สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 20 ก.ค. 68
1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงใหม่(76 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.นครพนม (52 มม.) ภาคกลาง : จ.สมุทรปราการ (42 มม.) ภาคตะวันออก : จ.ตราด (87 มม.) ภาคตะวันตก : จ.ประจวบคีรีขันธ์ (75 มม.) ภาคใต้ : จ.ชุมพร (70 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักบางพื้นที่
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 20 – 24 ก.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากในบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น
พายุโซนร้อน “วิภา”ปัจจุบันอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือ คาดว่าจะเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวตังเกี๋ย และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 21 - 22 ก.ค. 68
2. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก :
น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค
แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร
แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
3. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 58% ของความจุเก็บกัก (47,117 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 40% (22,999 ล้าน ลบ.ม.)
สทนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยเน้นการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยและเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน พร้อมทั้งสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน และจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างทั่วถึงและทันท่วงที
4. ข่าวประชาสัมพันธ์ : เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 68 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และคณะฯ เข้าร่วมการประชุมคณะทำงานของคณะกรรมการร่วมคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Joint Committee Working Group: JCWG) ครั้งที่ 2 เพื่อเตรียมการจัดประชุมสุดยอดผู้นำฯ ร่วมกับหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS CEO) เจ้าหน้าที่จาก MRCS และผู้แทนจากประเทศสมาชิก ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ผ่านระบบการประชุมทางไกล ณ โรงแรม Central.Palace.Hotel.เมืองโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
วัตถุประสงค์ของการประชุม JCWG. ครั้งนี้ ได้แก่.การร่วมกันหารือและยืนยันธีมหลักของการประชุมสุดยอดผู้นำฯ ครั้งที่ 5 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความท้าทายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในลุ่มน้ำโขง รวมถึงการให้ข้อคิดเห็นต่อร่างปฏิญญากรุงเทพฯ (Bangkok..Declaration).ฉบับที่ 1 โดยประเทศสมาชิกได้เห็นชอบธีม “Growing Together and Stronger for People, Partnership, and Prosperity in the Mekong River Basin” และร่วมอภิปรายอย่างรอบด้าน พร้อมเสนอให้ MRCS.ปรับปรุงร่างปฏิญญาฯ ตามข้อเสนอแนะ ก่อนจัดส่งให้ประเทศสมาชิกพิจารณาในลำดับถัดไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบความคืบหน้าของร่างกำหนดการการประชุมวิชาการนานาชาติ ซึ่งจะจัดควบคู่กับการประชุมสุดยอดผู้นำฯ เพื่อเสริมสร้างเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจากทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดผู้นำ MRC ถือเป็นเวทีระดับสูงสุดของกลไกความร่วมมือในลุ่มน้ำโขง โดยเปิดโอกาสให้ผู้นำจากประเทศสมาชิก ได้แก่ ประเทศไทย สปป.ลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม แสดงเจตจำนงร่วมกันในการขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของลุ่มน้ำโขงโดยเน้นย้ำความเป็นหนึ่งเดียว ของความร่วมมือ และความรับผิดชอบร่วมกันในการรับมือกับความท้าทายของภูมิภาค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 19 ก.ค. 68