งบฯสธ.ปี 69 ราว 1.77 แสนล้าน เป้าสร้างรายได้ ลดค่าใช้จ่ายนำเข้ายา

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 กำลังพิจารณาแปรฯญัตติงบฯหน่วยงานรัฐ ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานต่างเฝ้ารอผลการพิจารณาของสภาผู้แทนฯ

สำหรับสธ. ได้รับงบประมาณปี 2569 จำนวน 177,639.6 ล้านบาท ตั้งเป้าหมาย“ยกระดับสาธารณสุขไทย แข็งแรงทุกวัย เศรษฐกิจสุขภาพไทยมั่นคง” โดยเรื่องหนึ่งที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เน้นย้ำ คือ การสร้างรายได้ด้วยการสนับสนุนการผลิตยาและเวชภัณฑ์ภายในประเทศ

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ได้สั่งการให้กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกผลิตยาไทย สมุนไพรไทย ให้มากขึ้น โดยให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สป.สช.) เร่งรัดการขับเคลื่อนใช้สมุนไพรไทยมากขึ้น เพื่อลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ สร้างรายได้ในประเทศแทน

ในการปฏิบัติงานของกรมการแพทย์แผนไทยฯเมื่อได้รับงบประมาณจะยึดถือพันธกิจ พัฒนาแหล่งผลิตและผลิตภัณฑ์สมุนไพร คุ้มครอง อนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทย เพื่อตอบสนองนโยบายของรมว.สธ. คือ

• การแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือกและสมุนไพร ส่งเสริมการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและซอฟท์ พาวเวอร์ไทย
• จำนวนศูนย์เวลเนสและแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ได้รับการยกระดับเป็นศูนย์เวลเนสอัตลักษณ์ไทย
• การแพทย์ทางเลือกและสมุนไพรให้มีคุณค่าและมูลค่าสูงเพิ่มขึ้น
  

กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้กำหนดแนวการปฏิบัติไว้ชัดเจนในการเสนอของบประมาณ เช่น แผนงานบูรณาการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว, โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น

เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวจากอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก อีกทั้่ง ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้มีความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมความงามและเครื่องสำอาง

ตั้งแต่ตุลาคมปีนี้ไปถึงปีหน้า งบประมาณที่กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก จะถูกนำไปใช้เพื่อสร้างรายได้และคุณค่าเชิงเศรษฐกิจ โดยลดการนำเข้ายา สนับสนุนการใช้ยาสมุนไพรแทนยาตะวันตก สร้างอาชีพผ่านบริการหัตถการ พัฒนาการนวดเฉพาะทาง

สร้างงานให้ผู้ประกอบการสปาและหมอนวดไทยให้มีฝีมือมากขึ้น และสามารถเก็บรายได้จากการบริการเฉพาะทาง เช่น โรคปวด, หมอนรองกระดูก เป็นต้น รวมถึง ขยายตลาดไทยให้เป็นศูนย์สุขภาพนานาชาติ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สมุนไพร

"การดำเนินการเหล่านี้ ปี 2569 จึงเป็นแห่งการลงทุนด้านการแพทย์แผนไทยอย่างจริงจัง ระบสาธารณสุขไทยมิติใหม่จะเกิดขึ้น สู่เป้าหมายการสร้างรายได้ ลดค่าใช้จ่ายยาจากการนำเข้ายา สร้างงานและอาชีพหมอนวด และผู้ผลิตสมุนไพร” น.ส.ตรีชฎากล่าว