รฟท.เข็นรายได้หมื่นล้านปีหน้า รื้อสัญญาเช่าที่ดินเชิงพาณิชย์
นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันรายได้บริหารที่ดินเชิงพาณิชย์ของ รฟท. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมรายได้กว่า 9 พันล้านบาทต่อปี แบ่งเป็น รายได้ที่ดินเชิงพาณิชย์ 3.7 พันล้านบาท และรายได้โดยสารผู้โดยสารและขนส่งสินค้ารวมประมาณ 6 พันล้านบาท ซึ่ง รฟท.คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีรายได้ส่วนของที่ดินเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น และในปี 2569 จะมีรายได้ที่ดินเชิงพาณิชย์สูงถึง 5 พันล้านบาท ดันรายได้รวมของ รฟท.สูงมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) วันที่ 17 ก.ค.นี้ ที่ประชุมบอร์ด รฟท.มีมติอนุมัติทำสัญญากับ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) บริษัทลูกบริหารสินทรัพย์ของ รฟท. ให้รับโอนบริหารที่ดินย่านรัชดา แปลงที่ดิน “อาคารกลาสเฮ้าส์ รัชดา” พื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ซึ่งหมดสัญญาเช่าไปแล้วเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และปัจจุบันขยายสัญญาถึง 31 ก.ค.2568 โดย รฟท.จะทำสัญญาให้ SRTA รับไปเช่าช่วงในวันที่ 1 ส.ค.นี้ และคาดว่า รฟท.จะได้รับเงินค่าเช่าในงวดแรกทันที ซึ่งมีข้อกำหนดรายได้ค่าเช่าไม่ต่ำกว่าเดิมที่เคยได้รับเฉลี่ย 5 ล้านบาทต่อปี
"ตอนนี้การรถไฟฯ กำลังทยอยเริ่มทำสัญญาให้ SRTA นำที่ดินไปบริหารเช่าช่วงต่อ ซึ่งในพื้นที่ย่านรัชดามีสัญญารวมประมาณ 79 สัญญา และกำลังทยอยหมดสัญญาเช่าเดิม ซึ่ง SRTA จะเช่าต่อจากการรถไฟฯ นำไปประเมินที่ดินให้สอดคล้องกับปัจจุบัน ซึ่งราคาที่ดินเพิ่มขึ้นจำนวนมากแล้ว เพราะสัญญาเดิมทำมามากกว่า 10 ปี และเป็นสัญญาที่ประเมินเฉพาะที่ดินเปล่า ไม่รวมสิ่งปลูกสร้าง"
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า สัญญาใหม่เบื้องต้น SRTA ประเมินส่วนของที่ดินอาคารกลาสเฮ้าส์ รัชดา พื้นที่ราว 4 ไร่ มูลค่าที่ดินปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ราว 1 พันล้านบาท และ SRTA ประเมินความคุ้มค่าจะทำสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี โดยสัญญาใหม่นี้ จะประเมินที่ดินรวมสิ่งปลูกสร้าง ก็จะทำให้ รฟท.ได้ค่าเช่าที่ดินเพิ่มเติม รวมทั้งหาก SRTA ได้กำไรก็จะแบ่งส่วนแบ่งรายได้เพิ่มให้กับ รฟท.ด้วย อีกทั้งหลังจากนี้ รฟท.จะทยอยทำสัญญาให้ SRTA เช่าที่ดินแปลงอื่นๆ ย่านรัชดาที่กำลังจะหมดสัญญา โดยถือเป็นที่ดินศักยภาพสูง อยู่ตลอดแนวถนนรัชดา จากแยกเทียมร่วมมิตรสิ้นสุดจุดตัดถนนวิภาวดีรังสิต
ทั้งนี้ รฟท.ยังมีที่ดินศักยภาพสูงเตรียมทำสัญญาให้ SRTA บริหาร จากทั้งหมดประมาณ 1.2 หมื่นสัญญา พบว่าแบ่งเป็น 6 พันสัญญาเป็นสัญญาช่าภายในสถานี และ 6 พันสัญญา เป็นที่ดินสัญญาเช่านอกสถานี โดย รฟท. มีเป้าหมายส่งมอบให้ SRTA นำส่วนของที่ดินสัญญาเช่านอกสถานี 6 พันสัญญาไปบริหาร ทบทวนค่าเช่าให้เป็นปัจจุบัน รวมไปถึงพัฒนาโครงการให้เกิดรายได้เพิ่มเติม อาทิ ที่ดินแปลงสถานีธนบุรี (ตลาดศาลาน้ำร้อน) จะพัฒนาตลาดให้คล้ายตลาดปลาญี่ปุ่น รวมไปถึงแปลงที่ดินย่านพหลโยธิน (เซ็นทรัลลาดพร้าว) ซึ่ง SRTA อยู่ระหว่างศึกษาประเมินราคาที่ดิน เพื่อเจรจาสัญญาใหม่กับผู้เช่า