โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

แยกไม่ออก AI ป่วนตลาดแรงงาน ใบสมัครเกินครึ่งใช้ ChatGPT

Techhub

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

โลกของการจ้างงานกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเรซูเม่ที่เราคุ้นเคยกันมานานอาจกำลังจะหมดความหมายลงอย่างช้าๆ เพราะ AI ได้เข้ามาป่วนตลาดแรงงาน

เกิดอะไรขึ้น?

ทุกวันนี้ บริษัทต่างๆ กำลังจมอยู่กับกองทัพใบสมัครงานที่สร้างโดย AI จำนวนมหาศาล ข้อมูลล่าสุดจาก The New York Times ระบุว่า แพลตฟอร์มอย่าง LinkedIn มีการส่งใบสมัครสูงถึง 11,000 ครั้งต่อนาที เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 45%

สาเหตุหลักมาจากเครื่องมือ AI อย่าง ChatGPT ที่ช่วยให้ผู้หางานสามารถสร้างเรซูเม่ AI ที่ปรับแต่งให้เข้ากับรายละเอียดของแต่ละตำแหน่งงานได้อย่างสมบูรณ์แบบในเวลาไม่กี่วินาที แค่ใส่คำสั่งง่ายๆ AI ก็สามารถดึงคีย์เวิร์ดทั้งหมดที่บริษัทต้องการมาใส่ในเรซูเม่ได้ทันที ทำให้การส่งใบสมัครที่เคยเป็นเรื่องต้องใช้ความพยายามและความตั้งใจจริง กลายเป็นแค่เกมตัวเลขที่ใครส่งเยอะกว่าก็มีโอกาสมากกว่า

ปัญหานี้หนักหน่วงถึงขั้นที่ว่า บางบริษัทต้องยกเลิกประกาศรับสมัครงานไปเลย เพราะมีใบสมัครส่งเข้ามาเป็นพันๆ ฉบับสำหรับตำแหน่งเดียว แต่กลับหาผู้สมัครที่เหมาะสมจริงๆ ได้ยาก เพราะใบสมัครส่วนใหญ่มีหน้าตาและเนื้อหาคล้ายกันไปหมด จนแยกไม่ออกว่าใครมีความสามารถจริงหรือใครแค่ใช้บอทสมัครงาน

สงครามบอท ในโลกการจ้างงาน

สถานการณ์ปัจจุบันได้ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นสงครามเทคโนโลยี ระหว่างผู้สมัครงานและฝ่ายบุคคล (HR)

ฝั่งผู้สมัครใช้ AI สมัครงาน เพื่อสร้างเรซูเม่และส่งใบสมัครจำนวนมากโดยอัตโนมัติ บางคนถึงกับยอมจ่ายเงินให้ AI Agent ทำหน้าที่หาและสมัครงานแทนทั้งหมด

ฝั่งบริษัท เมื่อถูกถล่มด้วยใบสมัครจำนวนมาก ก็ต้องหันมาใช้ เครื่องมือ AI สำหรับ HR เพื่อช่วยคัดกรองใบสมัครเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ร้านอาหาร Chipotle ใช้แชทบอท AI ที่ชื่อว่า Ava Cado ช่วยลดเวลาในกระบวนการจ้างงานได้ถึง 75%

สุดท้ายแล้ว กระบวนการนี้จึงกลายเป็นเครื่องจักรคุยกับเครื่องจักร โดยที่มนุษย์แทบไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างแท้จริง

ความเสี่ยงที่มากกว่าแค่ใบสมัครล้นระบบ

นอกเหนือจากปริมาณใบสมัครแล้ว การใช้ AI ในการสมัครงาน ยังมาพร้อมกับความเสี่ยงอื่นๆ ที่น่ากังวลเช่น

1.การฉ้อโกงและตัวตนปลอม มีการใช้ AI เพื่อสร้างโปรไฟล์ปลอมในการสมัครงาน และคาดการณ์ว่าภายในปี 2028 ผู้สมัครงาน 1 ใน 4 อาจเป็นตัวตนปลอม

2.การใช้อุบายเพื่อหลอกระบบ โดยมีการค้นพบเทคนิคซ่อนข้อความหรือคำสั่งที่มองไม่เห็นไว้ในใบสมัคร เพื่อหลอกระบบคัดกรองของ AI โดยที่ฝ่ายบุคคลไม่สามารถตรวจจับได้

3.อคติของ AI ระบบ AI ที่ใช้คัดกรองก็ยังมีอคติไม่ต่างจากมนุษย์ โดยมักจะให้น้ำหนักกับชื่อของผู้สมัครที่เป็นผู้ชายผิวขาวมากกว่า ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาการเลือกปฏิบัติและประเด็นทางกฎหมายได้

เมื่อเรซูเม่ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความสามารถหรือความตั้งใจที่แท้จริงอีกต่อไป อนาคตของการจ้างงาน อาจต้องหันไปพึ่งพาวิธีการที่ AI เลียนแบบได้ยาก เช่น

– การทดสอบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (Live Problem-Solving)

– การพิจารณาจากแฟ้มผลงาน (Portfolio Review)

– การให้ทดลองงานในระยะสั้น (Trial Work Periods)

ที่มา

arstechnica


⭐️Techhub รวม How To , Tips เทคนิค อัปเดตทุกวัน

กดดูแบบเต็มๆ ที่ www.techhub.in.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Techhub

ต่อเวลาหมดอายุ อัปเดต Windows 10 เพิ่ม 1 ปี แต่มีเงื่อนไข

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Fujifilm X Half เมื่อเทคโนโลยีดิจิทัลผสานสุนทรียะ สู่ประสบการณ์ฟิล์มในวันวาน

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอทีอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

เตือนภัย AI ทำเศรษฐกิจถดถอย มาแทนพนักงานออฟฟิศ

Techhub

บริการใหม่ LinkedIn ปล่อยเครื่องมือ AI ช่วยหางานที่ใช่ ได้ง่ายขึ้น

Techhub

สุดแปลก หนุ่มสหรัฐ ขอ AI แต่งงาน ด้วยแชตบอท ที่สร้างเอง

Techhub
ดูเพิ่ม
Loading...