ผบ.ทสส.แจง กมธ.งบฯ ทหารปราบแก๊งคอลเซนเตอร์-ทุนเทา-ยาเสพติด
วันนี้ (27 มิ.ย.2568) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวในการชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ในส่วนของกองทัพไทย ตอนหนึ่งว่า สถานการณ์ภัยคุกคามในปัจจุบันยังเป็นเรื่องของการแข่งขันการขยายอำนาจ และกำลังทางทหาร ในภูมิภาค รวมถึงภัยคุกคามกลุ่มทุนสีเทา ที่มีความรุนแรงมากขึ้น
- นายกฯ ถกงบ 69 ชู 6 ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน กระตุ้น ศก.เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
- นายกฯ ยันไม่โยกงบฯ 1.57 แสนล้าน แก้ยาเสพติด ตามไอเดีย “ทักษิณ”
- "ณณัฏฐ์" มั่นใจงบฯปี 69 พรรคร่วม หนุนโหวตผ่านฉลุย
ทั้งนี้ บทบาทหน้าที่ของกองทัพไทยในการดำเนินการให้ 3 เหล่าทัพปฏิบัติร่วมกันได้ ในการส่งผ่านข้อมูลกับกองทัพบก สามารถรู้ได้ว่าหน่วยปฏิบัติการกลยุทธ์อยู่ ณ จุดใด รวมถึงมีระบบที่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลได้ซึ่งจะนำไปสู่ภาพรวมการปฏิบัติในกระทรวงกลาโหม และกองบัญชาการกองทัพไทย
สำหรับในงบประมาณปี 2569 กองทัพไทยได้ของบประมาณเพื่อไปดำเนินการเช่นเดียวกันกับ กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เพื่อให้รู้การปฏิบัติงานทั้ง 3 มิติ รวมถึงการปฏิบัติการด้านไซเบอร์
พล.อ.ทรงวิทย์กล่าวว่า โครงการคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีความจำเป็น ซึ่งเป็นโครงการเริ่มตั้งแต่ปี 2568-2570 ซึ่งทุกแพลตฟอร์มของ 3 เหล่าทัพ หากไม่สามารถครองคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ ไม่สามารถติดต่อสื่อสารระบบอาวุธได้ การเอาชนะสงครามในปัจจุบัน ต้องครองคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าให้ได้
สำหรับสถานการณ์ตามแนวชายแดนกองทัพยืนยัน ยึดมั่นตามกฎหมายระหว่างประเทศและเราต้องการการเจรจาในระดับทวิภาคี ทั้งระดับรัฐมนตรีกลาโหม ระดับผู้บัญชาการทหารสูงสุด และระดับกองทัพภาค ซึ่งงบประมาณที่ได้มาจะนำไปขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว จะเห็นได้ว่า เนื้อหาการประชุมจะเพิ่มขึ้นทุกปีเพราะปัญหามีความซับซ้อน อย่างไรก็ตามกองทัพไทยยังเป็นหุ้นส่วนสนับสนุนการสร้างสันติภาพให้กับสหประชาชาติไปประเทศเซาต์ซูดาน
พล.อ.ทรงวิทย์ ยังกล่าวถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ซึ่งยืนยันว่า ไม่สามารถหยุดได้เนื่องจากว่ามีการเปลี่ยนพื้นที่ไปตลอดเวลา ซึ่งการปฏิบัติการในปัจจุบันยังไม่สามารถทำให้คดีการหลอกลวงจากแก๊งคอลเซนเตอร์ลดลงยังต้องอาศัยการปฏิบัติการที่ต่อเนื่อง ซึ่งในเร็ววันนี้จะมีการพูดคุยกับนานาชาติเพื่อขอความร่วมมือในการช่วยกันสนับสนุนปราบปรามโดยจะมีจเรตำรวจแห่งชาตินำทีมปฏิบัติ
สิ่งที่ต้องจัดการก็คือ ตัดคนที่อยู่ในกระบวนการ กลุ่มทุนเทา พร้อมตัดเทคโนโลยี รวมถึงระบบการเงิน การฟอกเงิน หากทำ 3 เรื่องนี้ได้ ปัญหาจะลดลง ซึ่งยืนยันว่ามีการย้ายฐานอยู่ตลอดเวลา
ขณะที่การแก้ไขปัญหายาเสพติด เรามีการกวาดล้างจับกุมได้มากขึ้น แต่ไม่ได้แก้ปัญหา เนื่องจากยาเสพติดผลิตจากนอกประเทศ สิ่งที่ต้องทำ คือ ตัดพลังงานที่ใช้ในการผลิต รวมถึงสารตั้งต้น สำหรับขบวนการค้ามนุษย์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาจับกุมหัวขบวนการใหญ่ได้น้อยมาก
นอกจากนี้ พล.อ.ทรงวิทย์ ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยระบุว่า กรณีสมเด็จฮุนเซน กล่าวถึงศักยภาพกองทัพกัมพูชามีอาวุธยิงพิสัยไกลถึงกรุงเทพฯ แต่ไม่ทำ การสกัดกั้นของกองทัพจะให้ความมั่นใจประชาชนอย่างไรว่า ขอไปฟังรายละเอียดก่อน โดยหน้าที่ทหารทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญรักษาอธิปไตยอยู่แล้ว ทุกเหล่าทัพต้องทำหน้าที่ปกป้องประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นหลักการกว้าง ๆ
เมื่อถามว่า ขณะนี้ดูเหมือนสงครามจิตวิทยาข้ามประเทศ เราจะทำอย่างไรได้บ้าง เพราะเขาก็จะออกมาให้ข้อมูลรายวัน การปั่นกระแสต่าง ๆ ผบ.ทสส.กล่าวว่า โดยหลักการของกองทัพเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องความมั่นคง เราต้องตั้งสติ ตั้งมั่นในกฎระเบียบที่เรามีอยู่ เป็นกำลังใจให้คนที่อยู่หน้าแนวทั้งประชาชนและทหาร ซึ่งเป็นหัวใจหลัก เราไม่สามารถปฏิบัติทางทหารที่ฉุกละหุก โดยไม่คิดรอบด้าน ทั้งนี้ ผบ.เหล่าทัพ เห็นร่วมกันว่า เราต้องคิดอย่างรอบคอบในทุกมิติ ในการปกป้องอธิปไตย
เมื่อถามว่า เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) ที่สภากลาโหมได้มีการเตรียมแผนเผชิญเหตุฉุกเฉิน หากพื้นที่ชายแดนมีการใช้กำลังทางทหาร ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวว่า ยังเป็นการปฏิบัติในระดับกองทัพภาคที่ 2 ต้องถามแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งตนติดตามข้อมูลอยู่ มีการพูดคุยกันที่ ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ถ้าติดตามตรงนั้นจะอัปเดตมากกว่า
พล.อ.ทรงวิทย์ ยังกล่าวถึงเหตุวางระเบิดในพื้นที่เศรษฐกิจจังหวัดภาคใต้ว่า โดยหลักเป็นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้ง ผบ.ตร. ไปเมื่อ 5 วันก่อน ที่ให้ตำรวจเป็นเจ้าหน้าที่หลักในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนในการแจ้งเตือนให้ เจ้าหน้าที่ข่าวทหารและตำรวจ ก็ทำงานร่วมกัน เช่น ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กับ ตำรวจสันติบาล ทำงานร่วมกัน 24 ชั่วโมง ส่วนศูนย์ต่อต้านการก่อการร้าย (ศตก.) ที่มีการฝึกวันนี้ เป็นการฝึกตามปกติ ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษกับตำรวจ คือ อรินทราช และมีอากาศโยธิน เข้ามาร่วมด้วย
เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ทรงวิทย์ ปฏิเสธตอบ เมื่อถามถึงจุดกองทัพ พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าวว่า “จุดยืนกองทัพคือรักษาอธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ”
อ่านข่าว : "ณัฐพงษ์" ติงรัฐบาลจัดงบประมาณปี 69 "ไร้ทิศ-ไร้ทาง-ไร้ภาพ"