โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

นักวิชาการ มธ.เชื่อต่างชาติเมิน TouristDigiPay ชี้ขั้นตอนยุ่งยาก แนะทำ "Blockchain Analytics" ป้องกันฟอกเงิน

Manager Online

เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

จากกรณีที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดตัวโครงการ TouristDigiPay เพื่อต้องการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถแปลงมาเป็นเงินบาทผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเงินบาทนั้นจะถูกโอนเข้าสู่กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) เพื่อนำไปใช้ชำระเงินตามร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งเบื้องต้นรัฐบาลจะดำเนินการทดสอบในพื้นที่ Sandbox เป็นระยะเวลา 18 เดือนนั้น

นายอาณัติ ลีมัคเดช อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการ TouristDigiPay ของรัฐบาล เป็นเพียงการสร้างสีสันและค่อย ๆ สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสินทรัพย์ดิจิทัลให้มากขึ้น แต่ถ้าโฟกัสเฉพาะโครงการนี้ ค่อนข้างมั่นใจว่าคงไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสนใจเข้าร่วม และไม่เข้าใจ และมองไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องมีการจัดทำพื้นที่ Sandbox ด้วยเหตุผลอะไร

นั่นเพราะในสถานการณ์ความเป็นจริง นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและประชาชนทั่วไป สามารถใช้สินทรัพย์ดิจิทัล เช่น คริปโทเคอร์เรนซี บิทคอยน์ ฯลฯ เพื่อซื้อสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการร้านค้าที่เปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรงได้อยู่แล้ว ไม่ต้องแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท ไม่ต้องเสียเวลาในกระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยต่าง ๆ และไม่มีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ. 2501 อยู่แล้ว

นายอาณัติ กล่าวว่า พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ. 2501 ได้ระบุหลักการที่สำคัญแต่เพียงว่า ห้ามมิให้มีการพิมพ์เงินเป็นของตนเอง และเงินบาทนั้นเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย กล่าวคือ หากต้องชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยตามเวลาที่กำหนดไว้กับเจ้าหนี้ ก็จะต้องชำระเป็นเงินบาทเท่านั้น ไม่สามารถชำระด้วยเงินสกุลอื่นได้ และการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะนำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทย ก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายการควบคุมเงินตราระหว่างประเทศ

"ดังนั้น เมื่อไม่มีความผิดตามกฎหมาย ก็ไม่เป็นจำเป็นต้องแก้ไขกฎระเบียบบางอย่างให้มีความพิเศษ หรือยืดหยุ่นสำหรับการทดลองใช้งาน จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงต้องมีการทำ Sandbox นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการในไทย เช่น ร้านลิ้มเหล่าโหงว ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าแรกในประเทศไทย ที่รับชำระเงินด้วยบิทคอยน์เป็นตัวอย่างอยู่ก่อนแล้ว รวมไปถึงการซื้อคอนโดฯ บางแห่ง ก็สามารถชำระได้ด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน" นายอาณัติ กล่าว

พร้อมระบุว่า นอกจากนี้ กระบวนการขั้นตอนที่ชาวต่างชาติ จะแลกเปลี่ยนจากสินทรัพย์ดิจิทัลมาเป็นเงินบาทได้ ก็มีความซับซ้อนหลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาท ผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ที่อยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้บริการ (Know Your Customer: KYC) เมื่อได้เงินบาทมาแล้ว ชาวต่างชาติจะต้องไปสมัครกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ที่มีให้บริการในไทย เช่น TrueMoney Wallet, ShopeePay, Rabbit LINE Pay หรือบัตรเติมเงินของธนาคารต่าง ๆ และจะต้องยืนยันตัวตน KYC อีกรอบ เพื่อโอนเงินบาทเข้าสู่ e-Money จึงจะสามารถซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ได้

"จากขั้นตอนทั้งหมดที่พูดมา ขอถามจริง ๆ ว่าจะมีต่างชาติสักกี่คนที่ยอมทำ ส่วนตัวค่อนข้างมีความเชื่อมั่น ว่าคงไม่มีต่างชาติคนไหนทำ เพราะพวกเขามีคริปโท มีบิทคอยน์อยู่ในกระเป๋าเงินสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ E-wallet ของเขาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแอป MetaMask Wallet, แอป Trust Wallet ซึ่งเป็นแอปที่ใช้กันในระดับสากล ที่ไม่จำเป็นต้องทำ KYC ก็สามารถเดินไปซื้อของจากร้านที่เขารับสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ได้โดยตรง ไม่ต้องไปแลกเงินบาท ไม่ต้องไปสมัคร e-Money ให้ยุ่งยาก แล้วผู้ประกอบการหรือร้านค้าเหล่านี้ เขาก็แค่สมัครแอป MetaMask Wallet, แอป Trust Wallet เช่นกัน เพื่อรับคริปโท หรือบิทคอยน์จากชาวต่างชาติ และร้านค้าก็สามารถนำไปแปลงเป็นเงินบาทได้ที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีแค่ขั้นตอนนี้เท่านั้นที่จะต้องมีการทำ KYC" นายอาณัติ กล่าว

นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุนี้ กระบวนการที่เชื่อกันว่าจะมีการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท จึงจะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ภาครัฐควรทำมากกว่า คือ การหาหนทางแก้ไขปัญหาการฟอกเงิน เพราะการใช้แอปพลิเคชัน MetaMask Wallet และ Trust Wallet ที่ไม่มีขั้นตอนการทำ KYC ทำให้ไม่เห็นตัวตนผู้ใช้งาน ยากแก่การกำกับติดตาม และนี่คือปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ว่ารัฐบาลจะมีการประกาศโครงการ TouristDigiPay หรือไม่

มากไปกว่านั้น สิ่งเหล่านี้ คือเทรนด์ของอนาคตที่กำลังรุกคืบเข้ามาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง หากในวันข้างหน้า ประเทศไทยมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลักแทนเงินบาท สิ่งที่จะเกิดขึ้น และเป็นสิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รู้สึกกังวลยิ่งกว่าปัญหาการฟอกเงิน ก็คือการสูญเสียบทบาทในการดำเนินนโยบายทางการเงินของ ธปท. ทั้งการควบคุมอัตราดอกเบี้ย การควบคุมเงินเฟ้อ จากความเสี่ยงที่เงินบาทอาจไม่ได้เป็นสื่อหลักในการชำระเงินของประเทศอีกต่อไป ซึ่งหากปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไป อำนาจของเงินบาทและอำนาจของ ธปท. จะหายไปโดยอัตโนมัติ

"ถึงเวลาที่ผู้ดำเนินนโยบายทางการเงินของไทย จะต้องเตรียมการรับมืออย่างจริงจัง ณ วันนี้ ประเทศที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลกอย่างสิงคโปร์ ดูไบ ฯลฯ ล้วนมีสิ่งที่เรียกว่า Blockchain Analytics ทั้งหมด เพื่อการติดตามการไหลของสินทรัพย์ การตรวจจับกิจกรรมที่น่าสงสัย และการทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ ส่วนตัวคิดว่ากลไกอันนี้ เป็นสิ่งที่ผู้ดำเนินนโยบายทางการเงิน อย่างแบงก์ชาติ หรือ ปปง. ควรจะหันมาให้ความสนใจไว้บ้างแล้ว ดังนั้น การที่ รมว.คลัง ได้ออกมาประกาศโครงการนี้ ก็ถือเป็นการกระตุ้นให้หน่วยงานเหล่านี้ต้องตื่นตัวมากขึ้น" นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าว

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

“น้องเลอา” แฮปปี้! “แม่ไอซ์” เฉลยเบบี๋คนที่ 2 ได้ลูกชาย (คลิป)

23 นาทีที่แล้ว

"กรมการค้าภายใน" จัดใหญ่! ชวนช้อปของดีชุมชนทั่วไทย ในงาน Soft Power Connects Local to Global 2025

28 นาทีที่แล้ว

“พงศ์กวิน” เดินหน้ายกระดับมาตรฐานความปลอดภัยแรงงานไทย ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุ “ชีวิตคนทำงานต้องมาก่อน”

51 นาทีที่แล้ว

ศาลบุรีรัมย์สั่งจำคุก 830 ปีนายหน้าสาวแสบ อ้างเป็นทูตตุ๋นแรงงาน 166 คนไปออสเตรเลียสูญกว่า 10 ล้าน

56 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

วางแผนและออกแบบชีวิตอย่างไร? ก่อนเกษียณอายุในวัย 45 ปี

PostToday

'ภูมิธรรม' นั่งหัวโต๊ะประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 5 ติดตามความคืบหน้าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท

VoiceTV

ไม่ต้องกังวล ไม่ใช่ทุกคน ถูกจำกัดวงเงินโอน 5 หมื่นบาท

PPTV HD 36

"พงศ์กวิน" เดินหน้า ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยแรงงานไทย

สยามรัฐ

เปิดงาน Food & Hospitality Thailand 2025 ผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ยุคใหม่

VoiceTV

ธปท. แจงจำกัดวงเงินโอนไม่เกิน 50,000 บาท/วัน ไม่กระทบทุกคน

PostToday

เวียดนามพลิกเกม ส่งออกข้าวคาร์บอนต่ำ ราคาข้าวขึ้นแซงแพงกว่าไทย | คุยกับบัญชา | 18 ส.ค. 68

BTimes

สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2 ติดลบ 0.9% ธปท.สุดห่วง SME กู้ยาก-หนี้เสียพุ่ง-ซมพิษภาษีทรัมป์

Thairath Money

ข่าวและบทความยอดนิยม

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ไฟเขียวโยกงบ 2.6 หมื่นลบ. เป็นงบกลางฉุกเฉิน

Manager Online

CH เผยทิศทาง Q3 เร่งเจรจาคู้ค่ารับมือภาษีสหรัฐฯ

Manager Online

ขึ้นบัญชีดำกรรมการ บจ. / สุนันท์ ศรีจันทรา

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...