บุรีรัมย์จ่ายเงินเยียวยาเกษตรกร วัว-หมู โดน BM-21 ตาย
11 ส.ค.68 นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยเภสัชกรหญิง ณัฐรดา ปิจนำ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ , พ.อ.สมโชค จันทาสี รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 , นายสัตวแพทย์อภิชาต สุวรรณชัยรบ ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ , นายตรีรัตน์ หนูแก้วขวัญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด , นายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด และนายรุ่งโรจน์ ทองศรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ เขต 9 ได้ลงพื้นที่ที่ว่าการอำเภอบ้านกรวด เพื่อร่วมกันมอบเงินเยียวยาให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยง โค และสุกร ที่โดนจรวดหลายลำกล้อง BM21 ของฝั่งกัมพูชา ที่ยิงปะทะกับทหารไทยบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วงวันที่ 24 – 28 ก.ค.68 ทำให้โค และสุกร ของเกษตรกรในพื้นที่อำเภอบ้านกรวดตายจำนวน 8 ตัว
โดยเกษตรกรที่โคตายจากเหตุปะทะ ได้รับเงินเยียวยาตัวละ 35,000 บาท สุกรตัวละ 3,000 บาท รวมที่มอบเงินเยียวยาครั้งนี้ 120,000 บาท นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันมอบหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ รวมถึงมอบอาหารเม็ดให้กับผู้เลี้ยงสุนัข และแมว ในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน เกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า วันนี้ทางจังหวัด พร้อมด้วยเหล่ากาชาด ทหาร ปศุสัตว์จังหวัด และอีกหลายหน่วยงาน ได้ร่วมกันมอบเงินเยียวยาเกษตรกรที่โค และสุกร ตายจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 8 ตัว รวมเป็นเงิน 120,000 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร อย่างไรก็ตามหากเกษตรกรรายได้ที่กลับเข้าบ้านเรือนแล้วสำรวจพบว่าสัตว์เลี้ยงของตัวเอง บาดเจ็บล้มตายจากเหตุไม่สงบที่เกิดขึ้น ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเพื่อขอรับการเยียวยาเพิ่มเติมได้
นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการโดนลูกกระสุนปืนใหญ่จำนวน 10 หลัง ขณะนี้อยู่อยู่ระหว่างการซ่อมแซม ซึ่งต้องให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งหลังจากซ่อมแซมเสร็จแล้วก็จะให้เจ้าของบ้านประเมินความพึงพอใจ ว่าพอใจหรือไม่ ซึ่งเป้าหมายบ้านที่ซ่อมเสร็จแล้วจะต้องสามารถให้อยู่อาศัยได้เหมือนเดิม หรือดีกว่าเดิม เช่นเดียวกับรถยนต์หากได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะก็จะซ่อมให้ทั้งหมด ส่วนพื้นที่การเกษตรกรที่ได้รับความเสียหาย ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการสำรวจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลเร่งชดเชยเยียวยาตามระเบียบหลักเกณฑ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนต่อไป ส่วนศูนย์พักพิงที่เปิดรองรับผู้อพยพทั้งจังหวัด 117 แห่ง ตอนนี้ผู้อพยพก็กลับเข้าพื้นที่เกือบทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการปิดศูนย์รอประเมินสถานการณ์อีกสักระยะ
ทั้งนี้ยังได้ประสานทางสาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เยียวยาสภาพจิตใจ ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะที่เกิดขึ้น เพราะบางคนที่เผชิญกับเหตุปะทะ ต้องอพยพทิ้งบ้านเรือนไปหลายวัน อาจจะมีภาวะวิตกกังวล เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปพูดคุยฟื้นฟูสภาพจิตใจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีกำลังใจที่ดีและผ่านพ้นสถานการณ์ดังกล่าวไปได้