ปะทะเดือดชายแดน ชาวกัมพูชากว่า 38,000 คน อพยพทิ้งบ้านหนีภัยสู้รบ
การปะทะตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทยดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ส่งผลให้ประชาชนกัมพูชาประมาณ 38,000 คนต้องอพยพออกจากจังหวัดพระวิหาร อุดรมีชัย และโพธิสัตว์ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่าอาหารเริ่มขาดแคลน ส่วนครอบครัวที่พลัดถิ่นหลายรายเผยว่ายังกลับบ้านชั่วคราวเพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงและเก็บของที่เหลือทิ้งไว้
Aljazeera รายงานว่าที่ จังหวัดอุดรมีชัย กัมพูชา ช่วงบ่ายของวันนี้ (26 ก.ค.) มีรายงานยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คนจากทั้งสองฝั่งพรมแดน โดยส่วนใหญ่เป็นพลเรือน เจ้าหน้าที่กัมพูชาระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน ขณะที่มีรายงานว่าประมาณ 20 คนเสียชีวิตในประเทศไทย โครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนในทั้งสองฝั่งของพรมแดนก็ถูกโจมตีในช่วง 3 วันของการสู้รบ
นอกจากนี้ยังรายงานอีกว่า ตามแนวชายแดนฝั่งกัมพูชา การยิงปืนใหญ่และจรวดทำให้พลเรือนต้องอพยพหนีตาย สำหรับผู้พลัดถิ่น อาหารเริ่มขาดแคลน และความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น หลายคนกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของบ้าน สัตว์เลี้ยง และไร่นา ซึ่งเป็นแหล่งดำรงชีพสำคัญในพื้นที่ชายแดนที่ยากจนของกัมพูชา
สำหรับผู้พลัดถิ่น อาหารเริ่มขาดแคลน และความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น หลายคนกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของบ้าน สัตว์เลี้ยง และไร่นา ซึ่งเป็นแหล่งดำรงชีพสำคัญในพื้นที่ชายแดนที่ยากจนของกัมพูชา
ครอบครัวต่าง ๆ ให้สัมภาษณ์กับ AlJazeera ว่า เคยกลับไปที่บ้านชั่วคราวแม้จะมีความเสี่ยง เพียงเพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงและเก็บข้าวของที่ทิ้งไว้ตอนหนีจากการปะทะกัน ส่วนใหญ่กล่าวว่า ความต้องการเร่งด่วนที่สุดขณะนี้ คือ"อาหาร"
ที่จุดพักพิงแห่งที่สองซึ่งชาวกัมพูชาที่พลัดถิ่นรวมตัวกัน หลายคนแสดงความกังวลในลักษณะเดียวกัน โดยกล่าวว่าความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐมีจำกัด ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รายหนึ่งกล่าวว่า ชาวบ้านต่างช่วยกันรวบรวมข้าวและเสบียงอื่น ๆ มาแบ่งปันกันเอง
การตอบโต้ระหว่างไทย-กัมพูชาที่ทวีความรุนแรง
Aljazeera รายงานว่า จากรายงานการสู้รบที่แพร่ขยายไปยังหลายพื้นที่ตามแนวพรมแดน มีประชาชนชาวไทยประมาณ 140,000 คน อพยพหรือถูกอพยพออกจากบ้าน ตามการระบุของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
กองทัพไทยยังได้ประกาศกฎอัยการศึกใน 8 อำเภอตามแนวชายแดน
ในกัมพูชา มีประชาชนประมาณ 38,000 คน ที่ต้องพลัดถิ่นจากบ้านเรือนในจังหวัดพระวิหาร อุดรมีชัย และโพธิสัตว์