เอาใจช่วยนักเตะเอเชีย / คอลัมน์ “Final Whistle" โดย "ผู้เล่นคนที่ 12"
คอลัมน์ “Final Whistle" โดย "ผู้เล่นคนที่ 12"
หลังได้ตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็เสริมทัพเป็นว่าเล่นทั้งนักเตะรวมถึงเปลี่ยนกุนซือเป็น โธมัส แฟรงค์ หนึ่งในผู้เล่นใหม่ที่น่าสนใจคือ โคตะ ทาคาอิ ที่ย้อนไป 3 ปีก่อนเพิ่งประเดิมเล่นชุดใหญ่ให้ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ในเจลีก แต่ตอนนี้ย้ายสู่ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แล้ว ถือเป็นการก้าวกระโดดอย่างแท้จริงของแนวรับวัย 20 ปีที่ติดทีชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ไปแล้ว 4 นัดและปีหน้าก็จะไปแสดงฝีเท้าในศึก เวิลด์ คัพ 2026
ดังนั้นเรามาดูจุดเริ่มต้นของเจ้าหนูรายนี้กันหน่อยดีกว่าย้อนไปเมื่อเดือนเมษายนปี 2022 หรือราว 2 ปีหลังการระบาดรุนแรงของเชื้อไวรัสโควิด-19 มาตรการความปลอดภัยต่างๆ ถูกยกระดับให้เข้มข้นขึ้นทั่วโลกไม่เว้นการแข่งขันระดับสโมสรของทวีปเอเชียที่ตอนนั้นส่วนใหญ่ต้องเตะสนามกลางโดยรู้จักกันในชื่อรายการ เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก อีลิท ทาคาอิ ติดทัพไปด้วยแต่เป็นในฐานะตัวรุ่งที่รอโอกาส ณ เวลานั้น
กระนั้นก็ตามชีวิตผลักพันแบบก้าวกระโดดปี 2023 ได้ลงเล่นชุดใหญ่เต็มตัว สโมสรให้ความสำคัญกับ ทาคาอิ มากขึ้นพิสูจน์จากเบอร์เสื้อที่เปลี่ยนจาก 29 เป็นเบอร์ 2 จนสิ้นปี 2024 เขาก็ประกาศศักดาด้วยการเป็นหนึ่งในทีมชาติญี่ปุ่น U23 ชุดคว้าแชมป์เอเชียนคัพ ได้เข้าร่วมแข่งขัน โอลิมปิก ที่ปารีส รวมถึงคว้าผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของเจลีกในปีนั้น
สไตล์การเล่นของ ทาคาอิ นั้นเป็นกองหลังที่มีความปราดเปรียวสูง ครองบอลดี และจ่ายบอลจากแดนหลังได้แม่นยำ ถือเป็นเซนเตอร์แบ็กสไตล์โมเดิร์นอย่างแท้จริง ที่ผ่านมานักเตะเอเชียที่อยากไปค้าแข้งยุโรปมักถูกขวางด้วยรูปร่างและพละกำลัง ทว่าเขาสูงถึง 192 เซนติเมตรเลยทีเดียว
กองหลังเอเชียที่ประสบความสำเร็จในยุโรปที่ผ่านมานั้นส่วนใหญ่รูปร่างกำยำทั้ง มายะ โยชิดะ ที่เคยเล่นให้ เซาธ์แฮมป์ตัน รวมถึง คิม มิน-แจ ทีมชาติเกาหลีใต้ของ บาเยิร์น มิวนิค ดังนั้น ทาคาอิ ต้องเข้ายิมเสริมกล้ามเนื้อ แม้ว่าเขาจะอ่านเกมได้ดี แต่ก็ต้องอาศัยเวลาในการจับจังหวะการเล่นบนเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ทาคาอิ ยังเปี่ยมไปด้วยวุฒิภาวะเกินวัยทั้งในและนอกสนาม สะท้อนให้เห็นจากการได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม คาวาซากิ บ่อยครั้ง รวมถึงได้รับการเรียกตัวจาก ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือทีมชาติญี่ปุ่นสม่ำเสมอตลอดปีที่ผ่านมา และมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองในทีมชาติชุดใหญ่ หลังจากที่ทัพซามูไรสามารถคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลกในปี 2026 ได้สำเร็จ
ไม่ใช่แค่นั้นแม้อายุยังน้อยแต่ ทาคาอิ ยังมีประสบการณ์มากมายในระดับทวีป หลังจากมีบทบาทสำคัญในการพา คาวาซากิ เข้ารอบชิงชนะเลิศ เอซีแอล อีลิท เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งทำให้เขาได้เผชิญหน้ากับผู้เล่นอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด, จอห์น ดูราน, อีวาน โทนี่ และ โรแบร์โต ฟิร์มิโน
สาธยายมาขนาดนี้แต่ก็ไม่การันตีว่า ทาคาอิ จะประสบความสำเร็จกับ สเปอร์ส ซึ่งก็ตอบยาก เพราะขนาด ซน ฮึง-มิน กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ก็ไต่เต้าเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับ ฮัมบูร์ก รวมถึง ทาเคฟุสะ คุโบะ ของ เรอัล โซเซียดัด และ อี คัง อิน ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทั้งคู่ก็เคยอยู่ทีมเยาวชนของ บาร์เซโลน่า และ บาเลนเซีย ตามลำดับ ทว่า ทาคาอิ นั้นเป็นการย้ายตรงมาลีกสุดหินอย่างอังกฤษทันที
ผู้เล่นคนสุดท้ายที่ย้ายมาจากเอเชียและกลายเป็นดาวดังในทันทีสำหรับสโมสรฟุตบอลชั้นนำของยุโรปก็คือ ชินจิ คากาวะ ซึ่งย้ายมาร่วมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักจาก เซเรโซ โอซาก้า และกลายมาเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีมที่นำโดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ทันที ซึ่งคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน ได้ 2 สมัยติดต่อกัน
สุดท้ายก็ต้องมาเอาใจช่วย ทาคาอิ ให้ได้รับโอกาสจาก สเปอร์ส มากที่สุด เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าก่อนหน้านี้นักเตะเอเชียแต่ละคนที่แจ้งเกิดขึ้นมักจะไปพัฒนาตัวเองในลีกอย่างเนเธอร์แลนด์หรือเบลเยี่ยมก่อน ไม่ก็ลีกที่แข็งแกร่งกว่าอย่าง บุนเดสลีกา เยอรมัน หรือบางคนย้ายตรงมาลีกดังก็จะต้องถูกปล่อยยืมตัวไปเก็บประสบการณ์ก่อน
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO