โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ราคา “มัตจะ” ในญี่ปุ่นพุ่งสูง กลายเป็นของหายาก หลังผลิตไม่ทันตามความต้องการ

SMART SME

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘มัตจะ’ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่มธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เรื่อยมาถึงยุคปัจจุบันที่กระแสเครื่องดื่มกลายเป็นที่นิยมตามเทรนด์สุขภาพ จนทำให้สินค้าเป็นที่ต้องการสูง ผู้ค้าผลิตไม่ทัน จ่อปรับขึ้นราคาในที่สุด

ตามรายงานของกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ระบุว่าญี่ปุ่นส่งออกชาเขียวคิดเป็นมูลค่า 36,400 ล้านเยน มากกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้ว โดยร้อยละ 44 ถูกส่งไปยังสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นผง เช่น มัตจะ อย่างไรก็ตาม ด้วยความต้องการที่สูงขึ้นทำให้สินค้าขาดตลาด เป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามที่จะแก้ไขเรื่องนี้ โดยพิจารณาที่จะให้เงินอุดหนุนแก่เกษตรกรเพื่อโน้มน้าวใจให้อุทิศพื้นที่ในไร่มาปลูกเทนฉะ ซึ่งเป็นชาประเภทที่ใช้ทำมัตจะ แม้จะได้ผลกำไรมากกว่า แต่ก็ต้องใช้แรงงาน และการดูแลมากกว่าเช่นกัน

ร้านค้าปรับขึ้นราคา

สมาคมชาญี่ปุ่นระดับโลก เผยว่าราคาเทนฉะในงานประมูลฤดูใบไม้ผลิที่เกียวโต พุ่งขึ้น 170% มีราคาประมูลอยู่ที่ 8,235 เยน/กิโลกรัม ซึ่งทำลายสถิติเดิมในปี 2016 ที่มีการประมูลอยู่ที่ 4,862 กิโลกรัม ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ค้าปลีกหลายรายระบุว่าราคามัตจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในปีที่แล้ว และการหาผงในกระป๋องเล็กกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะอยู่ในเมืองโตเกียวก็ตาม

นอกจากนี้ ร้านค้าต่าง ๆ ได้จำกัดจำนวนการซื้อเพื่อให้สินค้ามีสต๊อกอยู่ได้นานมากที่สุด ป้องกันการกักตุน และป้องกันตัวแทนจำหน่ายที่ไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตาม มัตจะ ยังเป็นของฝากยอดนิยมของชาวต่างชาติที่มาเยือนประเทศญี่ปุ่น โดยร้านค้าออนไลน์หลายแบรนด์ถูกขายหมดเมื่อเดือนที่ผ่านมา เช่น ชาวสหรัฐฯ ที่แห่ซื้อของเพิ่มก่อนภาษีศุลกากรจะมีผล

สภาวะคอขวด

การแข่งขันเพื่อจัดหา และผลิตผงมัตจะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ Ito En ผู้จำหน่ายชาเขียวบรรจุขวดรายใหญ่ที่สุดในโลกต้องตั้งแผนกขึ้นมาเฉพาะในเดือนพฤษภาคม โดยบริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายต่างประเทศจะเติบโต 11% ในปีนี้ และจะปรับขึ้นราคาสินค้าบางรายการ 50-100% ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบ และค่าแรงของแรงงานที่สูงขึ้น

Ito En ทำสัญญาเฉพาะกับเกษตรกรรมเพื่อจัดหาชาเขียว 7,000 ตัน/ปี แต่เทนฉะมีจำนวน 600 ตัน เท่านั้น โดย Yasutaka Yokomichi ผู้จัดการฝ่ายมัตจะของ Ito En กล่าวว่า ความนิยมของมัตจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ โรงงานของเรามีงานแน่นขนัด

ในปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนมัตจะอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สาเหตุหลักมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยเฉพาะจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากขึ้น ในขณะที่การผลิตกลับไม่สามารถขยายตัวได้ทันท่วงที

นอกจากนี้ ภาวะโลกร้อนยังเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตในแหล่งเพาะปลูกหลัก ทำให้คุณภาพและปริมาณใบชาลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ราคามัตจะพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และร้านค้าหลายแห่งต้องประกาศจำกัดการขายเพื่อควบคุมสถานการณ์

ที่มา: CNBC

เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...