GULF ปิดดีลโรงไฟฟ้าล็อตใหม่ J.P. Morgan เพิ่มน้ำหนักลงทุน
GULF ปิดดีล โรงไฟฟ้าล็อตใหม่ J.P. Morgan เพิ่มน้ำหนักลงทุน เคาะราคาเป้าหมาย 64 บาท
ทยอยปิดดีลใหม่อย่างต่อเนื่องสำหรับหุ้น GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ล่าสุด (9 ก.ค. 68) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด (GRE) เป็นบริษัทย่อยที่ GULF ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ได้เข้าลงทุนในบริษัท บลู สกาย วินด์ พาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (BSWPH) ถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม จำนวน 5 โครงการในประเทศไทย กำลังการผลิตตามสัญญารวมทั้งสิ้น 436.5 เมกะวัตต์ (MW) และมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ระหว่างปี 2570-2573 โดยจะมีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้า
GULF ปิดดีล โรงไฟฟ้า
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน GULF แจ้งว่าได้มีมติอนุมัติให้กลุ่มบริษัทย่อยดำเนินการลงทุนใน โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนภายใต้ กลุ่มบริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด (GRE) ที่มีกำหนดเปิด COD ระหว่างปี 2569 - 2570 จำนวน 11 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 746.6 MW โครงการดังกล่าวได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กับกฟผ. เป็นระยะเวลา 25 ปี เป็นที่เรียบร้อย และมีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 42,000 ล้านบาท
ประกอบไปด้วย
- โครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน 4 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 244.6 MW
- โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน 2 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 126.0 MW
- โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 5 โครงการ กำลังการผลิตตามสัญญารวม 376.0 MW
ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ บล. กรุงศรี มีมุมมอง Positive ต่อการเข้าซื้อหุ้น 50% ใน BSWPH ทำให้ GULF เป็นผู้ร่วมพัฒนาโครงการพลังงานลมขนาด 218 Equity MW บนมูลค่าการลงทุน 3.75 แสนบาท ยังไม่รวม CAPEX ที่ใช้สำหรับการพัฒนาโครงการ โดยการลงทุนนี้ถือเป็นดีล M&A ที่ 2 ของ GULF ที่เข้ามาทดแทนการปรับกลยุทธ์ในธุรกิจ Virtual Bank และตอบโจทย์การเติบโตหลังควบรวม เบื้องต้น
ประเมิน Upside จากโครงการดังกล่าวต่อราคาเป้าหมายปี 2568 ของ GULF ในกรอบ 0.5-0.75 บาทต่อหุ้น คาดเป็นส่วนแบ่งกาไรเพิ่มเติมราว 700-800 ล้านบาทต่อปี หลัง COD ครบทั้งโครงการ อย่างไรก็ดี ยังไม่รวมโครงการดังกล่าวเข้ามาในประมาณการ และจะมีการอัปเดตอีกครั้งหลังได้รับรายละเอียดเพิ่มเติม
GULF ปิดดีลโรงไฟฟ้าล็อตใหม่ ส่องราคาเป้าหมาย
นอกจากนี้ ล่าสุดบทวิเคราะห์ บล. เจพีมอร์แกน (J.P. Morgan) ออกคำแนะนำการลงทุนในหุ้น GULF แนะนำ Overweight ที่ราคาเป้าหมาย 64 บาทต่อหุ้น พร้อมชี้ให้เห็นทิศทางการเติบโตผ่าน 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ พลังงานหมุนเวียน, โครงการพลังงานในสหรัฐ, ดิจิทัลอินฟราสตรัคเจอร์ และโครงสร้างพื้นฐาน LNG
โดยมีประเด็นเพิ่มเติมที่น่าจับตามองในหุ้น GULF ได้แก่
1. สัดส่วนถือหุ้นในธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK จะอยู่ต่ำกว่า 5% ตามข้อจำกัดด้านกฎเกณฑ์
2. บริษัทอาจพิจารณาซื้อหุ้นคืน หาก Singtel ขายหุ้น INTUCH ที่ถืออยู่ราว 9%
3. มีศักยภาพลงทุนเพิ่มเติมอีกราว 200,000 ล้านบาท หลังการควบรวมกับ INTUCH
4. ตัวชี้วัด KPI ฝ่ายบริหารมุ่งเน้นการเติบโตด้านกำไรและกำลังการผลิต, กลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน และ ROE
ด้านบทวิเคราะห์ บล. เอเซีย พลัส ก็มีมุมมองเชิงบวกในระยะยาวต่อแนวโน้มธุรกิจของ GULF การลงทุนอย่างต่อเนื่องจะเป็นตัวช่วยส่วนช่วยเสริมเป้าหมายสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 40% ภายในปี 2578 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนราว 13%
กลยุทธ์การลงทุน เบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการและมูลค่าพื้นฐานปี 2568 ไว้ที่ 68.25 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับฐานลง คาดสะท้อนปัจจัยลบต่างๆ ไปแล้วระดับหนึ่ง จนเห็นอัพไซด์ที่สูง
ส่วนปัจจัยพื้นฐานยังเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งทั้งในระยะสั้น และระยะยาว มองเป็นโอกาสทยอยสะสมลงทุน คงน้ำหนักการลงทุน Outperform
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- GULF ทุ่ม 704 ล้านเข้าซื้อหุ้น 50% ใน 9 โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ของ GUNKUL
- GULF ทุ่ม 6 หมื่นล้านบาท สร้างท่าเรือสถานีรับ-จ่ายก๊าซแห่งใหม่ที่มาบตาพุด
- ‘GULF’ ใช้ข้อมูล SROI ต่อยอดปั้น ‘ดอยเวียงโมเดล’ ชูพลังงานสะอาด ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน
ติดตามเราได้ที่