BYD เบรกผลิต-ขยายกำลังผลิตในจีน สะท้อนตลาด EV ชะลอตัว l การตลาดเงินล้าน
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกจากจีน เริ่มชะลอการผลิตและเลื่อนแผนการขยายกำลังการผลิตในโรงงานบางแห่งในจีน โดยมีการลดจำนวนกะการทำงาน รวมถึงยกเลิกกะกลางคืนในหลายโรงงาน พร้อมทั้งชะลอแผนติดตั้งสายการผลิตใหม่ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความท้าทายที่บริษัทต้องเผชิญในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังแข่งขันรุนแรง
แม้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา BYD เติบโตอย่างรวดเร็ว จนสามารถแซงหน้า Tesla ขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกได้ แต่แหล่งข่าวภายในเปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทเริ่มเผชิญกับปัญหาสินค้าคงคลังสะสม แม้จะพยายามกระตุ้นยอดขายด้วยการลดราคารุ่นเริ่มต้นเหลือเพียง 55,800 หยวน ประมาณ 7,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ
แหล่งข่าวระบุว่า มีโรงงานอย่างน้อย 4 แห่งที่ลดกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 และบางโรงงานก็เลื่อนแผนการเพิ่มไลน์การผลิตออกไป ทั้งนี้ การตัดสินใจดังกล่าวมีทั้งเพื่อควบคุมต้นทุน และเกิดจากยอดขายที่ไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
BYD มียอดขายรถยนต์ในปีที่แล้วอยู่ที่ 4.27 ล้านคัน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในตลาดจีน และตั้งเป้ายอดขายปีนี้ที่ 5.5 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 30 อย่างไรก็ตาม สัญญาณล่าสุดชี้ว่าการขยายตัวเริ่มชะลอลง
โดยข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีน (CAAM) พบว่า อัตราการเติบโตของการผลิตรถยนต์ของ BYD ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม อยู่ที่ร้อยละ 13 และ ร้อยละ 0.2 ตามลำดับ ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2024
ข้อมูลยังชี้ว่า ปริมาณการผลิตเฉลี่ยในเดือนเมษายนและพฤษภาคมปีนี้ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 ถึง ร้อยละ 29 ถือเป็นสัญญาณเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มการผลิตที่เร่งตัวในปีก่อนหน้า
สถานการณ์สินค้าคงคลังยังเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ โดยผลสำรวจจากสมาคมผู้ค้ารถยนต์จีนระบุว่า ตัวแทนจำหน่ายของ BYD มีรถค้างสต๊อกเฉลี่ยถึง 3.21 เดือน ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาแบรนด์ทั้งหมดในประเทศ ขณะที่ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมอยู่ที่ 1.38 เดือน
ในมณฑลซานตง ตัวแทนจำหน่ายขนาดใหญ่ของ BYD รายหนึ่งถึงกับต้องปิดกิจการ และมีร้านกว่า 20 สาขาถูกทิ้งร้างหรือปิดตัว ตามรายงานของสื่อภาครัฐในจีน
ภายใต้แรงกดดันจากสงครามราคาที่ทวีความรุนแรง ทำให้เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สมาคมผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จีนออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ผู้ผลิตรถยนต์หยุดส่งมอบรถยนต์เกินความต้องการของดีลเลอร์ พร้อมกำหนดเป้าหมายการผลิตให้เหมาะสมกับยอดขายจริง และขอให้มีการจ่ายเงินส่งเสริมการขายคืนภายใน 30 วัน เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่อง
สถานการณ์ในตลาดรถยนต์จีนที่แข่งขันรุนแรงยังทำให้หน่วยงานกำกับดูแลเริ่มเข้ามาตรวจสอบอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวดมากขึ้น หลังแนวโน้มลดราคาต่อเนื่องกดดันทั้งซัพพลายเออร์ ผู้ผลิต และตัวแทนจำหน่ายทั่วทั้งห่วงโซ่
ด้วยเหตุนี้ ผู้ผลิตรถยนต์จีนจำนวนมากรวมถึง BYD จึงหันไปมองตลาดต่างประเทศมากขึ้น เพื่อชดเชยการเติบโตในประเทศที่เริ่มอ่อนแรง โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ BYD มียอดขายรวม 1.76 ล้านคัน โดยประมาณร้อยละ 20 เป็นการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดเคล็ดลับความสำเร็จ การสร้างแบรนด์ PIPATCHARA กับ คุณเพชร ‘ภิพัชรา’ แก้วจินดา
- BYD เบรกผลิต-ขยายกำลังผลิตในจีน สะท้อนตลาด EV ชะลอตัว l การตลาดเงินล้าน
- "คริสปี้ ครีม" ลาขาด "แมคโดนัลด์" ตั้งแต่ 2 ก.ค.เป็นต้นไป l การตลาดเงินล้าน
- "Co-op" ค้าปลีกอังกฤษคว่ำบาตรสินค้าจากอิสราเอล l การตลาดเงินล้าน
- "ศรีจันทร์" ยอดขายพุ่ง 1.6 พันล้าน ดัน T-beauty รุกตลาดโลก l การตลาดเงินล้าน