“เท้ง” มองไม่อยากดินเนอร์พรรคร่วม เป็นเวทีแบ่งเค้ก โนคอมเมนต์ “ทักษิณ” ร่วม
“เท้ง” มองไม่อยากดินเนอร์พรรคร่วม เป็นเวทีแบ่งเค้ก โนคอมเมนต์ “ทักษิณ” ร่วม เชื่อปชช.รู้ดี จี้ตรวจงบกระตุ้น ศก. หวันถูกโยกใช้หาเสียงไม่อยากให้เป็นเกมส์เอาคืน “ภท.”
วันที่ 22 ก.ค. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะร่วมดินเนอร์กับพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรเป็นพิเศษแต่หวังว่า บทสนทนาที่เกิดขึ้น ในดินเนอร์ นี้น่าจะเป็นสิ่งต่างๆที่รัฐบาลอยากจะผลักดันร่วมกันในฐานะพรรคฝ่ายค้านตนเชื่อว่ามีกฎหมายหลายฉบับที่ตอนนี้พรรคภูมิใจไทยมาอยู่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านแล้ว ดังนั้นถ้าจะมีจุดยืนบางอย่างที่พรรคเพื่อไทยสามารถที่จะผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่นการปฎิรูปกองทัพ หรือกฎหมาย อื่นๆบางฉบับ พวกเราในฐานะพรรคฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะสนับสนุนรัฐบาลในกฎหมายบางฉบับที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และไม่อยากให้วงดินเนอร์นี้เป็นวงที่พูดคุย ในเรื่องการแบ่งเค้กหรือการพยายามที่จะรวมเสียงรัฐบาลให้อยู่ และอยากให้มีการพูดคุยกันในเรื่องผลประโยชน์ประชาชนเป็นตัวตั้ง
เมื่อถามว่ารัฐบาลที่เป็นอยู่ในตอนนี้จะสามารถพูดคุยเรื่องผลประโยชน์ประชาชนมากกว่าการรวมเสียงหรือไม่ นายณัฐพงษ์เผยว่า ถ้าบวกเลขสส.ในสภา แค่ลำพังเสียงของพรรคเพื่อไทยหรือเสียงของพรรคประชาชน 2 พรรค ถ้าเราเห็นด้วยตรงกันในกฎหมาย บางฉบับที่สามารถผลักดันได้ ก็ได้เสียงเกินครึ่งอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในส่วนหนึ่งไม่ว่าพรรคเพื่อไทย จะสามารถคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลได้ อย่างไรก็ตาม กฎหมายหลายๆฉบับไม่ใช่ของคณะรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่ต้องมีมติครม. หรือมติของวิปพรรคร่วมรัฐบาล และอยากจะให้พรรคเพื่อไทยเอง ในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลมองประโยชน์ขอประชาชนเป็นตัวตั้ง กฎหมายแต่ละฉบับที่แม้แต่เป็นสส.พรรคฝ่ายค้านเสนอ แต่ถ้าเป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและเราก็สามารถที่จะผลักดันร่วมกันได้ภายในสภาชุดนี้
เมื่อถามว่าเป็นการตอกย้ำ ว่าที่ผ่านมารัฐบาลอยู่ใต้เงาของนายทักษิณหรือไม่ นายณัฐพงษ์เผยว่า เผยว่าเป็นสิ่งที่สังคมเห็นอยู่แล้วมาโดยตลอด และไม่อยากไปคอมเม้นต์เพิ่มเติมเพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนรับรู้ดีอยู่แล้ว แต่ถามว่าภายใต้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำแบบที่เป็นอยู่และประชาชนค่อนข้างขาดความเชื่อมั่นเพราะรัฐบาลปัจจุบัน สิ่งที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ นอกจากเรื่องการแบ่งสรรปันส่วนผลประโยชน์ทางการเมือง ถ้าสภากลับมาผลักดันกฎหมายบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยส่วนรวม ตนเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชน กลับมาเชื่อมั่นในระบบรับสภามากยิ่งขึ้น
ส่วนในเรื่องของงบประมาณปี 68 ที่รัฐบาลโยกงบกว่า 1.5 แสนล้านแต่ผู้รับเหมามีรายเดียวนั้น เห็นว่ามีความผิดปกติทางการฮั้วหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า หนังสือที่ออกมาจากกรมบัญชีกลางเป็นระเบียบราชการปกติอยุ่แล้วที่ดำเนินการได้ตามระเบียบ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เห็นตามหน้าข่าวว่ามีการริบ งบบางส่วนคืนจากกระทรวงมหาดไทยซึ่งอาจมีข้อสงสัยที่เกิดขึ้นได้ว่าเป็นงบที่ทางภูมิใจไทยตั้งไว้แต่เดิม ซึ่งในส่วนนี้เอง ตนไม่อยากให้เป็นประเด็นการเมือง ที่เอาคืนกัน หากจะมีการริบคืนจริงๆ ก็อยากให้ดูในรายละเอียดว่า ที่มาที่ไปของงประมาณเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่เราจะตรวจสอบต่อไป เมื่อถามย้ำว่ามีที่ริบคืนไปนั้นจะนำไปทำอะไรได้บ้างเพราะมีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่านำไปสำหรับการเลือกตั้ง ตนมองว่ามีความเป็นไปได้ เพราะไม่อยากให้การจัดสรรงบประมาณที่วัตถุประสงค์ตามมติครม. เพื่อเป็นการกระตจุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจไม่อยากให้เป็นงบที่ใช้ในการลงพื้นที่เพื่อเตรียมสู่การเลือกตั้งครั้งหน้า ในส่วนนี้พรรคประชาชนก็ดำเนินการติดตามมาโดยตลอด