ต้นตอพิพาทที่เขากระโดง เชื่อมโยง2ตระกูล “เจียรพันธุ์-ชิดชอบ”
ความขัดแย้ง 55 ปีระหว่างตระกูล 'เจียรพันธุ์' และ 'ชิดชอบ' กับที่ดิน 'เขากระโดง'
ข้อพิพาทที่ดินเขากระโดงเป็นกรณีที่ซับซ้อนและยืดเยื้อมานานกว่า 5 ทศวรรษ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากข้อตกลงและเอกสารสิทธิ์ที่ผิดปกติ ซึ่งส่งผลให้ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตกไปอยู่ในมือของบุคคลและบริษัทเอกชนในเวลาต่อมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูล "เจียรพันธุ์" และ "ชิดชอบ"
ต้นเหตุความขัดแย้ง: จากสิทธิ 'อาศัย' สู่การออกโฉนด
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 2513 เมื่อ นายยุกต์ เจียรพันธุ์ ถูก รฟท. ฟ้องคดีแพ่งเพื่อโต้แย้งกรรมสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่เขากระโดง และในขณะเดียวกัน นายชัย ชิดชอบ ก็ฟ้องนายยุกต์เพื่อเรียกสิทธิครอบครองที่ดินคืนจากเขาเช่นกัน
ต่อมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2513 ทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาประนีประนอมที่สำนักงานกฎหมายของ รฟท. ซึ่งผลจากการเจรจาได้ข้อสรุปว่า:
นายยุกต์ เจียรพันธุ์ ยอมรับสารภาพต่อศาลว่าที่ดินพิพาทเป็นของ รฟท.
นายชัย ชิดชอบ จ่ายเงิน 25,000 บาท (ในเวลานั้น) ให้กับนายยุกต์ เพื่อให้สละสิทธิครอบครองที่ดินให้แก่นายชัย และนายชัยจะได้รับสิทธิเพียง "อาศัย" ในที่ดินของ รฟท.
อย่างไรก็ตาม เพียง 2 ปีต่อมา (26 ตุลาคม 2515) นายชัยได้นำที่ดินดังกล่าวไป ขอออกโฉนด เลขที่ 3466 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมดที่ยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน
สถานการณ์ปัจจุบันและการทวงคืนที่ดิน
ปัจจุบัน กระทรวงมหาดไทยภายใต้การนำของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.มหาดไทย และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ได้เริ่มปฏิบัติการทวงคืนที่ดินเขากระโดงแล้ว โดยสั่งให้มีการ เพิกถอนโฉนด และเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยมิชอบ และให้ รฟท. ในฐานะเจ้าของที่ดิน ดำเนินการยึดคืนที่ดินทั้งหมดกลับคืนมา
รฟท. ได้เสนอทางเลือก 2 ทางให้แก่ผู้ถือครองเอกสารสิทธิ์ในปัจจุบันคือ
- เจรจาทำสัญญาเช่า ที่ดินอย่างถูกต้อง
- ถูกฟ้องขับไล่ ออกจากพื้นที่
ในขณะที่หลายฝ่ายรวมถึง "ตระกูลชิดชอบ" ออกมาแถลงคัดค้านและเตรียมดำเนินการทางกฎหมายเพื่อต่อสู้ในประเด็นนี้
ตระกูลผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ที่สุด
จากข้อมูลที่เปิดเผยพบว่า ตระกูลและบริษัทที่ถือครองเอกสารสิทธิ์ในที่ดินเขากระโดงมากที่สุดคือ:
บริษัท ธนพาณิชย์ไทย จำกัด (เครือญาติตระกูลเจียรพันธุ์): ถือครองที่ดิน 318 ไร่ 3 งาน
เครือข่ายตระกูลชิดชอบ: ถือครองที่ดินรวมกัน 288 ไร่
ข้อมูลของ บริษัท ธนพาณิชย์ไทย จำกัด จดทะเบียนเมื่อปี 2549 ด้วยทุน 121 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินกิจการคล้ายธนาคารพาณิชย์และให้เช่าพื้นที่ โดยมีกรรมการเป็นบุคคลในตระกูลเจียรพันธุ์ทั้งหมด แม้ว่าบริษัทจะมีรายได้หลักล้านในปี 2567 แต่ในช่วงปี 2563-2566 กลับมีรายได้เพียงหลักร้อยถึงหลักพันเท่านั้น
นอกจากนี้ ตระกูลเจียรพันธุ์ ยังมีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจอื่น ๆ อีกกว่า 19 แห่ง ทั้งอสังหาริมทรัพย์, โรงโม่หิน, การเกษตร และการค้าปลีก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงขนาดและอิทธิพลทางธุรกิจของตระกูลนี้ในพื้นที่
คดีที่ดินเขากระโดงเป็นกรณีศึกษาที่สะท้อนถึงปัญหาการออกเอกสารสิทธิ์ที่ไม่ถูกต้องในอดีต ซึ่งแม้จะเคยมีการพิจารณาโดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในปี 2554 แต่คดีอาญาก็ขาดอายุความไป
การดำเนินการของกระทรวงมหาดไทยในปัจจุบันจึงเป็นความพยายามที่จะแก้ไขความผิดพลาดในอดีตและนำที่ดินของรัฐกลับคืนมา โดยที่ผลลัพธ์สุดท้ายของคดีนี้และแนวทางการดำเนินการของตระกูลผู้ถือครองรายใหญ่ทั้งสองยังคงต้องติดตามต่อไป