”บิ๊กเต่า“ รับเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ตรวจสอบพระฯ พบมีเรื่องซื้อขายตำแหน่งพระ อยู่ระหว่างตรวจสอบ
เวลา 14.00 น. วันนี้ (4 ส.ค 68) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้า กรณีเจ้าอาวาสวัดม่วงอ้างเงินและทองหาย ว่า ทางคดีแยกออกเป็น 2 ส่วน ในส่วนของพื้นที่ สน.เพชรเกษม จะตรวจสอบเรื่องให้การเท็จ ซึ่งที่มีผู้เกี่ยวข้อง 2 รายเป็นทั้งพระสงฆ์และฆราวาส จะดำเนินการต่อไปอย่างไร ทางตำรวจพื้นที่จะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนการดำเนินการของ บก.ปปป. อยู่ระหว่างการตรวจสอบบัญชีของวัด โดยพบว่าเจ้าอาวาสบริหารเงินโดยรวมอำนาจเงินเข้าไปที่เจ้าอาวาสทั้งหมด มีการทำรายจ่ายประจำปี โดยมีพระเลขาฯ เป็นผู้รวบรวม ขณะนี้พระเลขาฯ กำลังเรียนอยู่ ตำรวจอยู่ระหว่างติดต่อให้เร่งเข้ามาให้ข้อมูล ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่ามีการร่วมทุจริตด้วยหรือไม่ ตำรวจอยากได้ความร่วมมือเพราะจะเอาผิดเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ส่วนบุคคลอื่นจะสอบไว้เป็นพยาน และจากการตรวจสอบบัญชีของวัดจาก 9 บัญชี ตำรวจได้มาแล้ว 8 บัญชี ยังเหลืออีก 1 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีเงินบริจาคของวัด ที่ยังไม่ได้รับมาตรวจสอบ และพบว่ามีบัญชีของเจ้าวาสอีกจำนวน 2 บัญชี วัดแห่งนี้มีไวยาวัจกร จำนวน 2 คน โดยคนแรกได้ทำการสอบปากคำไว้แล้ว อีกคนอ้างว่าอยู่ต่างจังหวัดตลอดเวลา
ทั้งนี้ ตั้งแต่เปิดศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา มีการแจ้งเรื่องราวมาโดยตลอด รวมกว่า 200 เรื่อง ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้รับไว้ดำเนินการตรวจสอบจำนวน 30 เรื่อง ส่วนอีก 100 กว่าเรื่องได้ส่งให้ตำรวจภูธรภาค 1-9 และกองบัญชาการตำรวจนครบาลไปตรวจสอบต่อ โดยในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีเรื่องร้องเรียนมากที่สุด ส่วนพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 มีเรื่องร้องเรียนน้อยสุด 1-3 เรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเด็นที่เกี่ยวกับการทุจริตเงิน และผู้หญิง หรือแม้กระทั่งสามีไปพบว่าโทรศัพท์ของภรรยามีการพูดคุยกับพระสงฆ์ บางเรื่องมีพยานหลักฐานที่สามารถสืบสวนสอบสวนไปต่อได้ บางเรื่องยังไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจนจะต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบต่อ ยืนยันหากมีพยานหลักฐานชัดเจนจะดำเนินการยอมรับว่ามีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่งเข้ามาผ่านศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนาจริง ส่วนประเด็นการซื้อรถหรูให้ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า ยังไม่มีข้อมูล
ส่วนการซื้อขายตำแหน่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการโอนเงินให้วัดแต่ละวัดครั้งละหลักแสนซึ่งมีการอ้างว่าเป็นเงินทำบุญ หรือเงินบริจาค จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยหรือผิดสังเกตที่มีการทำบุญกันตลอด โดยเฉพาะกรณีของทิศแย้มเงินที่ได้จากวัดมีมากมายมหาศาล จึงไม่จำเป็นจะต้องไปขอจากวัดอื่น และเหตุใดจึงต้องไปขอเงินจากวัดอื่น โดยพบว่ามีเส้นทางการเงินเข้ามาในบัญชีของทิศแย้มครั้งละ 1-5 แสนบาทที่เป็นบัญชีระหว่างวัดโอนมาให้กัน ซึ่งจะต้องตรวจสอบวัดต่างๆ มีการเลื่อนยศตำแหน่งจริงหรือไม่