จริยธรรมทักษิณ ต้องเจอมาตรฐาน ฮุน เซน!?
เมืองไทย 360 องศา
อาจจะต้องการ “โชว์เหนือ” หรือว่ากลัวถูกเปิดโปงเพิ่มก็ไม่รู้ นายทักษิณ ชินวัตร ถึงได้กล่าวในทำนอง “เหยียดหยาม” และบอกว่าไม่อยากตอบโต้ “คนไร้จริยธรรม” แต่ล่าสุด ก็ถูก ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ตอบโต้กลับมาอย่างเจ็บแสบ อีกดอก โดยเฉพาะคำว่า “ไหนบอกว่าผมเป็นคนไร้จริยธรรม แต่ก็มาพึ่งพาผมถึง19 ปี” และ ยังเปิดโปงอีกว่า คำพูดที่ว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” นั้นลอกมาจากความคิดของอดีตนายกฯกัมพูชา รวมไปถึงยังแฉอีกหลายเรื่อง
แน่นอนว่า สำหรับคนไทยส่วนใหญ่แล้วมองออกว่านี่คือการแตกหัก หักหลังกันเองในเรื่องผลประโยชน์ เพียงแต่ว่าทั้งสองตระกูลนี้ เป็นผู้มีอำนาจในประเทศนั้นจึงทำให้ต้องเชื่อมโยงไปกับผลประโยชน์ของชาติ และกระทบมาถึงประชาชนไปด้วย
แม้ว่าที่ผ่านมาก็มีคนไทยไม่น้อยที่รับรู้เรื่องราวผลประโยชน์ทับซ้อน ซ่อนเงื่อนของ “สองครอบครัวคู่ดองข้ามชาติ” พวกนี้มาแล้ว เพียงแต่ว่า ก็ยังมีคนไทยจำนวนไม่น้อยยังไม่ทราบเรื่องเบื้องหลังความไม่ชอบมาพากลแบบนี้มาก่อน ดังนั้นการที่ทั้งคคู่แตกหักกันแบบนี้ หากมองอีกมุมหนึ่งก็ถือว่าเป็น “ผลดีต่อชาติบ้านเมือง” ขณะเดียวกันอาจจะต้องของคุณ ฮุน เซน ได้เหมือนกันที่ทำให้ได้รับรู้ข้อมูลบางเรื่องที่เป็นเรื่องราว “ดำมืด” มานาน
แม้ว่าบางเรื่องเป็นความจริงที่คนไทยเคยรับรู้มาแล้ว แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่เคยคลุมเครือมาก่อน ก็เพิ่งได้เห็น ได้รู้ออกมาจากปากของ ฮุน เซน และเชื่อว่าจะต้องมีอีกหลายเรื่องที่เขาขยักเอาไว้ และค่อยๆ ปล่อยออกมา ซึ่งเชื่อว่าคนไทยต้องส่งเสียงเชียร์ให้ “แฉออกมาให้หมด” ส่วนจะจริงเท็จแค่ไหนก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป
ล่าสุด วันที่ 20 กรกฎาคม ในเฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา มีการโพสต์ข้อความว่า “ผมอยากจะบอกทักษิณว่าผมเองต่างหากที่ไม่อยากคุยกับทักษิณ เพราะลูกสาวของคุณดูถูกเหยียดหยามผม
“ยิ่งไปกว่านั้น ผมไม่อยากคุยกับคนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดและกำลังเตรียมตัวรับโทษ ดังนั้นอย่ายกตนข่มท่านมากเกินไป ผมพูดกับคุณแล้วไม่มีประโยชน์อะไรกับผมเลย ข้อสังเกตของผมคือ ตั้งแต่ทักษิณเข้ามาสู่วงการการเมืองไทย ประเทศไทยก็วุ่นวายมากตั้งแต่ก่อนรัฐประหารปี 2549 และผมไม่อยากพูดถึงเรื่องที่ทักษิณดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ไทย มันเป็นคำพูดที่หยาบคายและรุนแรงมาก ไม่เหมาะสมที่จะพูด เป็นการทำร้ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น แต่พวกคุณทุกคนยอมรับว่าเป็นความจริง”
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณบอกว่าผู้นำกัมพูชาไม่มีศีลธรรม นี่เป็นการดูหมิ่นอย่างรุนแรง เหมือนกับที่ลูกสาวของคุณดูหมิ่นผู้นำกัมพูชาว่า ไม่เป็นมืออาชีพ ซึ่งเป็นสาเหตุของความโกรธแค้นของชาวกัมพูชา
“ผมอยากถามคุณว่าถ้าผมไม่มีศีลธรรม ทำไมคุณถึงพึ่งพาผมมา 19 ปี (2549-2568) คุณฟังคำแนะนำของผม แถมยังเรียกผมว่าเป็นหัวหน้าพรรคหมายเลข 1 อีกด้วย คุณจำได้ไหม การเตรียมการของพรรคเพื่อไทยสำหรับการเลือกตั้งปี 2554 นอกจากแนวคิดบางอย่างแล้ว ยังมีทฤษฎีหนึ่งด้วย “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” นั่นคือความคิดของผม ซึ่งผมขอเตือนความจำคุณอีกครั้ง”
ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมไม่ได้กล่าวถึง รวมถึงการแต่งตั้งบุคคลในรัฐบาล
ข้อกล่าวหาที่ว่าเขาครอบงำพรรคเพื่อไทยนั้นเป็นความจริง รวมถึงการหักหลังพรรคภูมิใจไทย ซึ่งทั้งหมดเป็นความคิดของเขาเอง ไม่ใช่ของอุ๊งอิ๊งค์”
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการปาฐกถาในงาน “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทยสู้วิกฤตโลก” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตอนหนึ่งว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นกับกัมพูชา ผมก็แปลกใจ ผู้นำเขมร ไอ้นั่นมันไร้จริยธรรมจะตาย แต่เรากลับไปเข้าข้างมัน ผมงงว่าทำไมวันนี้คนไทยไม่รักกัน ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิด ไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกเขาทำกัน แต่ว่าเรากลับอื้ม… โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคเพิ่งหลุดออกไปจากรัฐบาลนี้ ก็กลับมามองว่าเป็นการขายชาติ เลยไม่รู้ว่าตกลงเขาเป็นเขมรหรือเป็นไทย ไม่แน่ใจ”
และล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ ที่ จ.นครราชสีมา เหน็บแนม ฮุนเซน ว่า ตนจะไม่คุยส่วนตัวกับผู้นำกัมพูชาอีก เพราะกลัวอัดเทป
ถึงได้บอกว่า ความขัดแย้ง “หักหลัง”กันระหว่างสองคนนี้ เป็นผลดีกับคนไทย และทั้งคนกัมพูชาด้วยซ้ำไป เพียงแต่ว่าต้องระวังไม่ให้ถูกลากทั้งคนไทย และบ้านเมืองลงไปให้กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างสองคนนี้ก็แล้วกัน ที่สำคัญอย่าให้คนพวกนี้ลาก “คนไทยเป็นตัวประกัน” เป็นอันขาด
แน่นอนว่า การเปิดโปงของ นายฮุน เซน เที่ยวนี้เพิ่มแรงสั่นสะเทือนให้กับนายทักษิณ ชินวัตร ครอบครัวชินวัตร รวมไปถึงยิ่งกระทบต่อความน่าเชื่อถือของพวกเขา ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่กำลังถูกพักการปฏิบัติหน้าที่จากกรณี “คลิปฉาว” การสนทนากับ นายฮุนเซน และมีความเสี่ยงสูงที่จะหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน เวลานี้ถือว่าเสถียรภาพของรัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคเพื่อไทย สั่นคลอนอย่างหนัก เนื่องจากมีเสียงปริ่มน้ำ เกินข้างมากมาแค่กวาสิบเสียงเท่านั้น ทำให้ที่ผ่านมาองค์ประชุมล่มแทบจะทุกสัปดาห์ จนต้องชิงปิดประชุมหลายครั้ง จนส่งผลกระทบต่อการเสนอกฎหมายสำคัญที่รัฐบาลต้องถอยร่นออกมา โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการเงินที่มีความเสี่ยง อย่าง กฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้าน ยังไม่เป็นเอกภาพในพรรคร่วมรัฐบาล แต่เหตุผลหลักที่ต้องถอนออกมา เป็นเพราะกลัวไม่ผ่าน และผลที่ตามมาจะเสียหายหนัก เนื่องจากมีสองทางเลือกคือ นายกฯไม่ลาออกก็ต้องยุบสภา ซึ่งทั้งพรรคเพื่อไทย และ นายทักษิณ ยังไม่กล้า เพราะยังต้องลุ้นหลายเรื่องที่มีความเสี่ยงคุก และตำแหน่งทั้งสิ้น
ดังนั้นหากสรุปแบบรวบยอดในเวลานี้ ในบางความรู้สึกในเวลานี้เหมือนกับว่า “ชอบใจ” กับการเปิดโปงและอารมณ์ของ ฮุน เซน ที่มีต่อ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ในหลายเรื่องทำให้คนไทยได้ตาสว่าง และมีผลทางการเมืองกับครอบครัวชินวัตรอย่างมาก และหากพิจารณากันแบบบ้านๆ สำหรับสองคนนี้ถือว่า “มวยถูกคู่” และ สำหรับนายทักษิณ ต้องเจอกับคนแบบ “ฮุน เซน” นี่แหละ ถึงจะสมน้ำสมเนื้อ จนต้องร้องขอว่า “เอาอีก เอาอีก” อย่าหยุด!!
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO