โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ศบ.ทก.สรุปสถานการณ์ จับเขมรหนีเข้าไทย 37 คน เผยรายได้ไม่พอ ต้องยอมเสี่ยงหนีเข้าเมือง

Thai PBS

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • Thai PBS

วันนี้ (31 ส.ค.2568) ศบ.ทก. รายงานสถานการณ์การสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า บันทึกเหตุการณ์พิพาทบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา วันที่ 30 ส.ค.2568 ตามรายงานจาก กองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพภาคที่ 2 และกองกำลังบูรพา ได้สรุปเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ดังนี้

สถานการณ์ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยรวม มีการตรวจพบความเคลื่อนไหวของทหารฝ่ายกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบโดรนบริเวณพื้นที่ช่องบก 1 ลำ และอยู่ระหว่างการติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามอย่างใกล้ชิด

กองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมพร้อมในการตอบโต้ตามสถานการณ์

กรณีข้อกล่าวหาฝ่ายกัมพูชาต่อการใช้สารพิษของฝ่ายไทย
ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อออนไลน์ของกัมพูชา มีการเผยแพร่ภาพทหารกัมพูชาสวมใส่หน้ากากป้องกันสารพิษ พร้อมกล่าวอ้างว่ากองทัพไทยอาจมีการใช้อาวุธเคมีและสารพิษในการปฏิบัติการทางทหารนั้น

กองทัพภาคที่ 2 ขอเรียนว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง ฝ่ายไทยไม่เคยมีนโยบาย และไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธเคมีหรือแก๊สพิษ ในการปฏิบัติการทางทหารแต่อย่างใด การนำเสนอข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงการบิดเบือนข้อเท็จจริง ซึ่งอาจมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชนภายในกัมพูชาเอง

ประเทศไทยยึดมั่นอย่างเคร่งครัดต่อพันธกรณีตามอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention - CWC) และไม่เคยมีการพัฒนา ผลิต ครอบครอง หรือใช้อาวุธเคมีในทุกกรณี อีกทั้งยังให้ความสำคัญต่อหลักมนุษยธรรมและการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

“กัมพูชาละเมิด! ไทยชูหลักฐานต่อยูเอ็น – พิทักษ์เอกราชด้วยความชอบธรรมแห่งกฎหมาย”
ไทยยื่นหลักฐานการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยกัมพูชาต่อเลขาธิการสหประชาชาติ ย้ำความมุ่งมั่นแก้ปัญหาโดยสันติ

วันที่ 28 ส.ค.2568 นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เข้าพบหารือกับนาย António Guterres เลขาธิการสหประชาชาติ เกี่ยวกับสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา

ประเด็นสำคัญของการหารือคือ การขอรับคำชี้แจงอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยกัมพูชา ซึ่งประเทศไทยดำเนินการตามข้อบทที่ 8 วรรค 2 ของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา เอกอัครราชทูตฯ ได้มอบหลักฐานเชิงประจักษ์และเอกสารประกอบ

นอกเหนือจากเอกสารดังกล่าว คณะผู้แทนไทยได้แสดงหลักฐานภาพเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาที่แสดงวิธีการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและลักลอบฝังทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในเขตแดนไทย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ส.ค.2568 ส่งผลให้มีจำนวนทหารที่ ต้องสูญเสียอวัยวะสำคัญต่อการปฏิบัติหน้าที่ทหารอาชีพ 6 นาย

นอกจากนี้ ได้หยิบยกสถานการณ์ภายหลังการบรรลุความตกลงหยุดยิง พร้อมแสดงความขอบคุณประธานอาเซียนสำหรับการอำนวยความสะดวกดังกล่าว และยืนยันความยึดมั่นในการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวถึงความท้าทายหลายประการ รวมถึงการยั่วยุและเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่บ่อนทำลายความมั่นคง

แต่ท่ามกลางความท้าทาย ยังมีพัฒนาการเชิงบวกจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ครั้งล่าสุด 1 วันก่อนหน้า ซึ่งนำมาสู่ข้อตกลง 11 ข้อ เพื่อลดความตึงเครียดทางการทหารและส่งเสริมการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยในการขับเคลื่อนกลไกการหารือทวิภาคี

เลขาธิการสหประชาชาติได้รับทราบหลักฐานที่ไทยนำเสนอและให้ความมั่นใจว่าจะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเหมาะสม โดยหน่วยงานด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของสหประชาชาติ (United Nations Mine Action Service: UNMAS) พร้อมให้การสนับสนุนการเก็บกู้ทุ่นระเบิด อีกทั้งยังชื่นชมการแก้ไขปัญหาอย่างสันติของประเทศไทยผ่านช่องทางทวิภาคีและพหุภาคีอย่างต่อเนื่อง และขอให้ทั้งสองฝ่ายหารืออย่างสร้างสรรค์ต่อไป

สรุปสถานการณ์ผู้ได้รับผลกระทบ (ยอดสะสมถึงวันที่ 30 ส.ค.2568)
1.พลเรือน / เสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 39 ราย รวมทั้งสิ้น 53 ราย
2.ทหาร / เสียชีวิต 18 นาย บาดเจ็บ 274 นาย รวมทั้งสิ้น 292 นาย

วันที่ 30 ส.ค. กองกำลังบูรพา ฉก.อรัญประเทศ ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองพันทหารม้าที่ 30 เปิดเผยว่า จากการลาดตระเวนในพื้นที่เสี่ยงบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ควบคุมตัวชาวกัมพูชาได้ 38 คน ขณะลักลอบเข้าเมือง โดยพบในไร่อ้อยที่บ้านโนนขี้เหล็ก ต.ผ่านศึก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 2 กิโลเมตร

เป็นชาย 20 คน หญิง 17 คน ติดตามหญิง 1 คน (เด็ก) ทั้งหมดให้การว่า เดินทางมาจากประเทศกัมพูชา และลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อหางานทำในประเทศไทย เนื่องจากฝั่งประเทศกัมพูชา ประสบปัญหารายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต จนยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อมาหาเลี้ยงชีพในต่างแดน เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงวิกฤตเศรษฐกิจ ที่กำลังคุกคามประชาชนชาวกัมพูชาอย่างรุนแรง และเป็นเรื่องที่รัฐบาลกัมพูชา ต้องหันมาให้ความสำคัญเร่งด่วน

อ่านข่าว : ชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยฯ เริ่มแล้ว ยันไม่เอา "ระบอบทักษิณ" ไม่รับ "ชัยสิริ" เป็นนายกฯ

"ภูมิธรรม" ตั้ง ศบ.ทก.หลังปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ เพื่อให้การทำงานต่อเนื่อง

โพลเผย "ดัชนีการเมืองไทย" สิงหาคม 2568 ต่ำในรอบ 20 เดือน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thai PBS

"ภูมิธรรม" รอ ปชน.ร่วมตั้งรัฐบาล ย้ำพรรคร่วมจับมือแน่น

22 นาทีที่แล้ว

คืน 7 ถึงเช้ามืด 8 ก.ย.นี้ "จันทรุปราคาเต็มดวง" สังเกตได้ทั่วฟ้าเมืองไทย

27 นาทีที่แล้ว

"นพ.สมฤกษ์" ยืนยัน "กัญชา" ยังอยู่ในกรอบการแพทย์ แม้เปลี่ยนขั้วรัฐบาล

56 นาทีที่แล้ว

จับตาศึก ไทย-เขมร รับมือสมรภูมิรบรอบ 2 "ตาพระยา-พระวิหาร"

58 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าว การเมือง อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ความคิดเห็นมากที่สุด

ดูเพิ่ม