“เพื่อไทย” ปัดศึก 2 ตระกูลจุดไฟสงครามไทย-กัมพูชา ย้ำต้นเหตุจากผู้นำเขมรไม่พอใจปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

“เพื่อไทย” ปัดศึก 2 ตระกูลจุดไฟสงครามไทย-กัมพูชา วอนอย่าหลงเชื่อเฟกนิวส์ หวังปั่นผลทางการเมือง ย้ำเหตุปะทะต้นเหตุจากผู้นำเขมรไม่พอใจการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ก.ค. 2568 ที่พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ สส. บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ไทย-กัมพูชาว่า ขณะนี้ สส. พรรคเพื่อไทยระดมความช่วยเหลือไปยังผู้ได้รับผลกระทบทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ สส. ในพื้นที่ลงไปช่วยเหลือประชาชนในจุดต่าง ๆ พร้อมรับฟังปัญหา ประสานการช่วยเหลือทุกช่องทาง สถานการณ์ปะทะเกิดจากความไม่พอใจของผู้นำกัมพูชาเกี่ยวกับการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาลไทย ข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดคือ เมื่อไทยจัดตั้งกลไกไตรภาคีร่วมกับเมียนมา ลาว จัดการปัญหาดังกล่าว เชิญกัมพูชาเข้าร่วม แต่ได้รับการปฏิเสธ อ้างจะดำเนินการด้วยตนเอง ขณะนี้หน่วยงานต่าง ๆ กำลังเร่งประสานงานไปยังองค์กรต่าง ๆ ระดับสากลปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติให้เด็ดขาดถอนรากถอนโคน

ปัดความขัดแย้ง 2 ตระกูล

นายดนุพร ยืนยันด้วยว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้ง 2 ตระกูล ตามที่มีความพยายามสร้างเฟกนิวส์ เพื่อผลทางการเมือง ข้อเท็จจริงเริ่มปรากฏ ผ่านการวิเคราะห์ของนักวิชาการต่างชาติ สื่อต่างประเทศให้ข้อมูลทางเดียวกันว่า กัมพูชาไม่พอใจเนื่องจากบุคคลระดับนำในประเทศได้รับผลกระทบจากการปราบอาชญากรรมข้ามชาติ อีกทั้งขณะนี้ทางการไทยออกหมายจับนายก๊ก อาน คนสนิทผู้นำกัมพูชา รวมถึงเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมอายัดทรัพย์สินมหาศาลและประสานตำรวจสากลติดตามจับกุมตัว

ยันไทยพยายามใช้สันติวิธี

นายดนุพรกล่าวว่า รัฐบาลไทยยืนยันตลอดต้องการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี เจรจาด้วยกลไกทวิภาคี ที่ผ่านมากระทรวงต่างประเทศประสานงานระดับทวิภาคี จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ติดตามข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูต เตรียมการด้านมนุษยธรรมระหว่างรัฐ รองรับสถานการณ์ที่อาจยืดเยื้อ ให้ข้อมูลประชาคมระหว่างประเทศอย่างถูกต้องและโปร่งใส รัฐบาลให้ความสำคัญบทบาทการทูตคลี่คลายความตึงเครียด จะดำเนินการทุกมิติทั้งความมั่นคง การทหาร การทูต การปกป้องชีวิตและทรัพย์สินประชาชน

ขยายงบฉุกเฉินเพิ่ม

ส่วนการดูแลประชาชนที่อพยพออกจากบ้านเรือนนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งทุกกระทรวงร่วมบูรณาการแผนดูแลช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วน และขออนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี เพิ่มเติมจังหวัดละ 100 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ สถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างอ่อนไหว ขอความร่วมมือประชาชนติดตามข่าวสารอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานรัฐ ระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อเฟกนิวส์

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “เพื่อไทย” ปัดศึก 2 ตระกูลจุดไฟสงครามไทย-กัมพูชา ย้ำต้นเหตุจากผู้นำเขมรไม่พอใจปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์