‘น้ำอ้อย’ หวานชื่นใจ ได้บำรุงสุขภาพ
“น้ำอ้อย” เครื่องดื่มรสชาติหอมหวานถูกใจใครต่อใคร ไม่ได้มีจุดเด่นแค่รสหวานชื่นใจเท่านั้น แต่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน
“สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดฉะเชิงเทรา” มีเกร็ดความรู้มาเล่าสู่กันฟังถึงประโยชน์ของ “น้ำอ้อย” ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ “อ้อย” ว่าเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่แต่ละส่วนของพืชชนิดนี้สามารถใช้เป็นยารักษาโรค และนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย ทั้งลำต้น ข้อต้น เปลือกต้น ชานอ้อย และน้ำอ้อย
ประโยชน์ของ “น้ำอ้อย”
1.ช่วยแก้อาการคอแห้งและอาการกระหายน้ำได้
2.ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงธาตุ
3.ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยรักษาอาการอ่อนเพลีย
4.ช่วยทำให้เจริญอาหาร
5.ช่วยแก้อาการร้อนใน
6.น้ำคั้นสดจากต้นอ้อย มีฤทธิ์ในการยับยั้งมะเร็ง โดยขนาดที่ได้ผลในการฆ่าเซลล์มะเร็ง 50 เปอร์เซ็นต์ คือขนาดความเข้มข้นที่ 1/16 ส่วน
7.ช่วยแก้อาการช้ำใน
8.ช่วยรักษาฝีดูดหนอง แต่ต้องใช้น้ำอ้อยผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นร่วมด้วย
9.ช่วยขับน้ำเหลือง
10.แก้อาเจียน (จากโรคกระเพาะ) ด้วยการใช้น้ำอ้อยสดครึ่งแก้ว ผสมกับน้ำคั้นจากขิงสด 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน แล้วตั้งบนไฟพออุ่น ใช้ดื่มครั้งเดียวให้หมดวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
11.ช่วยรักษาอาการตามืดฟาง โดยใช้ผสมกับสมุนไพรอื่น ๆ
12.ช่วยแก้อาการเมาค้าง มึนงง อ่อนเพลีย รวมถึงมีอาการวิงเวียนศีรษะเพราะนอนน้อย อยากจะอาเจียน ก็ให้ดื่มน้ำอ้อยคั้นสด 1 แก้ว (ห้ามใส่น้ำแข็ง) แล้วอีกครึ่งชั่วโมงก็ให้ดื่มต่อ 1 แก้ว จะช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น
คุณค่าทางโภชนาการของน้ำอ้อย ต่อ 28.35 กรัม
-พลังงาน 26.56 กิโลแคลอรี
-คาร์โบไฮเดรต 27.51 กรัม
-น้ำตาล 26.98 กรัม
-โปรตีน 0.27 กรัม
-ธาตุแคลเซียม 11.23 มิลลิกรัม 1 เปอร์เซ็นต์
-ธาตุเหล็ก 0.37 มิลลิกรัม 3 เปอร์เซ็นต์
-ธาตุโพแทสเซียม 41.96 มิลลิกรัม 1 เปอร์เซ็นต์
-ธาตุโซเดียม 17.01 มิลลิกรัม 1 เปอร์เซ็นต์
ข้อควรระวัง
ถ้าดื่มน้ำอ้อยมากเกินไป อาจทำให้แสลงกับโรคลม อีกทั้งยังทำให้เกิดเสมหะมาก เหนียวคอ เจ็บคอ เสียงแหบแห้ง มีอาการเจ็บลิ้น รวมถึงเป็นร้อนในด้วย และถ้ากินเป็นประจำ ก็จะเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้ ดังนั้นควรดื่มให้พอเหมาะ.