โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

เคสตัวอย่าง DSI เผยคดี “ไซตาพลัส” โดนโทษอ่วม ศาลจำคุก-ปรับยกทีม

Thaiger

อัพเดต 20 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.44 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Thaiger ข่าวไทย

DSI เดินหน้าปราบโฆษณาเกินจริง คดี “ไซตาพลัส” ศาลตัดสินจำคุก-ปรับยกทีม เตือนอย่าหลงเชื่อสรรพคุณบนโลกออนไลน์

คำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ในคดีหมายเลขดำที่ อ. 349/2568 และหมายเลขแดงที่ อ. 297/2568 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และพระราชบัญญัติอาหาร

กรณีโฆษณาอาหารเสริมเกินจริง “SAITA Plus” หรือ “ไซตาพลัส” ที่อ้างสรรพคุณสามารถรักษาโรคตาได้

ล่าสุดศาลพิพากษาว่าจำเลยทั้ง 6 ราย ซึ่งประกอบด้วยนิติบุคคล 2 ราย และบุคคล 4 ราย มีความผิดฐานร่วมกันหลอกลวงนำเข้าข้อมูลอันเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันโฆษณาอาหารฝ่าฝืนกฎหมาย ศาลมีพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 2 – 6 คนละ 3 ถึง 5 ปี และปรับรวมตั้งแต่ 110,000 – 220,000 บาทเนื่องจากจำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา สั่งให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าปรับ 55,000 บาท จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 จำคุก 18 เดือน ปรับคนละ 55,000 บาท จำเลยที่ 5 จำคุก 36 เดือน ปรับ 110,000 บาท จำเลยที่ 6 จำคุก 18 เดือน ปรับ 110,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษ 1 ปี

คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อธ.ค.2561ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ได้รับร้องเรียนจากประชาชนและจักษุแพทย์เกี่ยวกับการโฆษณาอาหารเสริม “ไซตาพลัส” ซึ่งอ้างว่าสามารถรักษาโรคตา เช่น ต้อหิน ต้อกระจก และต้อเนื้อได้ จากการตรวจสอบทางการแพทย์ยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดังกล่าวไม่มีส่วนผสมของสารออกฤทธิ์ใดที่สามารถรักษาโรคทางตาได้จริง และไม่สามารถใช้แทนการรักษาทางการแพทย์ได้ตามที่มีการโฆษณา

ต่อมาส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากหลงเชื่อและตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ไปใช้แล้วไม่ได้รับผลการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมตามที่เข้าใจ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ฯ จึงร้องเรียนต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อดำเนินการปิดเว็บไซต์โฆษณาเท็จ

โดยต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษที่ 53/2563 ได้สอบสวนและมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ไปยังพนักงานอัยการ จนศาลมีคำพิพากษาลงโทษผู้ต้องหาผลปรากฏตามข้างต้น

ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงขอเตือนประชาชนให้ใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลด้านสุขภาพ โดยเฉพาะโฆษณาอาหารเสริมผ่านสื่อออนไลน์ ควรตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากมีการอ้างสรรพคุณรักษาโรค ให้ตั้งคำถามว่า “มีผลวิจัยรองรับหรือไม่” และ “ได้รับการรับรองจากหน่วยงานรัฐใดหรือไม่” เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาเกินจริง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thaiger

สับเละ ศ.ดร.นฤมล ใส่ยีนส์เปิดงาน ศธ. รักชนก ถามทำไมทีครูห้ามใส่

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ยืนยัน ทุ่นระเบิดไม่ใช่ของไทย ซัดกัมพูชาแย้งกันเอง ปล่อยภาพปลอม วอนหยุดให้ข่าวเท็จ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ด่วน กยศ. ขอโทษผู้กู้ยืม หักเงินเกินอัตโนมัติ เร่งคืนเงินเร็วที่สุด ภายใน 3 วัน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ฮ่องกงประกาศ T10 “ไต้ฝุ่นวิภา” จ่อถล่ม อัมพาตทั้งเกาะ-ยกเลิก 500 เที่ยวบิน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความอาชญากรรมอื่น ๆ

เรือประมง ถูกคลื่นซัดอับปางกลางทะเล ลูกเรือลอยคอ-ช่วยได้หวุดหวิด

Amarin TV

นทท.หนุ่มจีน เล่นน้ำทะเลลุยคลื่นเกาะลันตา คลื่นพัดร่างจมหายต่อหน้าเพื่อน

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

รวบ มินนี่ รับจ้างเปิดบัญชีม้า รับโอนเงินให้แก๊งหลอกทำภารกิจ

สยามนิวส์

สลด! หลานคลั่งกระหน่ำแทงอาดับร่างพรุน ก่อนปีนหลังคากล่อมนาน 4 ชั่วโมง

เดลินิวส์

ตำรวจภูธรภาค 2 โชว์ “พัทยาโมเดล” แซนด์บ็อกซ์เมืองท่องเที่ยวปลอดภัย CRIME MAPPING ล็อกเป้าลดอาชญากรรมเห็นผล กล้องอัจฉริยะ 5 จุดแลนด์มาร์ก

สวพ.FM91

รวบสาวสองตั้งบริษัทจัดหางาน ลวงแรงงานไปแคนาดา ก่อนเชิดเงินหนี

สวพ.FM91

สึกแล้ว! อดีตรอง ผบ.ตร. เดือดสลัดผ้าเหลืองบุกโรงพักแจ้งจับ เมีย

มุมข่าว

เตือนผู้ปกครอง! ตำรวจกวาดล้างเด็กแว้น ยึด จยย.เสียงดัง 6 คัน ดำเนินคดี

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...