รัฐปรามมีโทษทั้งจำทั้งปรับ โฆษณาติดตั้งบนตัวอาคาร-สถานที่ต่างๆเลี่ยงกม.บังคับทำประกัน หวั่นพายุลมกระโชกแรง “ป้ายโฆษณา” สร้างความเสียหายต่อบุคคลภายนอก
คปภ. ห่วงใย “ประชาชน-เกษตรกร-ผู้ประกอบการ” แนะรับมือภัยธรรมชาติด้วยประกันภัย หวั่นพายุลมกระโชกแรง “ป้ายโฆษณา” สร้างความเสียหายต่อบุคคลภายนอก - เร่งทำประกันภัย เพื่อบริหารความเสี่ยงก่อนประสบภัย เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝนและมีพายุพัดผ่านในหลายพื้นที่ ส่งผลทำให้เกิดฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก สร้างความเสียหายให้กับอาคาร บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย รถยนต์ ตลอดจนผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงขอให้ประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ หมั่นตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยประเภทต่าง ๆ ที่ได้ทำไว้ว่าใกล้หมดอายุความคุ้มครองหรือไม่ และควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยเฉพาะภัยที่เกิดจากธรรมชาติ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูฝนนี้ ควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองภัยจากธรรมชาติเป็นสำคัญ อาทิ การประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 การประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน การประกันอัคคีภัยที่ซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมจากภัยธรรมชาติ 4 ภัย ได้แก่ ภัยน้ำท่วม ภัยลมพายุ ภัยลูกเห็บ และภัยแผ่นดินไหว ในขณะที่ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) จะให้ความคุ้มครองกว้างกว่าอัคคีภัย เช่น ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิด ภัยจากยวดยานพาหนะ ภัยน้ำท่วม ภัยแผ่นดินไหว ภัยลมพายุ ภัยลูกเห็บ และอุบัติเหตุ จากสาเหตุที่ไม่ได้ระบุไว้ในข้อยกเว้น เป็นต้น ในส่วนของการประกันภัยพืชผลทางการเกษตร เช่น การประกันภัยข้าวนาปี การประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การประกันภัยทุเรียน เป็นต้น
ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่าในช่วงฤดูฝนของทุกปีจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ส่งผลทำให้ป้ายโฆษณาที่ติดตั้งบนตัวอาคารและตามสถานที่ต่าง ๆ หักโค่น และสร้างความเสียหายให้กับบุคคลภายนอกอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้ายที่สูงจากพื้นดินตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไป หรือมีพื้นที่ตั้งแต่ 50 ตารางเมตรขึ้นไป หรือป้ายที่ติด หรือตั้งบนหลังคา หรือดาดฟ้าของอาคารหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 25 ตารางเมตรขึ้นไป จะต้องจัดให้มีการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงขอฝากเตือนประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการกิจการร้านค้า การท่องเที่ยว ฯลฯ หมั่นตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยประเภทต่าง ๆ ที่ได้ทำไว้นั้นมีผลให้ความคุ้มครองอยู่หรือไม่ และควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัย โดยเฉพาะภัยที่เกิดจากธรรมชาติ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ด้วยความปรารถนาดีจาก สำนักงาน คปภ. และหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านประกันภัย ติดต่อได้ที่สายด่วน คปภ. 1186