ท้องเสียกินอะไรหากไม่มียา? เผยสูตรเกลือแร่ทำเอง และวิธีปฏิบัติตัวให้ฟื้นตัวไว
เมื่อเกิดอาการท้องเสีย โดยไม่มีตัวยาหรือเกลือแร่ในบ้าน การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีถือเป็นเรื่องสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักอาหารที่ควรกิน ควรหลีกเลี่ยง และวิธีฟื้นตัวให้ร่างกายแข็งแรงได้โดยไม่ต้องพึ่งยาในทันที
รู้จักกับอาการท้องเสีย
ท้องเสีย คือภาวะที่ร่างกายถ่ายอุจจาระบ่อยหรือเหลวกว่าปกติ โดยอาจเกิดจากอาหารเป็นพิษ การติดเชื้อไวรัส/แบคทีเรีย หรือการแพ้อาหารบางชนิด หากไม่ดูแลให้ดี อาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำหรือเกลือแร่ได้
ท้องเสียกินอะไรได้บ้างหากไม่มียา
เมื่อท้องเสียร่างกายจะสูญเสียน้ำและแร่ธาตุอย่างรวดเร็ว การเลือกกินอาหารที่เหมาะสมจะช่วยชดเชยสารอาหารและฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ยังไม่มียาใกล้ตัว
อาหารที่ควรกินเมื่อท้องเสีย ควรเน้นอาหารย่อยง่าย อ่อนต่อระบบทางเดินอาหาร และมีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
ข้าวต้ม โจ๊ก หรือข้าวสวยนิ่ม ๆ: ให้พลังงานโดยไม่ระคายเคืองลำไส้ เหมาะสำหรับเริ่มกินหลังจากลำไส้สงบลงเล็กน้อย
กล้วยสุก (โดยเฉพาะกล้วยหอม): มีโพแทสเซียมและเพคติน ซึ่งช่วยดูดซับน้ำในลำไส้ ลดการถ่ายเหลว
แครกเกอร์จืด ขนมปังขาว: ให้พลังงานจากแป้งโดยไม่ทำให้ลำไส้ทำงานหนัก
น้ำข้าว: น้ำที่ได้จากการหุงข้าว สามารถช่วยรักษาสมดุลของเหลวและดูดซึมได้ดี ช่วยลดอาการถ่ายบ่อย
แอปเปิลปอกเปลือก: มีเส้นใยเพคตินแบบละลายน้ำ ช่วยเพิ่มความหนืดของอุจจาระ
ซุปไก่ใส (ไม่ใส่เครื่องเทศหรือไขมัน): ให้พลังงาน น้ำ และโซเดียมในปริมาณพอเหมาะ
เคล็ดลับ: กินอาหารวันละน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง เพื่อไม่ให้ลำไส้ทำงานหนัก ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด นมสด ของทอด และผักผลไม้สดในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรก
สูตรเกลือแร่ทำเองได้ง่ายๆ
หากไม่มีผงเกลือแร่ ORS ติดบ้าน ก็สามารถทำสูตรเกลือแร่เองได้ง่าย ๆ โดยใช้วัตถุดิบที่มีในครัว ดังนี้
สูตรเกลือแร่สำหรับผู้มีอาการท้องเสีย (แนะนำโดย WHO)
น้ำต้มสุกที่สะอาด 1 ลิตร
เกลือป่นสะอาด ½ ช้อนชา
น้ำตาลทรายขาว 6 ช้อนชา (หรือประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ)
วิธีทำ:
ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน คนจนน้ำตาลและเกลือละลายจนหมด ควรดื่มทีละน้อยแต่บ่อย ๆ เช่น จิบทุก 5–10 นาที โดยเฉพาะหลังการถ่าย
ข้อควรระวัง:
ห้ามใส่น้ำตาลมากเกินไป เพราะอาจทำให้ท้องเสีย หนักขึ้น
ไม่ควรใช้เครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับนักกีฬาแทน ORS เพราะมีน้ำตาลสูงเกินไปและมีสัดส่วนอิเล็กโทรไลต์ที่ไม่เหมาะกับผู้ท้องเสีย
ใช้เมื่อไร: ควรเริ่มจิบน้ำเกลือแร่ทันทีที่มีอาการถ่ายเหลว โดยไม่ต้องรอให้มีอาการขาดน้ำ เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว
ท้องเสียไม่ควรกินอะไร
เพื่อป้องกันไม่ให้อาการท้องเสียแย่ลง ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้
อาหารมัน ของทอด
นมและผลิตภัณฑ์จากนม
ผักสด ผลไม้ที่มีกากใยสูง
อาหารรสจัด เผ็ด เปรี้ยว
กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์
อาหารหมักดอง หรือของที่ไม่สดใหม่
วิธีปฏิบัติตัวเมื่อท้องเสีย
พักผ่อนให้เพียงพอ
จิบน้ำหรือเกลือแร่บ่อยๆ ไม่ควรดื่มทีละมากๆ
งดกินยาหยุดถ่ายเอง หากยังไม่รู้สาเหตุ
สังเกตอาการ เช่น มีไข้สูง ถ่ายเป็นเลือด คลื่นไส้มาก ควรรีบพบแพทย์
ท้องเสียกี่วันควรพบแพทย์?
โดยทั่วไปท้องเสียที่ไม่รุนแรงจะหายได้เองภายใน 1-2 วัน แต่ควรไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการต่อไปนี้:
ถ่ายบ่อยกว่า 6 ครั้งต่อวัน หรือถ่ายตลอดทั้งวัน
มีอาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ปัสสาวะน้อย หน้ามืด
ถ่ายเป็นเลือดหรือมีมูก
ปวดท้องรุนแรง หรือมีไข้สูง
เป็นเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัว
สรุป
การดูแลตัวเองเมื่อท้องเสีย โดยไม่มีตัวยา ต้องเริ่มจากการกินอาหารที่ถูกต้อง และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2–3 วัน หรือมีสัญญาณอันตราย ควรรีบพบแพทย์เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
อ่านเพิ่ม