‘เท้ง’ คาดผลลัพธ์ภาษี ‘ทรัมป์’ ไม่เลวร้าย ซัดรัฐไร้มาตรการรับมือ
เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 31 ก.ค. 68 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการออกมาตรการและดำเนินนโยบายรับมือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากข้อตกลงการเจรจาอัตราภาษีตอบโต้ระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกา มี สส.รัฐบาลและฝ่ายค้านเสนอญัตติลักษณะเดียวกันรวม 7 ญัตติ ที่ประชุมจึงให้พิจารณาไปพร้อมกัน
โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทราบข่าวว่า ผลลัพธ์การเจรจาในวันที่ 1 ส.ค. อาจไม่เกิดผลในกรณีเลวร้ายที่สุด น่าจะปรับภาษีต่ำกว่า ร้อยละ 36 เป็นประโยชน์ต่อคนไทยและเกษตรกร แต่สิ่งจำเป็นมากกว่าคือ ต้องรับทราบว่า รัฐบาลนำดีลอะไรไปแลกในการเจรจาครั้งนี้บ้าง ประชาชนจะได้เตรียมตัวรับมือคลื่นสึนามิเศรษฐกิจลูกใหม่นี้ มี 5 ข้อเสนอต่อรัฐบาลคือ 1.เปลี่ยนการวางตัวจากประเทศคอยทำตามกติกาเป็นผู้ร่วมกำหนดกติกาผ่านเวทีอาเซียน 2.เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้นักลงทุน ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากอเมริกา จีน มายังไทย 3.เปิดเวทีเจรจากับประเทศมหาอำนาจที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่เป็นลูกไล่ 4.ยกระดับมาตรฐานประเทศไทยให้ทัดเทียมประเทศพัฒนาแล้วโดยเร็ว 5.กำหนดบทบาทให้ประเทศไทยเป็นผู้นำความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคอาเซียน สิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเดินเกมแบบใด ต้องเดินบนหลักการทางการทูต ไม่ให้ถูกมองไทยเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือภาษีสหรัฐ เมื่อพิจารณาการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 พบว่า ไม่มีการรับมือภาษีทรัมป์ คือ 1.ไม่ระบุชัดเจนมีโครงการใดรับมือผู้ได้รับผลกระทบจากภาษีทรัมป์ มีเพียงการตั้งงบ 100 ล้านบาท จ้างล็อบบี้ยิสต์ในสหรัฐ 2.ไม่มีการเชื่อมโยงโครงการหน่วยงานต่างๆ รับมืออุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ 3.ไม่มีตัวชี้วัดหรือเป้าหมาย เปลี่ยนผ่านห่วงโซ่อุปทาน สะท้อนภาพว่า ไม่มีการเตรียมรับมือจริงจัง และรับมือล่วงหน้า
ภายหลังจากที่ผู้เสนอญัตติทั้ง 7 ญัตติ ได้แสดงเหตุผลแล้ว ก็ให้สมาชิกอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ก่อนนำข้อเสนอแนะ ส่งให้รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาต่อไป.