โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

รอดยาก!?

สยามรัฐ

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เป็นเวลา 1 เดือนกว่าที่นางพญา “แพทองธาร ชินวัตร” ต้องระเห็จออกจากห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ด้วยผลพวงของคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี โดยไม่อาจล่วงรู้ว่าวันพิพากษา 29 สิงหาคม 2568 จะได้หวนคืนสู่บัลลังก์นายกรัฐมนตรี หรือแม้กระทั่งสังเวียนการเมืองไทยอีกหรือไม่ และเมื่อไหร่??

จากพลานุภาพปลายปากกาของ สว. ที่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง “แพทองธาร” กับ “สมเด็จฮุน เซน” ดุจดั่งลูกธนูคมกริบทิ่มแทงไปที่ต่อม “จริยธรรม” อันเปราะบางซึ่งกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยผู้ร้องอ้างว่ามี “เหตุแห่งความสัมพันธ์ส่วนตัว” ที่อาจนำไปสู่การไม่ซื่อสัตย์สุจริตและฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง

“ผู้ถูกร้องแสดงออกถึงความนิ่งเฉยและไม่ปฏิบัติหน้าที่โต้ตอบหรือกำหนดมาตรการรวมถึงการเจรจาระหว่างประเทศด้วยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่บุคคลผู้อยู่ในสภาวะ วิสัย และพฤติการณ์แห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีพึงกระทำ เพราะเหตุแห่งความสัมพันธ์ส่วนตัวในลักษณะเป็นฝั่งเดียวกันกับกัมพูชา พร้อมที่จะทำตามหรือจัดการตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการมาโดยตลอด ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 ผู้ถูกร้องเห็นว่าเป็นฝ่ายตรงกันข้าม ผู้ถูกร้องไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม มาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง”

เป็นข้อกล่าวหาที่จี้ไปที่จุดอ่อนที่สุดของเธอ ด้วยมิอาจปฏิเสธสายสัมพันธ์ระหว่าง 2 ตระกูล “ชินวัตร” กับตระกูล “ฮุน” ที่มีมาก่อนหน้านี้

แม้จะมีรายงานออกมาว่า ในเอกสารชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญที่ “แพทองธาร” ยื่นไปเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 จะแสดงเจตนาอันบริสุทธิ์ในการเจรจาที่ยึดตามหลักการทูตก็ตาม แต่จะเพียงพอในการหักล้างข้อกล่าวหาของผู้ร้องหรือไม่ โดยที่องค์คณะผู้พิจารณาจะใช้ดุลพินิจตาม “ข้อเท็จจริง” ที่ปรากฏ และมีอำนาจที่จะแสวงหาข้อเท็จจริงได้เอง ดังนั้น คำชี้แจงของ “แพทองธาร” ที่อ้าง “หลักการเจรจาทางการทูต” นั้น จะมีน้ำหนักมากพอให้ศาลรัฐธรรมนูญเห็นใจหรือไม่ เป็นสิ่งที่หลายฝ่ายจับตา

ลองมาดู “โอกาสรอด” ของ “แพทองธาร” จะเกิดขึ้นได้เพราะอะไรบ้าง

หากทีมกฎหมายของ “แพทองธาร” สามารถชี้แจงและหักล้างข้อกล่าวหาเกี่ยวกับเนื้อหาในคลิปเสียงได้อย่างมีเหตุผลและน้ำหนัก รวมถึงแสดงให้เห็นว่าการกระทำของตนไม่ได้ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือมาตรฐานจริยธรรม

ศาลอาจพิจารณาว่าการสนทนาในคลิปเสียงเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ หรือไม่เข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามที่ถูกกล่าวหา

ความพยายามของพรรคเพื่อไทย เช่น วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส. พรรคเพื่อไทย แสดงความเชื่อมั่นว่า “แพทองธาร” จะ “ได้ไปต่อ” และพรรคไม่กังวลกับคดีนี้

ปัจจัยที่อยู่นอกเหนือเหตุผลใด ๆ คือหมากกลการเมือง “ดีลใหม่” ที่ดูเหมือนว่าจะมีความพยายามปล่อยข่าวออกมาว่า จะทำให้ “แพทองธาร” รอดจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไปด้วยเงื่อนไขต่อรองให้ลาออกเองภายหลังจากนี้ เป็นต้น

ส่วนโอกาส “ไม่รอด” เพราะอะไรในมุมที่จะนำไปสู่การถอดถอน

หากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าพยานหลักฐานที่ ส.ว. นำเสนอ โดยเฉพาะคลิปเสียงและบริบทการสนทนา มีน้ำหนักเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่านางสาวแพทองธารมีพฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หรือฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ (มาตรา 160 และมาตรฐานจริยธรรมปี 2564)

หากศาลตีความว่า "ความสัมพันธ์ส่วนตัว" ที่ปรากฏในคลิปเสียงนั้น มีอิทธิพลหรือชี้นำการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในลักษณะที่ขัดต่อผลประโยชน์ของชาติ หรือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการใช้อำนาจโดยมิชอบ

หากพิจารณาจากแนวคำวินิจฉัยก่อนหน้านี้ของศาลรัฐธรรมนูญในคดีที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมหรือคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อาจเป็นปัจจัยวิเคราะห์ได้ โดยเทียบเคียงกับ กรณีของ เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้จากการแต่งตั้งวิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี โดยนักวิเคราะห์และนักกฎหมายมหาชน มองว่ากรณีของนายเศรษฐานั้นยังเบากว่า “แพทองธาร” เสียอีก แต่ “เศรษฐา” ก็ยังไม่รอด!!

การต่อสู้ในสมรภูมิศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ หาก “ไม่รอด” ก็อาจจะส่งผลกระทบสมการอำนาจของพรรคเพื่อไทย และอาจเกิดการพลิกผันทางการเมืองครั้งใหญ่

แต่หาก “รอด” ดาบศาลรัฐธรรมนูญไปได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า “บัลลังก์นายกรัฐมนตรี” ของนางจะแข็งแกร่ง

ด้วยยังไม่พ้นบ่วงเพราะในคดีเดียวกันนี้ มีผู้ไปยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในข้อกล่าวหาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ที่ ป.ป.ช. มีมติรับสอบแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าจะรอผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นตัวตั้ง ขณะที่ยังมีอีกคดีผิด มาตรา 144 กรณีโยกงบประมาณธนาคารรัฐวงเงิน 35,000 ล้านบาท ไปใส่ไว้ในงบฯ กลางเพื่ออาจจะนำไปใช้ในโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งอยู่ใน ป.ป.ช. เช่นเดียวกัน

ยังไม่นับการบ่มบรรยากาศความไม่พอใจจากมวลชนที่นัดชุมนุมวอร์มอัปกันมาก่อนหน้านี้ ที่ผลพวงของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอาจจุดให้ม็อบลงถนน ทั้งหมดทั้งมวลเส้นทางรอดของ “แพทองธาร” จึงเต็มไปด้วยพงหนาม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

สีไหนใส่แล้วเฮง! "หมอไก่" จัดเต็มตารางสีเสื้อมงคล กันยายนนี้ ห้ามพลาด

20 นาทีที่แล้ว

หนุนศักยภาพเยาวชน! เทศบาลศรีสะเกษ เปิดอบรมกีฬาเด็กและเยาวชน ปั้นสู่เวทีระดับชาติ

27 นาทีที่แล้ว

"เทศบาลเมืองเขาสามยอด" จ่อปรับวัดพระบาทน้ำพุ ปมเก็บศพโดยไม่ได้รับอนุญาต

37 นาทีที่แล้ว

กรมอุตุฯ เตือน! ฉ.4 พายุ “คาจิกิ” เข้าใกล้ไทย ฝนตกหนัก ลมแรง คลื่นสูง

49 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม