(แก้ไข) ธปท.คุมเข้มกันมิจฉาชีพ จำกัดกลุ่มเสี่ยงโอนเงินผ่านดิจิทัลไม่เกินวันละ 50,000 บาท
(แก้ไข) ธปท.คุมเข้มกันมิจฉาชีพ จำกัดกลุ่มเสี่ยงโอนเงินผ่านดิจิทัลไม่เกินวันละ 50,000 บาท
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -19 ส.ค. 68 16:56 น.
ขอแก้ไขพาดหัวข่าว
จาก… ธปท.คุมเข้มกันมิจฉาชีพ เตรียมจำกัดการโอนเงินผ่านระบบดิจิทัลได้ไม่เกินวันละ 50,000 บ. เริ่มสิ้นเดือนนี้
เป็น… ธปท.คุมเข้มกันมิจฉาชีพ จำกัดกลุ่มเสี่ยงโอนเงินผ่านดิจิทัลไม่เกินวันละ 50,000 บาท
เนื้อหาดังนี้
ธปท.ออกแนวทางป้องกันมิจฉาชีพ เล็งจำกัดโอนเงินกลุ่มเสี่ยงผ่านระบบดิจิทัลได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน ประเดิมใช้กับลูกค้าใหม่ภายในส.ค.นี้ ด้านลูกค้าปัจจุบันมีผลสิ้นปี 68 แต่ยังเปิดทางให้แบงก์ออกมาตรการรองรับหากต้องการโอนเงินฉุกเฉินมากกว่ากำหนด
นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการจัดการภัยทุจริตทางการเงินว่า ธปท.ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ยกระดับมาตรการเชิงป้องกัน โดยกำหนดวงเงินการโอนและชำระเงินต่อวันผ่านช่องทางดิจิทัลของลูกค้าบุคคลธรรมดา ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการทำธุรกรรมของลูกค้า เพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและจำกัดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนที่ถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นางอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายหลัก คือ
1.จำกัดไม่ให้มิจฉาชีพสามารถโอนเงินออกจากบัญชีได้ครั้งละจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดได้เร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะกักเงินของผู้เสียหายไว้ได้ทัน
2.จำกัดความเสียหายของประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของมิจฉาชีพ โดยธนาคารจะพิจารณากำหนดวงเงินการโอนและชำระเงินต่อวันให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและพฤติกรรมการทำธุรกรรมในอดีตของลูกค้า โดยวงเงินเริ่มต้นอยู่ที่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน
ทั้งนี้ ธปท.ได้กำหนดให้ธนาคารต้องมีแนวทางลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ต่อลูกค้าด้วย เช่น มีกระบวนการรองรับกรณีลูกค้ามีความจำเป็นฉุกเฉินต้องโอนเงินหรือชำระเงินสูงกว่าวงเงินต่อวันที่โอนได้ โดยให้ธนาคารดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวกับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการ mobile banking หรือ internet banking ภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ และกลุ่มลูกค้าปัจจุบันภายในสิ้นปี 68
อย่างไรก็ตาม ธปท.มุ่งยกระดับการจัดการภัยทุจริตทางการเงินในครั้งนี้ จะช่วยป้องกันและจำกัดความเสียหายของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง หากตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ รวมถึงช่วยให้สามารถกักเงินที่มิจฉาชีพได้มาจากการกระทำความผิดได้ทัน เพื่อเพิ่มโอกาสที่ผู้เสียหายได้รับเงินคืนได้มากขึ้น
รายงาน โดย ภัทราภรณ์ เกียรตินันท์ เรียบเรียง โดย จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช
อีเมล์. charuwan@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ