จากเกาะเซเชลส์ สู่พัทยา สวนนงนุช ปอก “มะพร้าวทะเล” หายาก 9 ลูก พบเมล็ดแฝดรวม 10 เมล็ด มูลค่าทะลุล้าน
จากเกาะเซเชลส์ สู่พัทยา สวนนงนุชพัทยา สร้างความสำเร็จระดับโลก ปลอก “มะพร้าวทะเล” หายาก 9 ลูก พบเมล็ดแฝดรวม 10 เมล็ด มูลค่าทะลุล้านบาท สะท้อนภารกิจอนุรักษ์พันธุ์พืชหายากของไทย สู่เวทีโลก
นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา นำทีมผู้เชี่ยวชาญปลอก “มะพร้าวทะเล” (Coco de Mer) ผลไม้หายากระดับโลกจำนวน 9 ลูก ปรากฏว่า 1 ในนั้น ให้เมล็ดแฝด รวมทั้งหมด เป็น 10 เมล็ด ซึ่งถือเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้ยากอย่างยิ่ง โดยเมล็ดแต่ละเมล็ดมีมูลค่า กว่า 100,000 บาท ทำให้มูลค่ารวมของการเก็บเมล็ดในครั้งนี้ทะลุ กว่า 1 ล้านบาท
สวนนงนุชพัทยา ในฐานะสวนพฤกษศาสตร์ระดับนานาชาติได้รวบรวมพันธุ์ไม้ จากทั่วโลกกว่า 18,000 ชนิด โดย “มะพร้าวทะเล” เป็นหนึ่งในพืชหายากที่ได้รับการดูแลและอนุรักษ์อย่างพิถีพิถัน ปัจจุบันสามารถขยายพันธุ์มะพร้าวทะเลรวมทั้งต้นกล้าได้แล้วกว่า 229 ต้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวยิ่งใหญ่ของวงการพฤกษศาสตร์ไทย ที่ก้าวสู่เวทีโลกอย่างภาคภูมิ
“มะพร้าวทะเล” หรือ “มะพร้าวแฝด” คือปาล์มพันธุ์พิเศษที่หายากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก พบได้เฉพาะบนหมู่เกาะเซเชลส์ ในมหาสมุทรอินเดีย ได้รับการบันทึกใน กินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ดว่า เป็นพืชที่มีเมล็ดใหญ่ที่สุดในโลก
นายกัมพล กล่าวว่า โดยในธรรมชาติ มะพร้าวทะเลต้องใช้เวลานานถึง 60 ปี จึงจะเริ่มออกผล และต้องรออีก 7 ปี ให้ผลสุกเต็มที่ ก่อนเพาะต่ออีก 2 ปี จึงจะเห็นต้นอ่อน แต่ด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมงานสวนนงนุชพัทยา ทำให้สามารถเร่งวงจรชีวิตให้มะพร้าวทะเลออกผลได้ภายไม่เกิน 30 ปี และในบางผลอาจให้เมล็ดมากกว่า 1 เมล็ด เช่นในครั้งนี้ ที่พบเมล็ดแฝด ถือเป็นปรากฏการณ์อันน่าทึ่งที่สะท้อนถึงความสำเร็จของการดูแลและฟื้นฟูพันธุ์พืชหายาก อย่างแท้จริง