ทำชาวบ้านชายแดนผวา เริ่มอพยพแล้ว ไม่รอประกาศจากทางราชการ | ห้องข่าวภาคเที่ยง
17 ดูห้องข่าวภาคเที่ยง - กัมพูชาไม่สนข้อตกลงหยุดยิง ห้ามเคลื่อนกำลังพลประชิดชายแดน ทำชาวบ้านชายแดนผวา อพยพผู้สูงอายุ ผู้ป่วยและเด็กไปอยู่ที่วัด 2 แห่ง ไม่รอประกาศจากทางราชการให้อพยพ ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน ยังคงอยู่อย่างหวาดระแวง ไม่แน่ใจในสถานการณ์ รับรู้ข่าวสารว่าทหารกัมพูชายังคงเสริมกำลังอย่างต่อเนื่อง ประชิดชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ โดยเฉพาะพื้นที่ช่องกร่าง ที่อยู่ระหว่างปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย ทำให้เริ่มอพยพกันแล้วโดยไม่รอทางการประกาศ จุดที่ชาวบ้านอพยพไปคือที่วัดศรีรัตนาราม ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จุดนี้มีชาวบ้านอพยพมาแล้วประมาณ 178 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านโจรก และชาวบ้านไผ่เงิน ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง พาผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ผู้ป่วยติดเตียง และเด็ก ๆ มาขอพักอาศัยกับทางวัด ส่วนที่วัดเทพสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ เป็นวัดอีกแห่งที่มีประชาชนชาวเข้าไปขอพักอาศัย จุดนี้มีประมาณ 200 คน แล้วเช่นกัน ขณะที่ชาวบ้านชายแดนพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี ก็เริ่มอพยพแล้วเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก ไปอยู่ที่ ศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่วัดใน อำเภอเดชอุดม ยอดที่อพยพตอนนี้ประมาณ 200 คน วันนี้ก็จิตอาสานำไอศกรีมไปแจกให้กับเด็ก ๆ ได้รับประทานกัน ทำให้เด็ก ๆ ต่างดีใจ บางคนเดินต่อคิวรับ คนละ 2-3 รอบ และสภากาชาดก็นำข้างสารอาหารแห้ง ของใช้จำเป็นไป แจกจ่ายให้กับชาวบ้าน เพื่อบรรเทาความเครียด เนื่องจากการอพยพออกมา ครอบครัวต้องขาดทั้งรายได้ และลูกหลานก็ไม่ได้ไปโรงเรียน ส่วนที่หมู่บ้านชายแดน อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ผู้นำชุมชนต้องเรียกประชุมลูกบ้าน ทำความเข้าใจสถานการณ์ความไม่สงบ ย้ำตอนนี้ยังไม่มีประกาศอพยพ พร้อมทั้งขอให้รับฟังข่าวสารจากทางราชการ กลุ่มไลน์ และเสียงตามสายเท่านั้น จากการพูดคุยกับชาวบ้าน ตอนนี้อยู่อย่างหวาดกลัว เพราะเห็นรถทหารวิ่งเข้าวิ่งออกทั้งวัน พอได้ยินเสียงฟ้าร้องก็ต้องหวาดผวาเป็นเสียงปืนใหญ่ ชาวบ้านบางส่วนทนไม่ไหวอพยพไปแล้ว ชาวบ้านบางส่วนที่ไม่ได้อพยพออกจากพื้นที่ ยังคงใช้ชีวิตปกติ อย่างคุณลุงศิริ คนนี้ใช้รถกระบตนเองขับตระเวนรับนักเรียนในหมู่บ้าน พาไปส่งโรงเรียนในตัวอำเภอ แทนคนขับรถนักเรียนตัวจริงที่ย้ายออกจากชุมชนไปอยู่บ้านญาติ เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์ ตัวแกบอกจะส่งแบบนี้ไปจนกว่าจะมีคำสั่งให้หยุดเรียน หรือสถานการณ์จะดีขึ้น ส่วนชาวบ้านในพื้นที่บุรีรัมย์ ร้านขายของในหมู่บ้านชายแดน ทั้งร้านขายของชำ ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหารตามสั่ง และร้านขายขนมหวานในหมู่บ้าน พื้นที่ อำเภอบ้านกรวด ซึ่งอยู่ติดชายแดน ยังไม่กล้าเปิดขาย แม้จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ 2 สัปดาห์แล้ว เพราะเกรงว่าหากซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารขาย แล้วเกิดการปะทะกันขึ้นมา ของที่ซื้อไว้จะเน่าเสีย ขาดทุนซ้ำ ตอนนี้ทำได้แต่เพียงเตรียมเสื้อผ้า ข้าวของจำเป็น และเต็มน้ำมันรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเอาไว้ หากเกิดการปะทะขึ้นก็พร้อมจะพาลูกเมียอพยพหนีทันที ขณะที่บางคนก็เริ่มขนของย้ายไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัดแล้ว จนกว่าจะมั่นใจว่าเหตุการณ์ปกติ จึงจะกลับเข้ามาในหมู่บ้านเหมือนเดิม ชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ต่างตัดใจนำวัว-ควาย ไปขายที่ตลาดนัดซื้อขายโค-กระบือ หลังจากตลาดปิดไปในช่วงที่มีการยิงปะทะ วันนี้เปิดขึ้นมาอีกครั้ง จึงคึกคักเป็นพิเศษ พ่อค้าซื้อขายวัว บอกว่า ชาวบ้านที่อยู่ชายแดนนำวัว-ควายมาขายกันเยอะมาก เพราะกลัวว่าจะเกิดการปะทะกันรอบสอง ทำให้วัว-ควายเริ่มล้นตลาด ราคาวัว-ควาย ที่ราคาตกอยู่แล้ว พอมาเจอเหตุยิงปะทะกันอีก ยิ่งทำให้ราคาตกลงกว่าเดิม สอบถามชาวบ้าน บอกว่า เหตุผลที่นำวัว-ควายมาขาย เพราะถ้าอพยพหนี กลัวจะไม่มีใครเลี้ยงวัว-ควาย บางคนเหลือไว้แค่ไม่กี่ตัว บางคนขายจนหมดก็มี กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com #ห้องข่าวภาคเที่ยง #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero
เล่นอัตโนมัติ