โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

Kearney เปิดตัวกลยุทธ์การพัฒนาเมืองสู่การเป็นศูนย์กลางที่มีอิทธิพลระดับโลก เน้นกลยุทธ์เสริมศักยภาพไทยในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

BTimes

อัพเดต 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 22.46 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • อัพเดตข่าวหุ้น ธุรกิจ การเงิน การลงทุน การตลาด การค้า สุขภาพ กับ บัญชา ชุมชัยเวทย์ - BTimes.Biz

ประเทศไทยกำลังก้าวสู่โอกาสสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันระดับโลก และเพิ่มศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) ผ่านการประยุกต์ใช้ Kearney's Global Cities Framework ที่เพิ่งเปิดตัว ผลการศึกษาฉบับใหม่ภายใต้ชื่อ Bridging a fragmented world: the road to becoming a global city นำเสนอแผนการดำเนินงานที่ครอบคลุมและมีความชัดเจนในการปฏิบัติ โดยมุ่งพัฒนาเมืองสู่การเป็นศูนย์กลางที่มีอิทธิพลระดับโลกด้วยกลยุทธ์สำคัญ 8 ประการ

กรอบการทำงานใหม่นี้ต่อยอดมาจาก Kearney's Global Cities Index (GCI) โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การปรับใช้กลยุทธ์ให้เหมาะสมกับบริบท การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การเติบโตอย่างทั่วถึงและครอบคลุม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ได้รวบรวมแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศจากทั่วโลกและกรณีศึกษาต่าง ๆ มาเป็นแนวทางสนับสนุน

กลยุทธ์สำคัญทั้ง 8 ด้านที่จะช่วยยกระดับเมืองสู่การเป็นมหานครระดับโลก แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ส่วนแรกคือวิสัยทัศน์และพันธกิจ ซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางและเป้าหมายโดยรวมของการพัฒนาเมือง ส่วนที่สองคือเสาหลัก ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเมืองสู่การเป็นผู้นำระดับโลก และส่วนสุดท้ายคือปัจจัยสนับสนุน ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่จำเป็น เพื่อให้การดำเนินกลยุทธ์ต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

คุณชาญชัย ถนัดค้าตระกูล กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยของ Kearney ‎กล่าวว่า “Kearney ได้วางกรอบการทำงานด้านเมืองระดับโลก เพื่อวางแผนยุทธศาสตร์ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทย ประกอบกับนโยบายเชิงรุกของภาครัฐและข้อได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ที่มีอยู่ ทำให้กรุงเทพฯ มีศักยภาพพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นทั้งศูนย์กลางระดับภูมิภาคและผู้เล่นสำคัญในเศรษฐกิจโลก”

คุณชาญชัยกล่าวเสริมว่า “ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นความก้าวหน้าของประเทศไทยในสามด้านสำคัญ ได้แก่ เงินทุน บุคลากรที่มีความสามารถ และความร่วมมือ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญต่อขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาว นอกจากการรักษาจุดแข็งพื้นฐานแล้ว กรุงเทพฯ ยังสามารถต่อยอดจุดแข็งเหล่านี้เพื่อสร้างมูลค่าที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกต้องการ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนเช่นปัจจุบัน”

จุดแข็งของกรุงเทพฯ ใน 4 ด้านยุทธศาสตร์หลัก

กรุงเทพฯ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่นใน 4 ด้านสำคัญ ดังนี้:

1. ด้านสังคมและแรงงาน

กรุงเทพฯ มีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ครอบคลุมประชากรถึง 99.9% ในปี 2567 ระบบคลัสเตอร์หน่วยบริการปฐมภูมิ (Primary Care Cluster: PCC) ช่วยกระจายการบริการรอบศูนย์สุขภาพชุมชน ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น ลดความแออัดในโรงพยาบาล และยกระดับคุณภาพการบริการสาธารณสุขโดยรวม ส่งผลให้เมืองมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาความมั่นคงระยะยาว

2. ด้านการท่องเที่ยวและแบรนด์

กรุงเทพฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจยามค่ำคืน ผ่านการดำเนินมาตรการสำคัญหลายด้าน อาทิ การขยายเวลาเปิดให้บริการของสถานประกอบการ การยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย และการปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจและการท่องเที่ยว

การพัฒนากรุงเทพฯ สู่การเป็นศูนย์กลางอาหารระดับโลก ได้ช่วยเสริมสร้างชื่อเสียงและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ โครงการ Michelin Guide Thailand ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ด้วยงบประมาณปีละ 820,000 ดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ได้ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นทั้งภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนในธุรกิจร้านอาหารระดับพรีเมียม ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือ ภายในปี 2565 โครงการนี้สามารถสร้างรายได้สูงถึง 223 ล้านบาท (คิดเป็น 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมากกว่าเงินลงทุนเริ่มต้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้กรุงเทพฯ ก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ

3. ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

การพัฒนาพื้นที่สีเขียวในเมืองสามารถทำได้โดยใช้วิธีการระดมทุนที่สร้างสรรค์ และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลไทยที่สนับสนุนให้สถานที่เอกชน อาทิ อาคารสำนักงาน เปิดพื้นที่สีเขียวให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนจัดซื้อที่ดินขนาดใหญ่

โครงการ “15-Minute Pocket Park” เป็นแนวคิดที่สร้างแรงจูงใจให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นำที่ดินที่ไม่ได้ใช้งานมาพัฒนาเป็นสวนสาธารณะขนาดเล็ก โดยภาครัฐสนับสนุนผ่านมาตรการยกเว้นภาษีและร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนินงาน ซึ่งโครงการนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง แต่ยังส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนและความสมดุลของระบบนิเวศในเมืองอีกด้วย

4. ด้านการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม

ประเทศไทยมีมาตรการจูงใจที่โดดเด่นสำหรับภาคเอกชนในด้านการวิจัยและพัฒนา โดยมีการยกเว้นภาษีสูงสุด 13 ปี สิทธิประโยชน์การหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาถึง 200% รวมถึงความยืดหยุ่นในด้านวีซ่าและการถือครองที่ดิน มาตรการเหล่านี้ไม่เพียงส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรม แต่ยังผลักดันให้กรุงเทพมหานครก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านการวิจัยที่มีศักยภาพสูง

จากผลการศึกษาพบว่า เมืองที่สามารถบูรณาการองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ เงินทุน บุคลากรที่มีความสามารถ ความร่วมมือระหว่างภาคส่วน วิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้า และจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่ง จะสามารถกำหนดทิศทางของตนเองในเวทีโลกได้

สำหรับกรุงเทพฯ เป้าหมายจึงไม่ใช่แค่การเป็นเมืองที่มีความยืดหยุ่นเท่านั้น แต่ต้องมุ่งสู่การเป็นกลไกขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก BTimes

เงินบาทไทยพุ่ง แข็งค่าจัดใน 28 ปี ย้อนวิกฤตต้มยำกุ้ง | คุยกับบัญชา | 11 ก.ค. 68

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

KKP มองสงครามการค้าทรัมป์ ตั้งเก็บภาษีในอัตราสูงกับไทย มีเป้าหมายเพื่อดิสรัปซัพพลายเชนทั้งภูมิภาค จี้จุดที่จีน ห่วงลงทุนชะงัก

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

SCB 10X ลงทุนใน Pokee AI เดินหน้าขับเคลื่อนอนาคตของการทำงานอัตโนมัติด้วย AI

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ฝรั่งเศสปรับชีอิน อ่วมว่า 1,500 ล้านบาท หลอกลวงลดราคา | คุยกับบัญชา | 4 ก.ค. 68

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ททท.ปรับสมดุลโครงสร้างตลาดท่องเที่ยวปี 69 เจาะกลุ่มคุณภาพคาดสร้างรายได้โตเพิ่ม 7%

สยามรัฐ

GULF ซื้อหุ้น AISBB เพิ่มดันถือ 50% จ่อเปลี่ยนชื่อใหม่ ปักหมุดผู้นำคลาวด์-ดิจิทัลครบวงจร

PostToday

'กลุ่มดุสิตธานี'เปิดตัวแบรนด์ใหม่'ดุสิต โฮเทล' รุกตลาดอัปเปอร์อัปสเกลคาดภายใน 2 ปีเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 8 แห่ง

สยามรัฐ

เจาะสงครามกินด่วน! ตี๋น้อยฮิต ลูกค้าวันละ 1.2 แสนคน MK เทหมดหน้าตัก ส่ง 'โบนัสสุกี้' ท้าสู้

MATICHON ONLINE

เงินบาทไทยพุ่ง แข็งค่าจัดใน 28 ปี ย้อนวิกฤตต้มยำกุ้ง | คุยกับบัญชา | 11 ก.ค. 68

BTimes

YLG เผยครึ่งปีแรก 68 ทองคำพุ่ง 25%

Wealth Me Up

15 ก.ค.ลุ้นชื่อผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ จับตา "วิทัย" ตัวเต็ง

Thai PBS

SC โชว์ยอดบ้านหรูไตรมาส 2 โตแรง 118%

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

กูรูมองทองคำมีแนวโน้มพักฐานครั้งใหญ่ กดทองไทยมีโอกาสหลุด 50,000 บาท ในปีนี้ หลังครึ่งปีแรก 2568 ราคาพุ่งขึ้นกว่า 25% ทำนิวไฮหลายครั้ง

BTimes

“จตุพร” ถกทูตพาณิชย์ พาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดจุดจำหน่าย เชื่อมโยงการรับซื้อ สินค้าช่วยผู้ประกอบการ เกษตรกร 

BTimes

เซลส์ฟอร์ซ  แนะองค์กรในประเทศไทยเร่งปรับตัว ลงทุนเพื่อพัฒนาทักษะใหม่ ทันยุคของ Agentic AI

BTimes
ดูเพิ่ม
Loading...