โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ศบ.ทก. จ่อพาสื่อไทย-เทศ ลงพื้นที่จริงไม่สร้างภาพ-บิดเบือน สั่งผู้ว่าฯดูแลปชช.-เร่งจ่ายเยียวยา

MATICHON ONLINE

อัพเดต 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ศบ.ทก. เผย เร่งปรับการสื่อสาร ป้องข้อมูลเท็จจากฝั่งตรงข้าม ขนสื่อไทย-เทศ ลงพื้นที่จริงไม่สร้างภาพลวง – บิดเบือน พร้อมแถลงสด ตอกเขมรไม่พุ่งเป้าทางทหาร ไทยพร้อมคุย จีบีซี รอแค่หนังสือเชิญอย่างเป็นทางการ ด้าน มท.เปิดตัวเลข 7 จว.ชายแดน รับผลกระทบ 8.3 แสนคน สั่งผู้ว่าฯ ดูแลความปลอดภัยชีวิต-ทรัพย์สิน พร้อมเร่งเบิกจ่ายเงินเยียวยาตามระเบียบ

เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 31 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุม ศบ.ทก. ว่า ที่ประชุมได้มีการติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ซึ่งสถานภาพโดยรวมยังเป็นการตรึงกำลังทั้ง 2 ฝ่าย และที่ผ่านมาได้มีการตรวจพบการใช้โดรนของฝ่ายกัมพูชา อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมโดยรวมยังอยู่ในความสงบ

พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวว่า ส่วนกรณีทาหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัว 20 นาย เป็นสาเหตุมาจากการยอมจำนนของฝ่ายกัมพูชา เนื่องจากกระสุนหมด ในพื้นที่ช่องซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยทั้ง 20 นายถูกส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้วยความผิดฐานเข้าเมืองโดยได้รับอนุญาต หรือมาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่วนผู้ถูกควบคุมตัวที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ได้ถูกส่งเข้ารับการรักษาพยาบาล ที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จ.สุรินทร์ โดยอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าที่ฝ่ายความมั่นคง

พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีผู้บังคับบัญชาหรือผู้นำฝ่ายทหารของประเทศมาเลเซีย ได้เข้ามาสังเกตการณ์และพูดคุยพบปะหารือกับฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ซึ่ง พล.อ.ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย ได้มีโอกาสเข้าพบปะหารือกับแม่ทัพภาคที่หนึ่ง และแม่ทัพภาคที่สอง เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงปัญหาชายแดน ไทย-กัมพูชา ตามข้อตกลงหยุดยิงที่ทำไว้ โดยข้อสรุปของการหารือคือ ฝ่ายไทยได้ชี้แจงถึงข้อมูลและสถานการณ์ก่อนนำไปสู่การปะทะของทั้ง 2 ฝ่าย โดยฝ่ายไทยได้อธิบายชี้แจงว่า พยายามใช้ความอดทนอดกลั้น ประท้วงการละเมิดข้อตกลงต่างๆ ส่วนฝ่ายกัมพูชาเลือกใช้กำลังทหาร วางทุ่นระเลิดในพื้นที่พิพาท ซึ่งเป็นการละเมิดสนธิสัญญาออตตาวา รวมถึงมีการใช้มวลชนมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อปลุกปั่นยั่วยุ ในบริเวณปราสาทตาเมือนธม จนสถานการณ์เกิดความตึงเครียดต่อเนื่อง จนฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มการปะทะที่ปราสาทตาเมือนธม ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้ เพื่อรักษาอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยินดีให้การสนับสนุนการสังเกตการณ์ของฝ่ายมาเลเซียต่อไป ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จุดมุ่งหมายของการเจรจาหยุดยิงก็เพื่อไปสู่สันติภาพ เป็นการประกาศหยุดยิงทันที ไม่เพิ่มกำลังทหาร และให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บในพื้นที่

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ในส่วนของสถานภาพผู้อพยพหรือผู้ลี้ภัยจากการปะทะ ในฝ่ายพลเรือน ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 14 ราย บาดเจ็บสาหัส 12 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 13 รายรวมผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด 53 ราย

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ศบ.ทก.กำลังอยู่ระหว่างการเร่งบูรณาการด้านการสื่อสาร โดยเฉพาะการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ถี่ถ้วน ในรูปแบบวันสต็อปเซอร์วิส เพื่อลดการเข้าใจผิดในข้อมูลข่าวสาร รวมถึงลดการบิดเบือนข้อมูลจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ จะมีความเป็นรูปธรรม

เมื่อถามถึงกรณีที่ภาครัฐมีการประกาศห้ามบินโดรน แต่เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ยังพบว่ามีโดรนบินอยู่ จะสามารถยิงสอยได้หรือไม่ พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวว่า เรามีอุปกรณ์ Anti Drone อยู่ แต่ทั้งหมดอยู่ที่ว่าโดรนนั้นเป็นภัยแค่ไหน ทหารไม่ได้มีระบบ Anti Drone ทุกหน่วย ถือเป็นข้อจำกัด เพราะบางหน่วยอยู่ชายแดน ซึ่งเป็นพื้นที่ใหญ่ ก็ได้มีการตรวจพบว่าเป็นอันตราย ก็มีการรายงานเข้ามา ยืนยันว่าโดรนที่บินเข้ามา เป็นเพียงโดรนสังเกตการณ์ ถ่ายภาพและวิดีโอว่าเราตั้งกำลังอย่างไร ไม่ได้เป็นโดรนแบบมาทำลาย ยํ้าว่าเป็นเพียงโดรนธรรมดา ไม่ได้ติดอาวุธ

ด้าน นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศน์ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร คณะทูตและสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศไปสังเกตการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาในวันที่ 1 ส.ค. ตามที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบ.ทก. ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จะนำผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย ประเมินผลกระทบจากการปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ เพื่อให้ข้อเท็จจริงจากการลงพื้นที่ดังกล่าวทราบแก่สาธารณะชนอย่างกว้างขวาง รวมถึงต่างประเทศด้วยนั้น กระทรวงการต่างประเทศจะนำคณะทูต และสื่อมวลชนต่างประเทศ จำนวน 22 สำนักข่าว ลงพื้นที่ร่วมกับคณะผู้ช่วยทูตทหารด้วย

นางมาระตี กล่าวว่า ในส่วนของสื่อต่างประเทศจะเป็นช่องทางสำคัญอย่างมาก ที่จะช่วยเผยแพร่ข้อเท็จจริงให้ประชาคมโลกรับทราบเกี่ยวกับการลงพื้นที่ในวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งถือเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทย พร้อมนำคณะผู้ช่วยทูตทหาร คณะทูต และสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศลงพื้นที่ โดยการลงพื้นที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกท่านเป็นอันดับแรก ซึ่งไทยไม่ได้เป็นผู้โจมตีก่อน ดังนั้นจึงไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้ว่า ช่วงเวลาใดที่ปลอดภัยจึงต้องรอเวลาให้มีความแน่นอนในเรื่องนี้

นางมาระตี กล่าวว่า ทั้งนี้ การลงพื้นที่พื้นที่ครั้งนี้ ฝ่ายไทยจะไม่สร้างภาพลวง จะไม่ให้ข่าวบิดเบือน กล่าวหาว่าฝ่ายกัมพูชาลักพาตัวทหารไทย อย่างที่ฝ่ายกัมพูชาได้กล่าวหาไทย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สะท้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งสิ่งที่คณะผู้ช่วยทูตทหาร คณะทูต และสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศจะได้เห็น และสามารถสื่อสารไปทั่วโลก คือความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน โรงพยาบาล โรงเรียน และสถานที่สาธารณะที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้น และพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายที่ไม่ใช่ทางทหาร ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชน และละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีผู้บริสุทธิ์ต้องอพยพไปศูนย์พักพิงประมาณ 1 แสนคน โดยในวันเดียวกันนี้เวลา 14.30 น. รมว.ต่างประเทศ จะแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพิ่มเติม ทั้งนี้การแถลงข่าวของ ศบ.ทก.ในวันที่ 1 ส.ค. ทางทีมโฆษก ศบ.ทก.จะร่วมลงพื้นที่และแถลงข่าวสดจากสถานที่จริงด้วย

นางมาระตี กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบ.ทก. มีการหารือจุดยืนของฝ่ายไทยและการเรียกร้องให้กัมพูชากลับสู่โต๊ะเจรจาทวิภาคี รัฐบาลไทยขอย้ำจุดยืน ต่อการยุติความขัดแย้งในครั้งนี้อีกครั้งว่า ฝ่ายไทยมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดอย่างที่ทำอยู่ และมุ่งแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันด้วยสันติวิธี ฝ่ายไทยจึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชา ยุติการละเมิดข้อตกลงต่างๆ ทุกรูปแบบ ทุกชนิดทันที และทำตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างจริงจังและสุจริตใจ ในขณะนี้ฝ่ายไทยมีความพร้อมสู่โต๊ะเจรจาทวิภาคีกับฝ่ายกัมพูชาทุกเมื่อ โดยรอให้ฝ่ายกัมพูชาส่งหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งจะเป็นอีกก้าวสำคัญในการหาทางออกรวมกัน

นางมาระตี กล่าวว่า สุดท้ายนี้ขอให้ประชาชนระมัดระวังการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และข้อมูลบิดเบือนอย่างเป็นระบบของฝ่ายกัมพูชา ที่มีเป้าหมายไม่เพียงเพื่อปกปิดความจริงที่เกิดขึ้น แต่ต้องการบ่อนทำลายเสถียรภาพของประเทศ และความสามัคคีของคนไทย ขอย้ำว่าในการดำเนินการของฝ่ายรัฐบาล ทางรัฐบาลให้ความสำคัญกับอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ผลประโยชน์ของประชาชน และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ และทุกฝ่ายกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน

ด้าน นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า อัตรากำลังของฝ่ายปกครองทั้ง อาสาสมัครชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้านประมาณหมื่นกว่าคนที่เข้าไปดูแลในพื้นที่ ทั้ง 7 จังหวัด 22 อำเภอ 13 ตำบล และ 335 หมู่บ้าน โดยการไปดูแลจุดตรวจ จุดสกัด รักษาทรัพย์สินของประชาชนที่อพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิง และได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์ ขณะที่ความเสียหาย ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 มีประชาชนผู้ได้รับผลกระทบใน 7 จังหวัด 42 อำเภอ 321 ตำบล 3,884 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 278,506 ครัวเรือน 839 ,935 คน ผู้เสียชีวิต 16 ราย บาดเจ็บ 38 ราย โดยมีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ 7 จังหวัด 36 อำเภอ 238 ตำบล 2,702 หมู่บ้าน ในส่วนศูนย์พักพิง ปัจจุบันมีการทยอยเข้าทยอยออกใน 733 ศูนย์ มีผู้ยังอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง 187,974 ซึ่งส่วนอื่นๆ บางท่านก็อาศัยอยู่บ้านญาติ บางท่านก็อยากจะกลับบ้าน เราจึงมอบหมายผู้ว่าราชการจังหวัดประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ได้พิจารณาแต่และศูนย์ โดนเน้นเรื่องการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนป็นหลัก

นายชำนาญวิทย์ กล่าวว่า สำหรับการเยียวยาช่วยเหลือรัฐบาลได้เพิ่มวงเงินให้แต่จังหวัดในวงเงินทดรองจ่ายจังหวัดละ 100 ล้านบาท ในส่วนอธิบดีกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย 100 ล้านบาท และวันนี้ได้มีการเร่งให้ทำการเบิกจ่ายโดยเฉพาะผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บให้เร่งเบิกจ่ายโดยเร็วทันที ขณะที่การสำรวจความเสียหายได้มีการสั่งการให้ทุกจังหวัดเร่งดำเนินการสำรวจ ชดเชย และเยียายาประชาชนให้เป็นไปตามระเบียบโดยเร็ว ทั้งนี้ ส่วนของการเบิกจ่ายในภาครัฐได้มีการกำหนดพื้นที่บริจาคโดยให้บริจาคมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนสิ่งของให้บริจาคไปที่ศาลาว่าการจังหวัดทุกจังหวัด ส่วนจะเปิดและปิดรับบริจาคเมื่อไหร่ให้เป็นไปตามประกาศของแต่ละจังหวัด ขณะที่กรุงเทพมหานครได้ปิดรับบริจาคไปแล้ว เหลือแต่ที่ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ยังเปิดรับบริจาคอยู่ โดยเมื่อวาน (30 ก.ค.) ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.มหาดไทยได้รับบริจาคจาก ปตท.ประมาณ 6 ล้านบาท และเมื่อ 12.30 น.ที่ผ่านมา ได้มีการปล่อยขบวนสิ่งของที่ได้รับบริจาคจากประชาชนในเขตกรุงเทพฯทยอยส่งไปยัง 7 จังหวัด ในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา

นอกจากนี้ การสนับสนุนเครื่องจักรกล อาทิ รถผลิตอาหาร รถบรรทุกน้ำเราได้มีการสนับสนุนไป 112 คัน และหากประชาชนท่านได้ยังไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลือ หรือตกหล่น สามารถติดต่อมาได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม 1567

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศบ.ทก.ได้เปลี่ยนที่แถลงข่าวจากตึกนารีสโมสร เป็นตึกสันติไมตรี และมีการเปลี่ยนม็อตโตฉากหลัง จากเดิม “รอบคอบ รอบด้าน ใช้สติ อย่างสันติ” เป็น “รวมใจไทยเป็นหนึ่ง”

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ศบ.ทก. จ่อพาสื่อไทย-เทศ ลงพื้นที่จริงไม่สร้างภาพ-บิดเบือน สั่งผู้ว่าฯดูแลปชช.-เร่งจ่ายเยียวยา

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก MATICHON ONLINE

อิซักขอกลับไปซ้อมที่โซเซียดัด รอย้ายไปลิเวอร์พูล

22 นาทีที่แล้ว

เจมส์จิ ร่วมวิ่งการกุศล ทีทีบี | ธนชาตประกันภัย พาร์ครัน 2025 ระดมทุนส่งต่อให้ รพ.ท้องถิ่น

28 นาทีที่แล้ว

บีจีเอฟ ส่งกลับฟิลิปปินส์ 18 ราย เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากเมียวดี กลับประเทศ

39 นาทีที่แล้ว

ทอ.โต้สื่อกัมพูชา ยัน ข่าวสวีเดนระงับขายกริพเพน ไม่เป็นความจริง ชี้ยังอยู่กระบวนการจัดซื้อ

55 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

‘บิ๊กเล็ก’ แจงเหตุย้ายที่ประชุม ‘GBC’ หลังเขมรปลุกปั่นประชาชนเกลียด ‘ไทย’

The Bangkok Insight

คณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เดินทางถึงอุบลราชธานี เตรียมลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดนไทย–กัมพูชา

สยามรัฐ

‘ศิริกัญญา’ ชี้เป็นข่าวดีไทยได้ภาษีสหรัฐ 19% เท่าเพื่อนบ้านอาเซียน

เดลินิวส์

ถก ครม.พิเศษ รับภาษี เมกาฯ บ่ายนี้

THE ROOM 44 CHANNEL

'ศิริกัญญา' ถือเป็นข่าวดี ไทยได้อัตราภาษีนำเข้าสหรัฐ 19%

กรุงเทพธุรกิจ

กัมพูชาเห็นพ้องจัด GBC ที่มาเลเซีย เสนอเชิญ 3 ชาติร่วมสังเกตการณ์

News In Thailand

ข่าวและบทความยอดนิยม

ศบ.ทก. จ่อพาสื่อไทย-เทศ ลงพื้นที่จริงไม่สร้างภาพ-บิดเบือน สั่งผู้ว่าฯดูแลปชช.-เร่งจ่ายเยียวยา

MATICHON ONLINE

งานโครงการหลวง 56 น้ำพระราชหฤทัย จากฟ้าสู่มหานคร เปิด 7 ไฮไลต์จากฟาร์มสู่เมือง

MATICHON ONLINE

กมธ.ตำรวจ รื้อเหตุฮ.ตก 2 ครั้ง ดับ 9 ชีวิต กองบินฯรับ งบซ่อมไม่พอ-นักบินรับมือไม่ได้

MATICHON ONLINE
ดูเพิ่ม