‘สืบนครบาล’ บุกช่วยสาววัย 24 ปี เหยื่อแก๊งคอลฯ ถูกหลอกโอนเงินสูญกว่า 2.9 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวนนครบาล 3 ได้ร่วมกันช่วยเหลือผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเรียกค่าไถ่เป็นเงินกว่า 2.9 ล้านบาท ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 68 น.ส.โม (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี อาชีพพนักงานประชาสัมพันธ์ บริษัทเอกชนย่านสาทร กทม. ได้รับโทรศัพท์จากแก๊งมิจฉาชีพ โดยทำทีอ้างว่าโทรฯจาก รพ.แห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ติดต่อให้ผู้ปกครองเด็กวัย 3 ขวบนำเงินมาจ่ายค่าผ่าตัดด่วน พอ น.ส.โม ปฏิเสธก็ให้โอนสายคุยกับเจ้าหน้าที่อีกคน ก่อนจะมีการแอดไลน์ตำรวจเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่ผู้ปกครองของเด็กรายดังกล่าว
จากนั้นฝ่ายตำรวจจะขอตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารหลายครั้งหลายหน หากไม่ทำตามก็จะข่มขู่ว่าเอาจะผิด น.ส.โม และครอบครัว ทำให้ น.ส.โม เกิดความหวาดกลัว ยอมทำตามแต่โดยดี กระทั่งมีการโอนเงินไปทั้งหมด 2.9 ล้านบาท โดยกลุ่มมิจฉาชีพยังบังคับให้ น.ส.โม เปิดโทรศัพท์เพื่อพูดคุยตลอดเวลา
อีกทั้งยังให้ย้ายที่อยู่ไปพักอาศัยอยู่ตามโรงแรม เพื่อไม่ให้พบเจอกับญาติพี่น้องหรือกลุ่มเพื่อน จากนั้นก็หลอกเอาเงินจากกลุ่มคนเหล่านี้อีกต่อหนึ่ง ในลักษณะการเรียกค่าไถ่ อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของ น.ส.โม เห็นผิดสังเกตจึงประสานตำรวจเข้าช่วยเหลือขณะอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งพื้นที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โดยเจ้าตัวยังคงเชื่อว่าไม่ได้โดนหลอก ทำให้ครอบครัวและเจ้าหน้าที่ต้องร่วมกันพูดคุยเจรจาให้ได้สติ ก่อนจะไปให้ปากคำกับทางตำรวจต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า เบื้องต้นจากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่าแก๊งมิจฉาชีพนี้เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากประเทศเพื่อนบ้าน และจะเปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงไปเรื่อย ๆ โดยจะเล่นกับความรู้สึกและความหวาดกลัวของเหยื่อ บางครั้งก็จะให้เหยื่อมัดมือมัดเท้าตัวเองและถ่ายรูปไปหลอกครอบครัวเพื่อให้โอนเงินมาให้ ซึ่งตำรวจจะต้องขยายผล รวมถึงส่วนของบัญชีม้าคนไทยอีก 2 บัญชี ที่จะต้องติดตามตัวมาดำเนินคดีด้วย.