ทบ.ชี้ชัดมีหลักฐาน กัมพูชา ละเมิดสัญญา ออตตาวา
เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 9 สิงหาคม 2568 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงข่าวถึงเหตุการณ์กำลังพลของกองร้อยทหารราบที่ 111 ประสบเหตุ เหยียบกับระเบิด ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางบริเวณรอยต่อระหว่าง บ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้ทหารบาดเจ็บ 3 นาย
โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 10.00 น. หน่วยลาดตระเวนซึ่งมีภารกิจเสริมความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนได้เดินทางถึงจุดเกิดเหตุ และประสบกับแรงระเบิด ส่งผลให้ทหารบาดเจ็บ 3 นาย
1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา - ผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด
2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ - พลปืนเล็ก บาดเจ็บที่แขนและด้านหลัง
3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ - พลปืนเล็ก ได้รับแรงอัด ส่งผลกระทบต่อแก้วหู
ผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้รับการปฐมพยาบาลทันทีในพื้นที่ ก่อนจะถูกส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลทหารภาคสนาม โดยเฉพาะ จ่าสิบเอกธานี ถูกส่งตัวเร่งด่วนไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี
พล.ต.วินธัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์นี้อาจทำให้สังคมทั้งในประเทศและระหว่างประเทศตระหนักว่า การใช้อาวุธในพื้นที่ชายแดนยังคงดำเนินอยู่ในลักษณะซ่อนรูป ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการผลักดันมาตรการหยุดยิง และบ่อนทำลายกระบวนการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี พร้อมย้ำว่า หลักฐานที่มีแสดงให้เห็นว่า ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ริเริ่มใช้อาวุธก่อนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา หน่วยทหารช่างได้ดำเนินการ เคลียร์พื้นที่บริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเคยเป็นจุดที่มั่นของฝ่ายทหารกัมพูชา พบ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 จำนวน 18 ทุ่น
16 ทุ่น บรรจุในกระสอบ ยังไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
2 ทุ่น วางแบบเร่งด่วน ไม่ได้ฝังกลบ อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด ใกล้บริเวณบ่อน้ำ
ทั้งหมดได้ถูกเก็บกู้โดยเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว
ยังพบอาวุธสงครามเพิ่มเติม ทั้งลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด และลูกจรวด RPG อีกจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานที่ ชี้ชัดถึงการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ของฝ่ายทหารกัมพูชา ที่ห้ามการใช้ สะสม ผลิต หรือถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างเด็ดขาด
กองทัพบกยืนยันจะดำเนินการอย่างระมัดระวัง พร้อมยึดหลักสันติวิธี แต่จะไม่ละเลยภารกิจในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ.