โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สภาพัฒน์ เปิดข้อมูล "เศรษฐีแลนด์ลอร์ด" มนุษย์ TOP 1% ของประเทศ ถือครองโฉนดที่ดินทั้งหมด เฉลี่ย 1 คน /81 ไร่ มูลค่า 35 ล้าน/คน

Manager Online

อัพเดต 18 สิงหาคม 2568 เวลา 0.26 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

สภาพัฒน์ เปิดผลการศึกษา “การกระจุกตัวของความมั่งคั่งในสังคมไทย” พบ "กลุ่มแลนด์ลอร์ด" (TOP 1%) ถือครองโฉนดที่ดินทั้งหมดในประเทศ เฉลี่ย 1 คน ถือครอง 81 ไร่ มูลค่าเฉลี่ย 35 ล้านบาทต่อคน ยังพบว่า กลุ่ม "TOP 1" ถือครองสูงถึงร้อยละ 16.78 แถมเป็นที่ดินมีมูลค่า สูงถึงร้อยละ 34.91 ยังพบส่วนใหญ่ถือครองโฉนด "ปริมณฑล-ตะวันออก" เพียบ! แถมถือครอง "น.ส. 3 ก.-น.ส. 3" ในภาคตะวันตก-ภาคกลาง อื้อ! เผย "เศรษฐีเมืองกรุง" นิยมลงทุนข้ามถิ่น ถือครองที่ดินในจังหวัดอื่น ร้อยละ 5 ของพื้นที่ประเทศ พบ ที่ดิน "ปทุมธานี นครนายก สมุทรปราการ" ยังเป็นพื้นที่ยอดนิยม

วันนี้ (17 ส.ค.2568) มีรายงานจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สภาพัฒน์ จัดประชุมการระดมความคิดเห็นผลการศึกษาสถานการณ์และบทบาทภาครัฐในการถือครองที่ดินเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อนำเสนอผลการศึกษา เรื่อง การศึกษาความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดินในประเทศไทย

รวมถึงรับฟังข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะเชิงนโยบายจากผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคม ตลอดจนภาคีเครือข่ายต่าง ๆ

อาทิ กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ศาสตราจารย์ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดวงมณี เลาวกุล

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาวิน ศิริประภานุกูล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ณัฐวุฒิ อัศวโกวิทวงศ์ และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

สภาพัฒน์ ชี้แจงถึงถึงความสำคัญของสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดิน ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

และนำไปสู่การเกิดความไม่เป็นธรรมในการเข้าถึงทรัพยากรและเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงข้อจำกัดของการศึกษาประเด็นดังกล่าวในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่มีงานศึกษาที่สำคัญจำนวนน้อยมากในประเทศไทย

เช่น งานศึกษา เรื่อง “การกระจุกตัวของความมั่งคั่งในสังคมไทย” ในปี 2556 ของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดวงมณี เลาวกุล ซึ่งความอนุเคราะห์ข้อมูล จากกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย และกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง

ที่เป็นส่วนสำคัญยิ่งสำหรับการศึกษาในครั้งนี้ ทำให้ผลการศึกษาในครั้งนี้มีความน่าเชื่อถือ

ทั้งนี้ นายมนตรี ภูศรีโสม และนางสาวณัฐวรรณ ชูเฉลิม นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ กองพัฒนาข้อมูลและตัวชี้วัดสังคม ร่วมกันนำเสนอผลการศึกษาและข้อค้นพบจากการศึกษาความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดินในประเทศไทย

โดยมีขอบเขตการศึกษาเฉพาะการถือครองโฉนดที่ดิน น.ส. 3 ก. และ น.ส. 3 ทั้งที่ถือโดยบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งครอบคลุมขนาดพื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมดในประเทศไทย

ผลการศึกษา พบว่า ค่าสัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาคของการถือครองโฉนดที่ดินมีความเหลื่อมล้ำสูงสุด (Gini อยู่ที่ 0.7298) รองลงมาคือ น.ส. 3 ก. และ น.ส. 3

"ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงมาก และหากเทียบกับความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ ในปี 2566 อยู่ที่ 0.417 สูงกว่าเกือบสองเท่า"

ขณะที่หากพิจารณาจากขนาดของที่ดิน กลุ่ม Decile 10 (ถือครองมากที่สุด) มีส่วนแบ่งการถือครองที่ดินสูงกว่ากลุ่ม Decile 1 (ถือครองน้อยที่สุด) อยู่ที่ 710 เท่า และหากพิจารณาจากมูลค่าการถือครองที่ดิน กลุ่ม Decile 10 สูงกว่า Decile 1 อยู่ที่ 348 เท่า

"กลุ่ม Top 1% มีส่วนแบ่งการถือครองที่วัดจากขนาดที่ดินสูงถึงร้อยละ 16.78 ของโฉนดที่ดินทั้งหมดในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งการถือครองที่วัดจากมูลค่าสูงถึงร้อยละ 34.91"

หากวิเคราะห์ในเชิงพื้นที่ ปริมณฑลและภาคตะวันออก มีความเหลื่อมล้ำการถือครองโฉนดที่ดินสูงสุด ส่วนเอกสารสิทธิประเภท น.ส. 3 ก. และ น.ส. 3 ภาคตะวันตกและภาคกลางมีความเหลื่อมล้ำสูงสุด ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังพบว่า นิติบุคคลมีการกระจุกตัวของการถือครอง มากกว่าบุคคลธรรมดา ทั้งด้านขนาดพื้นที่และมูลค่า โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ เช่น ภูเก็ต สมุทรปราการ ชลบุรี สำหรับข้อค้นพบสำคัญ พบว่า

(1) การลงทุนข้ามถิ่น คนกรุงเทพฯ เข้าไปถือครองที่ดินในจังหวัดอื่น ๆ (ไม่รวม กรุงเทพฯ) สูงถึงร้อยละ 5 ของพื้นที่ประเทศไทย และจังหวัดที่คนนิยมไปลงทุนซื้อที่ดิน 3 จังหวัดแรก ได้แก่ ปทุมธานี นครนายก และสมุทรปราการ

(2) คนกลุ่ม Top 1% ถือครองที่ดินค่อนข้างสูง โดยมีที่ดินเฉพาะโฉนดที่ดินเฉลี่ย 81 ไร่ต่อคน และมูลค่าเฉลี่ย 35 ล้านบาทต่อคน

และ (3) รูปแบบการถือครองที่ดินของคนกลุ่ม Top 1% มักถือครองที่ดินในจังหวัดที่อยู่ติดกับจังหวัดที่ตนเองอาศัยอยู่เป็นหลัก และจะลดจำนวนลงเมื่อที่ดินอยู่ห่างจากจังหวัดที่ตนเองอาศัย

ยกเว้นในพื้นที่เศรษฐกิจหรือเมืองใหญ่บางแห่งที่คน Top1% มักไปซื้อที่ดินเก็บไว้เพื่อสะสมทุน

จากนั้นได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นแนวทางการวิเคราะห์และการขยายผลการศึกษาในอนาคต อาทิ

(1) การวิเคราะห์ลักษณะทางสังคมของผู้ถือครองที่ดิน ได้แก่ ความสามารถในการถือครอง (รายได้เฉลี่ย วิธีการได้มาของที่ดิน ฯลฯ)

วัตถุประสงค์การถือครองเพื่อการอยู่อาศัยหรือการประกอบอาชีพ และช่วงอายุ (หรือ Generation) ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการถือครองที่ดิน

(2) การวิเคราะห์เชื่อมโยงกับ “แผนที่ภาษี” ซึ่งจะทำให้เห็นภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินรวมถึงอาคารและสิ่งปลูกสร้างในแต่ละพื้นที่

และ (3) การขยายขอบเขตการศึกษาให้ครอบคลุมประชากรกลุ่มที่ไม่มีที่ดิน ตลอดจนที่ดินประเภทอื่น ๆ ซึ่งอาจรวมถึงการเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ

นอกจากนี้ ยังมีการให้ข้อเสนอแนะในเรื่องการจัดทำนโยบายเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงที่ดินของประชาชนผู้มีรายได้น้อย

โดยควรมุ่งเน้นการปรับปรุงมาตรการภาครัฐให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ทั้งในชนบทและในเขตเมือง อาทิ

(1) การเข้าถึงการใช้ประโยชน์ที่ดินของเอกชนที่มีความยืดหยุ่นและตอบสนองกับความต้องการของประชาชนผ่านภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เหมาะสม

โดยภาครัฐสามารถใช้มาตรการทางภาษีเพื่อดึงดูดให้เอกชนจัดสรรพื้นที่ให้ผู้มีรายได้น้อยได้เข้าใช้ประโยชน์ และนำไปใช้เป็นส่วนลดหย่อนภาษีได้

(2) แนวคิดในการใช้ประโยชน์ที่ดินในแนวตั้ง โดยเฉพาะในเขตเมือง เช่น มาตรการจูงใจเจ้าของอาคารสูงให้จัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งของอาคารเป็นศูนย์อาหารราคาประหยัดสำหรับผู้มีรายได้น้อยเพื่อแลกกับการลดหย่อนภาษี

(3) การเข้าถึงการใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐ ผ่านการกำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ที่ชัดเจน ซึ่งเป็นการผ่อนคลายข้อจำกัดและอนุญาตให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินที่ไม่ได้ใช้ในงานราชการได้

และ (4) การสนับสนุนแนวทางการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐแบบกลุ่ม สหกรณ์ หรือชุมชน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยสร้างความเป็นธรรมและโอกาสที่เท่าเทียมกันในการเข้าถึงที่ดินและทรัพยากรของประเทศได้อย่างยั่งยืน.

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

Scoot เปิดตัวKrisFlyer แลกเที่ยวบิน ขยายเส้นทางสู่เชียงราย-โอกินาว่า-โตเกียว

30 นาทีที่แล้ว

โครตจึ้งสมฉายา!! "ขวัญ อุษามณี" แปลงโฉมเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ สวยเป๊ะทุกมุม

35 นาทีที่แล้ว

"ธีรรัตน์" ลงศรีสะเกษ ช่วยซ่อมบ้านผู้ประสบภัยจากเหตุสะเก็ดระเบิด ย้ำรบ.มุ่งให้ใช้ชีวิตเป็นปกติโดยเร็ว

37 นาทีที่แล้ว

"นฤมล" จับมือกษ.ฟื้นฟูร.ร.พะเยาจากพายุ จ่อนำ Fix it Center ซ่อมเครื่องมือเกษตร-เครื่องใช้ครัวเรือนฟรี

42 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ทบ. ส่งทหารเหล่าแพทย์ M-MCATT ดูแลกำลังพลชายแดน ประเมินสภาพจิตใจหลังการสู้รบ เสริมสร้างความพร้อมทุกมิติ

THE STANDARD

เร่งหาสาเหตุ เครื่องบินเล็กตกที่ภูเก็ต ก่อนถึงสนามบินป่าคลอก

TNews

จีนเตือนหลายมณฑลเฝ้าระวัง ภัยพายุฝน น้ำป่าไหลหลาก และ ธรณีพิบัติภัย

Xinhua

เมียนมาส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงไปจีนกว่า 145,000 ตันใน 2 ปี

Xinhua

อว. จัดพิธีปิดงานและมอบโล่ขอบคุณผู้ร่วมจัดงาน ‘อว.แฟร์ 2025 - มหกรรมวิทย์ฯ 2568’ ตอกย้ำความสำเร็จตลอด 9 วัน สู่การพัฒนากำลังคนและสหวิทยาการรองรับอนาคต

Manager Online

ทำไงดี! สาวคิดไม่ตก พี่เขยยื่นจดหมายให้ ในงานวันเกิด เปิดดูแทบล้มทั้งยืน

Khaosod

แม่ทัพภาค2 พูดแล้ว ชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ เตรียมทำอะไร ยิ่งฟังยิ่งรักท่าน

มุมข่าว

โบสถ์ลายธงชาติ! วัดตรังสุดปัง สะท้อนพลังรักชาติ

มุมข่าว

ข่าวและบทความยอดนิยม

ซัพพอร์ต ‘คนทำงานดูแลผู้สูงอายุ’ ธรรมศาสตร์’ จับมืออบจ.ปทุมธานี ลดอุปสรรค - แก้ปัญหา ‘ภาวะหมดไฟ’

Manager Online

นักวิชาการป้อง 'หมอสุภัทร' หลังจะถูกให้ออกจากราชการ เหตุ ถูกตรวจสอบทุจริตซื้อ ATK วอน“สมศักดิ์”ทบทวน เผย พร้อมรวมตัวแสดงจุดยืน

Manager Online

สถานทูตสหรัฐ ยัน "ไมเคิล" ไม่เกี่ยวทำเนียบขาว เป็นเรื่องของเอกชน ย้ำจุดยืนหนุนหยุดยิงไทย–กัมพูชา

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...