สรุปสถานการณ์ล่าสุดชายแดนไทย–กัมพูชา ทหารไทยเสียชีวิตรวม 8 นาย
สถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา ณ เวลา 16.00 น. วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ยังไม่มีรายงานการสูญเสียต่อชีวิตของประชาชนเพิ่มเติม แต่บรรยากาศในพื้นที่ยังตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายยังคงวางกำลังอยู่ในที่ตั้งเดิม เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักตลอดแนวปะทะ ทำให้ไม่มีการเคลื่อนกำลังสำคัญหรือการปะทะเพิ่มเติมจากช่วงเที่ยงของวัน
แม้จะไม่มีเสียงปืนหรือการโจมตีหนักในช่วงเวลานั้น แต่การอพยพประชาชนใน 4 จังหวัดชายแดนยังดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น ท่ามกลางความกังวลว่าจะเกิดความรุนแรงอีกระลอกในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยน
หน่วยงานฝ่ายปกครอง ทหาร และจิตอาสา ยังคงระดมสรรพกำลังเพื่ออพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย โดยตัวเลขผู้พลัดถิ่นที่ได้รับการยืนยันแล้วอยู่ที่ 97,431 คน เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานถึง 9,393 คน
ในจำนวนนี้ จังหวัดสุรินทร์มีการอพยพมากที่สุดถึง 39,350 คน รองลงมาคือศรีสะเกษ 35,009 คน อุบลราชธานี 14,709 คน และบุรีรัมย์ 8,363 คน การเคลื่อนย้ายเหล่านี้ใช้พื้นที่โรงเรียน มหาวิทยาลัย และสนามกีฬาเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน
ในขณะที่ประชาชนเร่งอพยพเพื่อความปลอดภัย พื้นที่บางแห่งกลับต้องเผชิญผลกระทบจากการสู้รบก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะบริเวณบ้านหนองถนน อำเภอละหานทราย และพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดบุรีรัมย์ มีรายงานว่าจรวด BM-21 จำนวน 28 นัดตกในพื้นที่ แม้จะไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บในเหตุการณ์นี้ แต่สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและสิ่งปลูกสร้างของประชาชนในระดับหนึ่ง
เพื่อลดผลกระทบทางมนุษยธรรมในช่วงเวลานี้ จิตอาสาพระราชทานกว่า 2,800 นาย ได้เข้าดำเนินงานช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่พักพิง โดยเฉพาะการขนย้ายสิ่งของจำเป็น การจัดตั้งศูนย์รับบริจาค และการให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง
ขณะเดียวกัน โรงครัวพระราชทานถูกจัดตั้งขึ้นในทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ โดยมีการจัดทำอาหารแจกจ่ายประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมแล้วกว่า 100,000 กล่องภายในระยะเวลาเพียง 3 วัน ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับผู้พลัดถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม
แม้จะไม่มีรายงานการปะทะเพิ่มเติมในช่วงบ่าย แต่สถานการณ์ในภาพรวมยังน่าวิตก โดยล่าสุดมีรายงานว่าทหารไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นายในวันนี้ คือ พลทหารญาณพัฒน์ โคตรสาขา สังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารที่ 3 ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากการสู้รบตลอด 3 วัน เพิ่มขึ้นเป็น 8 นาย
ในวันเดียวกัน มณฑลทหารบกที่ 25 ได้จัดพิธีส่งศพทหารกล้าจำนวน 3 นาย กลับภูมิลำเนาเพื่อประกอบพิธีตามประเพณี ได้แก่ สิบเอกกฤษฎา น้อยโคตร, สิบเอกจิรายุ สิงห์อ้น และสิบเอกนพพล บุญเลิศ ทั้งหมดเป็นทหารจากกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่บริเวณแนวปะทะ
แม้ฝนจะช่วยชะลอความรุนแรงในแนวชายแดนได้ชั่วคราว แต่สถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ภาวะปลอดภัย ทหารทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังในพื้นที่ยุทธศาสตร์ เช่น ภูมะเขือ ช่องตาเฒ่า และปราสาทตาควาย
ท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้ การเฝ้าระวังเชิงรุกจากทุกภาคส่วนและการสนับสนุนประชาชนในพื้นที่จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในระยะต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- F-16–กริพเพนลุยรอบ 2 โจมตีฐานทหารกัมพูชาปราสาทตาควาย
- พลตรีดวง ซอมเนียง เสียชีวิตกลางศึกภูมะเขือ–ช่องตาเฒ่า
- ลาวออกแถลงการณ์ห่วงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา หนุนแก้ปัญหาด้วยสันติ
- กระทรวงต่างประเทศออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีเป้าหมายพลเรือน
- กริพเพ่น (Gripen) ไทยอาจเป็นที่แรกของโลก ที่ใช้ในภารกิจสกัดอาวุธวิถีโค้ง ?