เทรนด์ Pet Humanization จากสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว ได้เปลี่ยนพฤติกรรมเจ้าของอย่างไร
ทุกวันนี้ สัตว์เลี้ยงได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเส้นแบ่งระหว่างความเป็นสัตว์เลี้ยงหรือสมาชิกในครอบครัวเลือนหายไป
เมื่อเราใส่ใจกับอาหารการกินและสุขภาพของตัวเองมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งใส่ใจกับอาหารของเพื่อนรักสี่ขาของเรามากขึ้นเท่านั้น ทำให้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาจึงได้เกิดเทรนด์ที่เรียกว่า Pet Humanization หรือก็คือการปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยงเสมือนมนุษย์ ซึ่งกำลังส่งผลต่อพฤติกรรมการจับจ่ายและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั่วโลก
อีวอนน์ ซู ผู้จัดการทั่วไปของ Hill’s Pet Nutrition ไขปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า เทรนด์ดังกล่าวได้เปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไปอย่างไร
ซูชี้ให้เห็นถึงข้อมูลทางสถิติที่น่าสนใจจากสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ ที่ระบุว่า ปัจจุบันจำนวนครัวเรือนที่มีสัตว์เลี้ยงแซงหน้าจำนวนครัวเรือนที่มีเด็กไปแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ได้แก่กลุ่ม Millennials และ Gen Z ที่เลือกจะมีสัตว์เลี้ยงแทนการมีลูก ทำให้สถานะของสัตว์เลี้ยงในบ้านถูกยกระดับความสำคัญขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ซูกล่าวเพิ่มเติมว่า เทรนด์การปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยงเหมือนคนในครอบครัวมีมานานแล้ว แต่รูปแบบได้เปลี่ยนไป เช่น การพัฒนาของของเล่นและกิจกรรมใหม่ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความผูกพันทางใจกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
ในเวลาเดียวกัน ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ พื้นที่ของสัตว์เลี้ยงในบ้าน ซึ่งในอดีตสุนัขอาจนอนนอกบ้าน ต่อมาก็เข้ามาในบ้าน และตอนนี้อยู่บนเตียงเดียวกับเจ้าของ
ซูอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า เจ้าของยินดีที่จะลงทุนเพื่อความสุข ความสบาย และสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ อุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ ไปจนถึงการจองคิวเสริมสวยตัดขนเป็นประจำ เพราะสำหรับบรรดาเจ้าของแล้วสัตว์เลี้ยงก็กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว
พร้อมกันนี้ เทรนด์ Pet Humanization ยังส่งผลโดยตรงต่อการเลือกซื้ออาหารสัตว์เลี้ยง จากเดิมที่เน้นเพียงส่วนผสมจากธรรมชาติ ตอนนี้ได้เปลี่ยนไปสู่แนวคิดที่ว่า อยากให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารที่ดีเหมือนกับมนุษย์
"เราพบว่าเจ้าของกว่า 75 เปอร์เซ็นต์มักจะทำอะไรบางอย่างกับอาหารเม็ดของสัตว์เลี้ยงเสมอ อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ อย่างการเติมน้ำลงไปในอาหารเม็ด" ซูเล่า "พวกเขาทำสิ่งนี้เพราะต้องการแสดงความรักและอยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสัตว์เลี้ยง เพื่อชดเชยเวลาที่พวกเขาอาจไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน มันคือความรู้สึกของการได้เป็น 'พ่อแม่สัตว์เลี้ยง' ที่ดีที่สุด"
เช่นเดียวกับเทรนด์สุขภาพของคน ที่เริ่มมองว่าอาหารคือยาและเป็นตัวช่วยเสริมประสิทธิภาพร่างกาย เทรนด์นี้ก็เกิดขึ้นกับวงการอาหารสัตว์เช่นกัน จึงได้เกิดกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสูตรเฉพาะทางตรงกับความต้องการพิเศษของสัตว์เลี้ยงที่แตกต่างกัน ไปจนถึงอาหารสำหรับสัตว์ป่วยโดยเฉพาะ
"เรามีอาหารสูตรควบคุมน้ำหนักที่สัตว์เลี้ยงกว่า 96 เปอร์เซ็นต์ที่กินอาหารสูตรนี้ทุกวัน สามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จใน 2 เดือน ซึ่งมักจะมีคนพูดติดตลกว่า 'ทำไมไม่มีอาหารแบบนี้สำหรับคนบ้าง' เหตุผลก็เพราะมนุษย์เราไม่ได้กินอาหารแบบเดิมซ้ำๆ ทุกวันนั่นเอง"
นอกเหนือจากเรื่องสุขภาพแล้ว อีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงและจะทวีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ คือ ความยั่งยืน หรือ Sustainability โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่ใช้ปัจจัยด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและแบรนด์มากขึ้น"
ซูยกตัวอย่างว่ามีบางแบรนด์พัฒนาโปรตีนจากการหมัก (Fermented Protein) เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
สำหรับปรากฏการณ์ Pet Humanization ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า สัตว์เลี้ยงไม่ได้เป็นเพียงเพื่อนแก้เหงาอีกต่อไป แต่เป็นศูนย์กลางของความรักและความเอาใจใส่ที่ผลักดันให้เจ้าของมองหาสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งในด้านโภชนาการ ไลฟ์สไตล์ และความเป็นอยู่ และยังคงเป็นตัวกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องต่อไป
ที่มา: Ipsos
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เทรนด์ Pet Humanization จากสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว ได้เปลี่ยนพฤติกรรมเจ้าของอย่างไร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประวัติวันวิทยาศาสตร์ 2568 ตรงกับวันที่เท่าไร มีความสำคัญอย่างไร
- ซีอีโอ OpenAI ชี้ AI คือโอกาสทองของคนรุ่น Gen Z ท่ามกลางข้อกังวลวิกฤตตกงานรออยู่
- เทรนด์ Pet Humanization จากสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว ได้เปลี่ยนพฤติกรรมเจ้าของอย่างไร
- บาร์บีกอน จัดโปรแรงผู้สูงอายุ 60-84 ลด 50% และ 85+ กินฟรี
- เปิดสูตรลับ การอ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้สนุก เติมเต็มประสบการณ์ที่จะทำให้คุณรักการอ่านมากกว่าเดิม
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath