โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘อนุสัญญาออตตาวา’ ห้ามการใช้ทุ่นระเบิด แต่เขมรกลับละเมิดทั้งที่ร่วมลงนามแล้ว

THE STATES TIMES

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • ดร.ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ขณะที่ทหารชุดลาดตระเวนจำนวน 14 นาย จากกองร้อยทหารพราน 2302 ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกตไปยังเนิน 481 พื้นที่ชายแดนไทย–เขมร จังหวัดอุบลราชธานี ณ พิกัด WA 220 861 โดยได้เหยียบทุ่นระเบิด ชนิดแอนติ–เพอร์ซันนัล (landmine) ทำให้ผู้บาดเจ็บ มี 3 นาย ได้แก่ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ขาขาดต้องผ่าตัด และได้รับการเคลื่อนย้ายไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี ส่วนอีก 2 นายคือ จ่าสิบเอกปฏิพัทธ์ ศรีลาสัก และ พลทหารณัฐวุฒิ ศรีค้ำ บาดเจ็บเล็กน้อย อาการปลอดภัย

ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) และหน่วย EOD กองทัพภาคที่ 2 ได้ทำการตรวจสอบชนิดของระเบิดพบว่าเป็น ทุ่นระเบิดแบบ PMN‑2 ซึ่งมีการติดตั้งใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิด ตกค้าง และตรวจพบอีก 3 ลูกในพื้นที่เดียวกัน PMN-2 เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่มีชนวนระเบิดในตัว ซึ่งทำอันตรายบริเวณฝ่าเท้าผู้เหยียบ ตัวทุ่นทำจากวัสดุพลาสติก จึงตรวจสอบและค้นหาได้ยาก ในความเป็นจริงคือ ไทย และเขมรต่างได้ลงนามใน 'อนุสัญญาออตตาวา' เป็นที่เรียบร้อยมาหลายปีแล้ว โดยอนุสัญญาดังกล่าวเป็นอนุสัญญาห้ามใช้ทุ่นระเบิด หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า “อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิด” (Convention on the Prohibition of the Use, Stockpiling, Production and Transfer of Anti-Personnel Mines and on Their Destruction) มีชื่อย่อว่า 'อนุสัญญาออตตาวา' (Ottawa Treaty)

อนุสัญญานี้มีเป้าหมายหลักในการห้ามใช้งานทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mines) ซึ่งเป็นอาวุธที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อพลเรือน แม้ในยามหลังสงครามสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม โดยมีข้อผูกพันหลักของประเทศภาคีดังนี้ :

- ห้ามใช้ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งออกแบบมาให้จุดชนวนโดยการปรากฏตัวใกล้ชิด
หรือด้วยการสัมผัสของบุคคล
- ห้ามผลิต หรือพัฒนาอาวุธประเภทนี้
- ห้ามสะสมทุ่นระเบิดไว้ในคลังอาวุธ
- ห้ามส่งออก หรือขนย้ายทุ่นระเบิดไปยังประเทศอื่น
- ทำลายทุ่นระเบิดที่มีอยู่ ภายใน 4 ปีหลังการเข้าเป็นภาคี
- ต้องทำลายพื้นที่ทุ่นระเบิดทั้งหมดภายในอาณาเขตของตนภายใน 10 ปี แม้ว่าอาจขยาย

- เวลาได้ภายใต้สถานการณ์บางอย่างก็ตาม
- ต้องให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิด รวมไปถึงการฟื้นฟูร่างกายและ
- จิตใจ
- รัฐภาคีจะต้องรายงานเกี่ยวกับคลังเก็บทุ่นระเบิด ลักษณะทางเทคนิคของทุ่นระเบิด ที่ตั้ง
- ของพื้นที่ทุ่นระเบิด และความคืบหน้าของโครงการทำลายทุ่นระเบิดเป็นรายงานประจำปี
- เกี่ยวกับความคืบหน้าในการปฏิบัติตามอนุสัญญาทุกปี

สถานะของอนุสัญญา เริ่มมีการให้ลงนามในปี ค.ศ. 1997 ที่กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา และมีผลบังคับใช้เมื่อ 1 มีนาคม 1999 มีประเทศลงนามและให้สัตยาบันแล้วมากกว่า 160 ประเทศ อนุสัญญาออตตาวาถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขผลกระทบด้านมนุษยธรรมจากทุ่นระเบิดซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตจำนวนมาก และขัดขวางการพัฒนาในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ อันเป็นผลจากการเคลื่อนไหวทั่วโลกเพื่อห้ามอาวุธประเภทนี้

ซึ่งนำโดยแคนาดาและองค์กรนอกภาครัฐอื่น ๆ แม้ว่าอนุสัญญาดังกล่าวจะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง แต่ประเทศมหาอำนาจทางทหารบางประเทศ ไม่ได้เข้าร่วม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย จีน อินเดีย อิสราเอล และเมียนมา ด้วยการอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงทางทหาร แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ แต่อนุสัญญาดังกล่าวก็ส่งผลให้การใช้และการเข้าถึงทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคลลดลงอย่างมาก และยังกระตุ้นให้มีความพยายามในการกำจัดทุ่นระเบิดทั่วโลกอีกด้วย สำหรับประเทศไทยได้ให้สัตยาบันต่ออนุสัญญานี้เมื่อปี พ.ศ. 2542 (1999) และได้ดำเนินการ ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้ว มีการดำเนินงาน เก็บกู้ทุ่นระเบิด และ ฟื้นฟูพื้นที่ชายแดน หลายจุด ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่บางส่วนที่อาจยังมีทุ่นระเบิด โดยเฉพาะแนวชายแดนไทย-เขมร

เขมรเข้าเป็นรัฐภาคีของสนธิสัญญาออตตาวา เมื่อ 3 มกราคม 2000 โดยได้รับการรับรองเมื่อ 28 กรกฎาคม 1999 มีผลบังคับใช้สำหรับเขมร เมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) ด้วยเขมรประสบปัญหาทุ่นระเบิดจำนวนมาก ซึ่งเป็นมรดกจากความขัดแย้งหลายทศวรรษ (ยุคเขมรแดง สงครามกลางเมือง และความขัดแย้งในภูมิภาค) จึงมีการกำจัดทุ่นระเบิดและช่วยเหลือเหยื่ออย่างแข็งขัน โดยมีองค์กรต่าง ๆ เช่นศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดเขมร (CMAC) มีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติการกวาดล้าง และได้รับการสนับสนุนและเงินทุนระหว่างประเทศเพื่อความพยายามในการกำจัดทุ่นระเบิด กองทัพเขมรอ้างว่า ได้ทำลายคลังทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทั้งหมดที่มีตามที่สนธิสัญญากำหนดไว้

แต่ทุ่นระเบิด แบบ PMN‑2 ซึ่งมีการติดตั้งใหม่ เป็นทุ่นระเบิดจากรัสเซีย และไม่เคยมีใช้ในกองทัพไทย จึงเป็นไปได้สูงมากที่ทหารเขมรจะนำมาลักลอบวางเอาไว้ในดินแดนไทย และกองทัพเขมรเองก็ไม่ได้ทำลายทุ่นระเบิดที่มีอยู่ ภายใน 4 ปีหลังการเข้าเป็นภาคี ซึ่งต้องทำลายให้หมดก่อน 1 มกราคม พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) ถือได้ว่า เขมรจึงละเมิด "อนุสัญญาออตตาวา" อย่างชัดเจน แม้จะไม่มีบทลงโทษเมื่อมีการละเมิด แต่อนุสัญญานี้ก็มีหลายมาตรการที่ถือเป็นการลงโทษหรือแรงกดดัน ดังนี้ :

- การประณามจากรัฐภาคีอื่น ประเทศที่ละเมิดอาจถูกประณามในที่ประชุมรัฐภาคีประจำปี ส่งผลต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในเวทีระหว่างประเทศ
- แรงกดดันทางการทูตและการเมือง การละเมิดอาจนำไปสู่การกดดันทางการทูต เช่น การระงับความช่วยเหลือ การตัดสัมพันธ์บางส่วน
- การระงับสิทธิ์บางประการในอนุสัญญา เช่น การถูกจำกัดบทบาทในการออกเสียง หรือการถูกปฏิเสธความร่วมมือทางเทคนิค
- การเผยแพร่รายงานการละเมิดต่อสาธารณะ รายงานการละเมิดจะถูกรายงานต่อประชาคมโลกผ่านสื่อและองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ICBL (International Campaign to Ban Landmines)
- การตัดความช่วยเหลือหรือความร่วมมือทางเทคนิค ประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามอาจไม่ได้รับการสนับสนุนในการกู้ทุ่นระเบิดหรือการช่วยเหลือเหยื่อจากองค์กรระหว่างประเทศ

ดังนั้น เมื่อทหารเขมรลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด แบบ PMN‑2 ในดินแดนไทย นอกจากจะเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทยแล้ว ยังเป็นการละเมิดและฝ่าฝืนข้อกำหนดตามอนุสัญญาออตตาวาอย่างชัดเจนอีกด้วย รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศต้องดำเนินการประท้วง เพื่อให้รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาได้ร่วมประณามและลงโทษในการกระทำของเขมรในครั้งนี้โดยเร็วที่สุด

เรื่อง: ดร.ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE STATES TIMES

EU คว่ำบาตร!! โรงกลั่นน้ำมัน Vadinar ใหญ่อันดับ 2 ของอินเดีย ‘อินเดีย’ โต้กลับ!! จะซื้อพลังงาน ตามผลประโยชน์ของประเทศ

47 นาทีที่แล้ว

‘รัฐบาล’ เดินหน้าเต็มสูบ ดูแล SMEs จัดเต็มทุกมาตรการช่วยเหลือ เพื่อให้เข้าถึงสินเชื่อ ล่าสุด บสย. ช่วย SMEs รายย่อย มียอดค้ำประกันสินเชื่อครึ่งปีแรกเกือบ 2 หมื่นล้านบาท

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น สร้างความหวังใหม่ ให้วงการแพทย์ หลังตัด!! โครโมโซมต้นเหตุ ‘ดาวน์ซินโดรม’ ได้สำเร็จ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สื่อเขมร วิเคราะห์ ‘ทักษิณ’ จบเห่แน่!! หาก ‘ฮุนเซน’ เปิดหลักฐาน ชี้!! สังคมไทย รับไม่ได้!! กับการดูหมิ่น สถาบันเบื้องสูง ที่เคารพรัก

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

‘ปลอดประสพ’ วิจารณ์!! กฎหมายเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนา ลั่น!! ‘พระสงฆ์ที่ต้องปาราชิก เพราะเสพเมถุน’ ไม่ใช่อาชญากร

THE STATES TIMES

แม่ทัพภาค 2 เตรียมตอบโต้กัมพูชา ลั่น!เล่นสกปรก วางระเบิดช่องบกกว่า 100 ลูก

The Bangkok Insight

หมอทศพร ตั้งข้อสงสัย หรือนี่เป็นสาเหตุให้น้ำท่วม

มุมข่าว

ลุงสมหมาย น้ำตาคลอ ลั่นอายุ 60 ก็ยังรบได้ ขอปกป้องแผ่นดินไทย!

มุมข่าว

LIVE ดูบอลสด "แมนยู พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด" ฟุตบอลอุ่นเครื่อง เวลา 20.00 น.

คมชัดลึกออนไลน์

พบ “การเกิดดาวเคราะห์ดวงใหม่” นับเป็นครั้งแรกของโลกที่พบการก่อตัวรอบดาวฤกษ์ดวงอื่น

Manager Online

(คลิป)“ลุงสมหมาย”ชกทหารเขมรขึ้นศาลจันทร์นี้ ทนายโนบิแจ้งความจับ”โมนิก้า”หญิงเขมรยุยงปลุกปั่น

Manager Online

ด่วนที่สุด ผู้ว่าเมืองกาญจน์ เตือนประชาชน 2 อำเภอ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก

มุมข่าว

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...