Mrs Thailand World นครนายก ชี้ "แม่ต้องมีความสุข" พร้อมแนะ 3 แนวทางปลดล็อกความกดดันที่แม่ต้องเผชิญ
ท่ามกลางสถานการณ์ที่คุณแม่ในไทยจำนวนมากต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้า ซึ่งเป็นผลจากความคาดหวังจากสังคม Mrs. Thailand World นครนายก ได้ออกมาจุดประเด็นสำคัญว่า "แม่ต้องมีความสุข" โดยเสนอ 3 แนวทางปลดล็อกความกดดันภายในใจคุณแม่ พร้อมย้ำแนวคิดที่ว่า เบื้องหลังเด็กที่มีความสุขทุกคน ย่อมมีแม่ที่มีความสุขอยู่เสมอ (Behind every happy child, there’s a happy mother) เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแรงสำหรับเด็กทุกคน
คุณชนิตา ศรีดาเกษ เครธอร์น หรือ แซมมี่ Mrs Thailand World นครนายก เปิดเผยถึงสถิติว่า คุณแม่ในไทยประมาณร้อยละ 8.4 จากการสำรวจระดับประเทศ และบางข้อมูลระบุว่าสูงถึง 1 ใน 5 คน ต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทั้งแม่ ลูก และครอบครัว โดยกล่าวเสริมว่า "เบื้องหลังตัวเลขนี้คือ เสียงของแม่หลายคนที่กำลังแบกรับภาระทางอารมณ์ และตั้งคำถามว่า 'การมีความสุขในแบบของตัวเองคือความเห็นแก่ตัวจริงหรือ?'" (อ้างอิง: Panyayong et al. (2013). Postpartum Depression Among Thai Women: A National Survey. Journal of the Medical Association of Thailand, 96(7), 761-767. และงานวิเคราะห์อภิมานในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีรายงานความชุกรวมสูงถึงร้อยละ 22.32)
คุณชนิตา ให้ความเห็นว่า “สังคมมักคาดหวังให้แม่เสียสละ ทุ่มเททุกสิ่งเพื่อลูกและครอบครัว จนความสุขส่วนตัวถูกมองข้าม ซึ่งสร้างภาระหนักอึ้งทางจิตใจ ดังนั้น การที่แม่มีความสุข คือรากฐานสำคัญของการมีครอบครัวที่อบอุ่นและลูกที่มีพัฒนาการที่ดี"
จากประสบการณ์ส่วนตัว คุณชนิตาได้สัมผัสถึงความท้าทายทางจิตใจ และได้ค้นพบว่าการได้ทำในสิ่งที่รัก หรือการได้มีเวลาทำในสิ่งที่เติมเต็มพลังงานให้ตัวเอง คือพื้นที่แห่งความสุขที่สำคัญ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า "การที่แม่ได้มีพื้นที่สำหรับความสนใจส่วนตัว คือการเติมพลังให้ชีวิต เป็นการสร้างความสุขที่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด"
ในฐานะที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ขององค์กร เซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Children Thailand) คุณชนิตาเผยว่า หลังจากที่ได้ทำงานกับเซฟ เดอะ ชิลเดรน พบว่า 'เบื้องหลังเด็กที่มีความสุขทุกคน ย่อมมีแม่ที่มีความสุขอยู่เสมอ' ด้วยเหตุนี้เองทำให้เธอมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อคุณแม่ทุกคน และตัดสินใจใช้ชื่อว่า Sammy Save the Mothers ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นส่วนหนึ่งของ Save the Children โดยเน้นการช่วยเหลือและสร้างความสุขให้กับคุณแม่โดยเฉพาะ ด้วยความเชื่อว่า การสร้างความสุขให้แม่ คือการสร้างรากฐานที่แข็งแรงที่สุดเพื่ออนาคตที่ดีของเด็กๆ ทุกคน
จากการได้ข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับงานสุขภาพ กระทรวงสาธารสุข พบว่ายังมีช่องว่างในระบบสาธารณสุขไทย "แม้ว่าคุณแม่จะมีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต แต่ในปัจจุบัน หากมีอาการเหล่านี้ คุณแม่มักจะถูกส่งต่อไปยังแผนกสูตินรีเวช ซึ่งแพทย์สูติฯ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชโดยตรง และบางครั้งอาจมองข้ามสัญญาณของปัญหาสุขภาพจิตไปได้ นี่คือช่องว่างสำคัญในประเทศไทยที่ต้องได้รับการแก้ไข" เธอเสริมว่า ประเทศไทยยังคงขาดแคลนบุคลากรด้านสุขภาพจิตอย่างมาก โดยมีจิตแพทย์โดยรวมเพียงประมาณ 1.28 คน ต่อประชากร 100,000 คน ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของโลกประมาณ 9 คนต่อประชากร 100,000 คน แสดงให้เห็นว่าการเข้าถึงการดูแลเฉพาะทางยังเป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไป และยากยิ่งกว่าสำหรับคุณแม่
(อ้างอิง: 1. อ้างอิง: กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ณ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 จากรายงาน https://www.thaihealthreport.com/th/articles_detail.php?id=167 2. WHO Mental Health Atlas 2017 https://www.who.int/publications/i/item/who-mental-health-atlas-2017 ดูข้อมูลได้ในหน้า 32 (Table 6.1) ที่ระบุค่า Median of Mental Health Workforce per 100 000 population)
"รัฐบาลควรพิจารณาเร่งรัดการสร้างบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตให้เพียงพอ และพัฒนาระบบการคัดกรองและการส่งต่อผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณแม่ทุกคนสามารถเข้าถึงการดูแลที่เหมาะสมได้โดยไม่ถูกมองข้าม" คุณชนิตากล่าวเรียกร้อง
Mrs Thailand World นครนายก ได้ให้ 3 คำแนะนำที่คุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อสนับสนุนให้คุณแม่ทุกคนค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง
สำรวจใจตัวเอง ความสุขเริ่มต้นที่ความเข้าใจ "แม่ต้องถามตัวเองว่า 'ตอนนี้มีความสุขไหม?' ถ้ายัง อะไรจะทำให้ตัวเองมีความสุข" เธอกล่าวเน้นย้ำว่า การรู้จักและยอมรับความต้องการของตัวเองคือจุดเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การสังสรรค์กับเพื่อน หรือการมีเวลาส่วนตัวเพื่อทำกิจกรรมที่รัก สิ่งเหล่านี้คือการลงทุนเพื่อสุขภาพจิตที่ดีของแม่
จัดลำดับความสำคัญ สมดุลชีวิตที่แม่สร้างได้ "การจัดลำดับความสำคัญไม่ได้หมายถึงการทิ้งการดูแลลูกไปเลย" เธอกล่าวเสริม "แต่มันคือการบริหารจัดการเวลาและพลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด" คุณแม่สามารถสร้างสมดุลระหว่างบทบาทหน้าที่กับการดูแลตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าละเลยหน้าที่ หากคุณแม่มีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุขและมีพลังงานเต็มเปี่ยม ก็จะสามารถดูแลลูกและครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มที่กว่าเดิม
สื่อสารกับคนรอบข้าง สร้างความเข้าใจและขอการสนับสนุน เธอให้คำแนะนำว่า "แม่ควรบอกกับคนรอบข้างให้ตระหนักรู้และให้โอกาสแม่ได้ไปมีความสุขบ้าง" นี่คือการเปิดใจพูดคุยกับคู่ชีวิต พ่อของลูก หรือกับปู่ย่าตายายและญาติผู้ใหญ่ ให้เข้าใจว่าแม่เองก็ต้องการเวลาพักผ่อนและเติมพลัง การลดความคาดหวังที่ไม่จำเป็นจากคนรอบข้าง และการได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ จะช่วยลดแรงกดดันทางใจ และทำให้คุณแม่สามารถมีความสุขในแบบของตัวเองได้อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องแบกรับความรู้สึกผิดใดๆ อีกต่อไป
คุณชนิตา ศรีดาเกษ เครธอร์น Mrs. Thailand World นครนายก กล่าวทิ้งท้ายว่า "ถึงเวลาแล้วที่สังคมควรหันมาให้ความสำคัญกับ สุขภาพจิตและการมีความสุขของแม่ เพื่อสร้างครอบครัวที่เข้มแข็ง และสังคมที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน"
การประกวดรอบตัดสิน Mrs. Thailand World เพื่อคัดเลือกตัวแทนประเทศไทยจะจัดขึ้นในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ณ แฟชั่นฮอลล์ แฟชั่นไอส์แลนด์ เวทีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม "Shine Your Aura" มุ่งเฟ้นหาและเชิดชูผู้หญิงที่มีศักยภาพและบทบาทในสังคม โดยเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่สมรสแล้วได้แสดงออกถึงความสามารถ ความคิด และคุณค่าที่เปล่งประกายจากภายใน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างให้กับผู้หญิงคนอื่นๆ ในสังคม และผู้ที่ได้รับตำแหน่ง Mrs Thailand World จะเป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขัน Mrs World ที่เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาต่อไป