้างได้ทั้งนั้น

ย้อนไปรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ.ร.บ.สุดซอยในเนื้อหากฎหมายนั้นดี เมื่อฝ่ายค้าน กลุ่มเคลื่อนไหวนอกสภาฯ นำไปปลุกระดมมวลชน สุดท้ายกลายเป็นหนึ่งในชนวนให้เกิดการยึดอำนาจเมื่อปี2557

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า กรณีนี้ เห็นแสงรำไรของพวกนักร้องเลยไม่อยากให้ฝ่ายตรงข้าม รอจังหวะที่เรากลับตัวไม่ทัน เอานิติสงครามมาเล่นงาน ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ หรือแม้แต่กฎหมายไปสู่มือสว.อาจเป็นเหตุให้บุคคลอีกกลุ่มใช้เป็นข้ออ้าง การขัดกันแห่งผลประโยชน์ โดยผู้มีส่วนได้เสียมีส่วนร่วมตรากฎหมาย มาใช้เหตุมาคว่ำกฎหมายได้ ทั้งที่ผลสุดท้ายคนที่เสียประโยชน์ที่สุดคือประชาชน

“ยังพอมีเวลาให้ทั้ง 2 ท่านทบทวน กระบวนการยังไม่ได้เริ่มนับหนึ่ง เนื้อหาหลักการของกฎหมายนั้นเพื่อมุ่งหวังช่วยเหลือประชาชน มุ่งหวังทำให้บ้านเมืองสงบ สันติสุขนั้นดีอยู่แล้ว เป็นห่วงว่ากฎหมายนี้จะตกเป็นเครื่องมือที่ให้บุคคลที่ไม่เห็นด้วย ร่วมกันคว่ำกฎหมาย รัฐบาล 2 ปีจะครบเทอม แต่ขณะนี้เผชิญมรสุมรุมเร้าถาโถม ดังนั้น การตัดไฟแต่ต้นลม ปิดทุกช่องทางอันอาจนำไปสู่การขยายผลทางการเมือง ปลุกระดมได้ ย่อมเป็นเรื่องที่ดี” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เด็จพี่ วอน ‘ณัฐวุฒิ-เชิดชัย’ ทบทวนนั่งกมธ.นิรโทษ หวั่นเข้าทางนักร้องยื่นสอบ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th